บทที่ 722 ผู้รู้ทุกสถานการณ์

The king of War

“สารเลว ข้าจะฆ่าแก!”

หงซิงรู้สึกโกรธมากและรีบพุ่งเข้าใส่หยางเฉิน

“อยากตายนักใช่มั้ย!”

เฉินซิงไห่ก็โกรธมากเช่นกัน โดยที่ไม่รอช้า ผู้แข็งแกร่งสองคนของตระกูลเฉินก็พุ่งเข้าใส่หงซิงทั้งซ้ายและขวา จากนั้นกดเขาลงกับพื้นทันที

“ปล่อยข้า! ปล่อยข้าสิวะ! อยากแย่งตระกูลหงของข้างั้นเหรอ ผ่านศพข้าไปก่อน!”

หงซิงตะโกนส่งเสียงด้วยดวงตาแดงก่ำ

ถ้าหงซิงไม่ได้พาคนมาที่ตระกูลเฉิน หยางเฉินอาจจะปล่อยตระกูลหงไป และหยางเฉินก็ให้โอกาสหงซิงไปแล้ว แต่เขาไม่รักษาเอง แถมยังพาคนมาหาเรื่องถึงที่อีกด้วย

ดังนั้น นับตั้งแต่หงซิงพาคนของตระกูลซุนมา จุดจบของเขาก็ได้กำหนดไว้แล้ว

“คุณไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรนะ แต่ถ้าผมฆ่าคุณทิ้ง ผมจะไม่เสียเงินสักบาท แถมยังได้ตระกูลหงไปด้วย แล้วผมจะปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้ไปได้เหรอ?” หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม

ก่อนหน้านี้ หงซิงอารมณ์ร้อน จึงคิดจะลงไม้ลงมือกับหยางเฉิน

แต่หลังจากที่ถูกคนของตระกูลเฉินกดติดอยู่บนพื้น เขาถึงค่อยๆ ตั้งสติได้

แม้แต่ซุนซวี่ยังต้องนอบน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน แล้วหงซิงจะมีสิทธิ์อะไรมาเจรจาข้อตกลงกับหยางเฉิน?

เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งกว่าสองร้อยคนที่หยางเฉินกักขังก่อนหน้านี้ เกรงว่าการกวาดล้างตระกูลหงคงไม่ใช่ปัญหาอะไรอีก

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้คนชนชั้นสูงกว่าห้าสิบชีวิตของตระกูลหลี และผู้แข็งแกร่งของตระกูลเฉิน

และนอกจากนี้ เกรงว่าหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูคงไม่มีใครกล้าเสนอตัวออกมาเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฉินหรอก?

หงซิงยิ่งคิดก็ยิ่งใจหาย

“คุณหยาง ผมผิดไปแล้วครับ กิจการทุกอย่างของตระกูลหงผมขายให้คุณได้ครับ แต่ผมขอร้องคุณอย่างขับไล่ผมออกจากเยี่ยนตูเลยนะครับ ผมยินดีจะติดตามคุณโดยไม่ขออะไร ผมยินดีจะทำงานให้คุณครับ”

หงซิงพูดอ้อนวอนอย่างกะทันหัน

เขาอยากอยู่กับหยางเฉินจริงๆ เพราะชายหนุ่มที่อาจจะอยู่เหนือกว่าแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูคนนี้ ภูมิหลังของเขาต้องน่ากลัวแน่นอน

ถ้าหากสามารถติดตามคนระดับนี้ได้ ต่อให้ตระกูลหงจะหายไปในวันนี้ วันหน้าเขาก็จะมีโอกาสในการสร้างตระกูลหงขึ้นมาใหม่ได้อยู่แล้ว

หงซิงที่จะฆ่าจะแกงกันก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้กลับขอติดตามหยางเฉินอย่างกะทันหัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ก็ทำให้ผู้คนประหลาดใจไม่เว้นแต่หยางเฉิน

“จะทำงานให้ผม?” หยางเฉินยิ้มถามเขา

หงซิงพยักหน้ารัวๆ “ใช่ครับ! คุณหยางอยากซื้อตระกูลหงของผม ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณคงอยากผลักดันตระกูลเฉินให้อยู่เหนือกว่าเหล่ามหาเศรษฐีจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูใช่ไหมครับ?”

“ผมสามารถขายตระกูลหงให้กับคุณได้ครับ แต่ทุกอย่างของตระกูลหง ผมเป็นคนสร้างมันขึ้นมากับมือ ฉะนั้น ต้องเป็นผมเท่านั้นถึงจะเพิ่งผลกำไรสูงสุดให้กับกิจการของตระกูลหงนะครับ”

“ถ้าหากคุณหยางยินดีรับผมไว้ ครอบครัวตระกูลเฉินจะเติบโตเร็วขึ้นอย่างแน่นอนครับ”

ถือว่าเขาเดาถูกครึ่งหนึ่ง เพราะหลังจากหยางเฉินซื้อตระกูลตระกูลหงไป เขาไม่ได้ตั้งใจจะยกทรัพยากรทั้งหมดให้กับตระกูลเฉิน แต่จะใช้ทรัพยากรเหล่านี้เพื่อส่งเสริมตระกูลหานกับตระกูลกวน

“คุณหยางครับ ถึงแม้บางทีหงซิงจะโอหังอวดดีไปหน่อย แต่เขาก็เป็นคนทำงานคนหนึ่ง เมื่อก่อนอยู่ในตระกูลหลีเขาเป็นคนกล้าคิดกล้าทำ ถ้าเก็บเขาไว้ เขาอาจจะช่วยคุณหยางได้มากเลยนะครับ”

เฉินซิงไห่กระซิบเบา ๆ

หยางเฉินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าเฉินซิงไห่จะพูดแบบนี้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นแล้วว่าหงซิงก็เป็นคนทำงานคนหนึ่ง ไม่อยากนั้นทำไมเฉินซิงไห่ถึงไม่ให้หยางเฉินเก็บผู้นำจากห้าตระกูลพันธมิตรไว้?

แต่ว่า ถ้าเก็บหงซิงคนนี้ไว้ มันจะเกิดภัยอันตรายที่ซ่อนอยู่ไหม?

“แต่แน่นอนครับ จะเก็บเขาไว้หรือไม่ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับคุณหยางครับ!”

เฉินซิงไห่กระซิบพูดอีกครั้ง

ซึ่งเสียงพูดของเขาได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่

หงซิงก็มองไปที่หงซิงอยากคาดหวัง และพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ขอแค่คุณหยางยินดีจะใช้งานผม ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังครับ!”

หานเซี่ยวเทียนกับกวนเจิ้งซานไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ของหงซิง ดังนั้นทั้งสองจึงไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ได้แต่รอการตัดสินใจจากหยางเฉินเท่านั้น

หลังจากเงียบไปสักพัก หยางเฉินก็ถามขึ้นอย่างกะทันหันว่า “แล้วผมจะรับประกันได้ยังไงว่าอนาคตคุณจะไม่ทรยศผม?”

นี่คือสิ่งที่หยางเฉินกังวลที่สุด เพราะถ้าหากเขาตัวคนเดียว เขาไม่จำเป็นต้องกลัวการทรยศของหงซิง แม้แต่การทรยศของคนทั้งโลกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวด้วยซ้ำ

แต่ทุกวันนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ซึ่งเหตุผลที่เขาต้องสนับสนุนครอบครัวเหล่านี้ก็เพื่อจะขยายอำนาจของตนเอง ฉะนั้นด้วยวิธีนี้ เขาจึงจะปกป้องคนรอบกายของเขาได้

และหยางเฉินจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหงซิงเป็นคนฉลาด มองการณ์ไกล แม้เขาจะซื้อทรัพย์สินของครอบครัวตระกูลหงในราคาต่ำ แต่หงซิงยังคิดที่จะทำงานให้กับเขา

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหงซิงนั้นเป็นคนวางแผนในระยะยาว

แต่หงซิงก็ไม่คิดว่าหยางเฉินจะกังวลเกี่ยวกับการทรยศของเขา เขาไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ และตอบไปอย่างรวดเร็วว่า “ต่อให้อนาคตผมจะทรยศคุณหยางจริงๆ แล้วคุณหยางจะไม่มีมาตรการตอบโต้ผมเลยหรือครับ?”

คำตอบของเขาทำให้ทุกคนต้องตะลึง

แต่ว่า คำตอบนี้กลับทำให้หยางเฉินพึงพอใจมาก

ที่สำคัญที่สุด สำหรับคนที่เต็มใจที่จะติดตามหยางเฉิน หยางเฉินจะไม่ทำให้เขาผิดหวังอย่างแน่นอน ต่อให้หงซิงในตอนนี้ยังมีใจที่จะทรยศอยู่บ้าง แต่หยางเฉินเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน เขาสามารถทำให้หงซิงตายใจได้

“ได้ งั้นวันนี้ผมจะให้โอกาสคุณติดตามผม!”

หยางเฉินไม่ได้ลังเลอีกต่อไป เขาตัดสินใจและพูดออกไปในทันที

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หงซิงรู้สึกเหมือนเพ้อฝันอยู่ เดิมทีเขาแค่อยากดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต แต่ไม่คิดเลยว่าหยางเฉินจะตอบตกลงเขาง่ายๆ แบบนี้

“ขอบพระคุณคุณหยาง! ขอบพระคุณคุณหยางมากครับ!”

หงซิงรู้สึกตื้นตันใจมาก

“แล้วก็ สำหรับทรัพย์สินของครอบครัวตระกูลหงก็ไม่เป็นไรแล้ว ผมคืนทุกอย่างให้กับตระกูลหง แต่ผมมีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง ในเมื่อคุณเลือกที่จะติดตามผม คุณจะต้องซื่อสัตย์ต่อผม”

หยางเฉินพูดอย่างหนักแน่นว่า “ถ้าวันหนึ่ง ผมรู้ว่าคุณทรยศผม คุณจะต้องตายอย่างไร้ความปรานี!”

หงซิงถึงกับตกตะลึง เดิมที่หยางเฉินยอมให้เขาติดตามก็เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายแล้ว แต่นี่หยางเฉินกลับไม่เอาทรัพย์สินของครอบครัวตระกูลหงอีกด้วย

“คุณหยาง คุณไม่ต้องกังวลนะครับ ผมหงซิง ในเมื่อเลือกที่จะเป็นคนรับใช้ของคุณแล้ว ต่อให้ผมต้องตายเพื่อคุณ ผมก็จะไม่ทรยศครับ!”

หงซิงให้คำปฏิญาณ

“ยินดีด้วยนะ ท่านผู้นำตระกูลหง!”

ในเวลานี้ เฉินซิงไห่เดินเข้าไปแล้วยื่นมือออกไปด้วยรอยยิ้ม

หงซิงรีบจับมือของเฉินซิงไห่อย่างรวดเร็วและพูดอย่างมีความสุขว่า “ท่านผู้นำเฉินครับ ที่ผ่านมาผมเคยกระทำล่วงเกินอะไร ผมขอขมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ โปรดท่านช่วยอภัยความผิดพลาดของผมด้วยนะครับ!”

“ฮ่า ๆ ในเมื่อคุณเลือกที่จะติดตามคุณหยาง ต่อจากนี้เราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน และคนบ้านเดียวกันเราไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันขนาดนั้นหรอก!”

เฉินซิงไห่พูดด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

หานเซี่ยวเทียนกับกวนเจิ้งซานก็เดินเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านผู้นำตระกูลหง ยินดีด้วยนะครับ!”

หงซิงไม่ได้รู้จักหานเซี่ยวเทียนกับกวนเจิ้งซาน แต่ด้วยสองคนนี้และเฉินซิงไห่ที่สนิทกับหยางเฉินแบบนี้ เขาก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหยางเฉินนั้นต้องแน่นแฟ้นมากอย่างแน่นอน

“ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโสทั้งสองท่านนะครับ!” หงซิงยิ้มพูด

“จริงด้วยสิ ผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก ท่านนี้คือว่าที่ท่านผู้นำหานของตระกูลหานในเยี่ยนตู ชื่อว่าหานเซี่ยวเทียน!”

เฉินซิงไห่พูดต่อ “ส่วนท่านนี้คือว่าที่ท่านผู้นำกวนของตระกูลกวนในเยี่ยนตู ชื่อว่ากวนเจิ้งซาน!”

หงซิงคิดในใจ เพราะเยี่ยนตูยังไม่มีตระกูลหานกับตระกูลกวน อีกอย่างเฉินซิงไห่ยังบอกว่าพวกเขาคือตระกูลหานและตระกูลกวนของเยี่ยนตูในอนาคต

ซึ่งสิ่งที่เขารู้คือตระกูลเฉินเป็นครอบครัวจากต่างถิ่น โดยมีภูมิหลังยักษ์ใหญ่คอยค้ำไว้ และวันนี้เขาก็รู้ว่าภูมิหลังยักษ์ใหญ่คนนั้นก็คือหยางเฉิน