บทที่ 991 พวกเราไปฆ่าหมากันเถอะ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 991 พวกเราไปฆ่าหมากันเถอะ
ระดับขั้นการบำเพ็ญตนของเย่เซิ่งเทียนที่แท้ก็แค่แดนสะพานเทพชั้นสองเท่านั้นเอง

หลังจากต่อสู้กับเหล่าจู่ของตระกูลเซียวแล้ว แม้ว่าจะเผาผลาญพลังชีวิตไปจนถึงแดนสะพานเทพชั้นแปด แต่ก็เป็นเพียงพลังภายนอก ลมปราณแค่ถูกบังคับให้เปิดออก แต่ไม่ได้ตกตะกอน

ถือว่าเป็นขั้นแปดที่จอมปลอมเท่านั้น

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เย่เซิ่งเทียนทะลวงจุดลมปราณทั้งสี่คือ จุดจื่อกง จุดหัวก้าย จุดเสวียนจี และจุดเทียนทู มาคงที่อยู่ที่แดนสะพานเทพชั้นหก

เลือดเทพแห่งซวนหยวนตื่นภวังค์ขึ้น ทำให้ภายในร่างกายของเขาเปลี่ยนถ่านเลือกได้สำเร็จ หล่อเลี้ยงร่างกายได้มากถึงร้อยครั้ง

ร้อยวิชาหล่อหลอมที่ตาเฒ่าหลินทิ้งไว้ให้ นับว่าเป็นสิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดจริงๆ

ส่วนความแข็งแรงของเย่ว์อิ่นหลง จากที่ตามหลังปู่หอคอยมาสองสามเดือนนี้ ในที่สุดก็ทะลุมาถึงแดนฉ่องทิพย์ชั้ดแปดขั้นยอดแล้ว

สามวันผ่านไปชั่วพริบตา เย่เซิ่งเทียนอดทนต่อไปไม่ไหว

รีบติดต่อหาหวางซีอย่างรวดเร็ว

แต่ติดต่อหวางซีไม่ได้

เย่เซิ่งเทียนกระวนกระวายใจมาก ยิ่งติดต่อแม่ยาย ก็ไม่มีคนรับสาย

เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ยิ่งกังวลก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี

เย่เซิ่งเทียนโทรหาเย่จิงหง ในที่สุดก็โทรติด

เขายังไม่ทันจะพูดอะไร ปลายสาย เย่จิงหงรู้สึกผิดอย่างมหันต์ และพูดด้วยน้ำเสียงอันเศร้าอย่างจับใจว่า “เสี่ยวเทียน ฉัน ฉันขอโทษ ฉันดูแลซีเอ๋อร์ได้ ไม่ดี”

ในใจของเย่เซิ่งเทียนเต้นดังตุ้บๆ

น้ำตาไหลพรากออกมา แววตาแดงก่ำเป็นสายเลือด “คุณปู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

เย่จิงหงตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันโศกเศร้าว่า” ซีเอ๋อร์ตายแล้ว ร่างกายของซีเอ๋อร์แตกสลายไปแล้ว พวกฉันไม่รู้ว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร เสี่ยวเทียน นายด่าฉันเถอะ ฉัน ฉัน… ”

เย่จิงหงรู้สึกเสียใจจนพูดไม่ออก

จิตใจของเย่เซิ่งเทียนแทบจะระเบิด มีแต่ความว่างเปล่า

ราวกับโดนฟ้าผ่าไปทั้งตัว

ภาพที่เขาเห็นนั้นสุดท้ายนั้นก็เป็นเรื่องจริง!

ซีเอ๋อร์มาหาเขาแล้ว!

เป็นซีเอ๋อร์เองที่ช่วยชีวิตเขา!

แต่ซีเอ๋อร์หล่ะ?

เกิดอะไรขึ้นกับร่างของนาง?

ทำไมถึงแตกสลายไป?

“เสี่ยวเทียน นายอย่าพึ่งใจร้อน พวกเราเดาว่า ร่างของซีเอ๋อร์แปรสภาพไป แต่นางยังไม่ตาย เพียงแค่ว่าพวกเราไม่รู้ว่าแปรสภาพไปเป็นอะไรแค่นั้น”

เย่จิงหงรีบปลอบใจเย่เซิ่งเทียน

เย่เซิ่งเทียนสีหน้าเปลี่ยนไป เจ็บปวดใจราวกับถูกมีดกรีด ทำจมูกฟุดฟิดและพูดว่า” ท่านปู่ ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเอง ตอนที่ข้าเกิดเรื่อง ข้าเห็นซีเอ๋อร์ ฉันเลยโทรมาเพื่อให้แน่ใจ ไม่มีอะไรแล้วฉันวางสายก่อนนะ ฉันจะไปฆ่าคนก่อน”

พูดจบ เย่เซิ่งเทียนก็วางสายไป

คุกเข่าลงกับพื้น และไม่พูดอะไรสักคำ

เขาไม่ได้ตำหนิชายชราผู้นั้น

ชายชราผู้นั้นก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

ชายชราผู้น่าสงสารแบบนั้น เขาจะไปตำหนิลงได้ยังไง

ในใจของชายชราเองก็เจ็บปวดไม่น้อย คงมากกว่าเขาเยอะ

ปีก่อนนั้นก็เสียพ่อไปแล้ว ต่อมาลูกทั้งสองคนก็จากไปอีก ตอนนี้หลานก็กำลังสู้อย่างสุดชีวิต หลานสะใภ้ก็แตกสลายไปต่อหน้าต่อตาเขา เขาตำหนิตัวเองมากกว่าใคร

เขาสัญญากับเย่เซิ่งเทียนว่าจะดูแลคนในครอบครัวให้ดี แต่กำลังก็มีจำกัด

เย่เซิ่งเทียนรู้ว่า อดีตจอมพลต้องคิดหาวิธีทุกอย่างที่พวกเขาคิดได้แล้วแน่นอน อย่าว่าแต่พวกเขาเลย เรื่องนี้อยู่เหนือความเข้าใจของตัวเขาเองด้วยซ้ำ แล้วจะไปตำหนิพวกเขาได้อย่างไร?

“ไอ้แก่หมาวัด!!!”

เย่เซิ่งเทียนเงียบขรึมอย่างน่ากลับ และสบถออกมาสามคำเบาๆ

การหายตัวไปของซีเอ๋อร์ มันเกี่ยวข้องกับเขา

อาจมีความลับที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ในตัวของซีเอ๋อร์

ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้หมาแก่ตระกูลเซียวตัวนั้น ซีเอ๋อร์ก็จะไม่หายไป!

“พี่เทียน”

เย่อิ่นหลงเรียก เขาไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่จากแววตาแดงก่ำของเย่เซิ่งเทียน เขาก็ดูออกแล้ว

ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับคนในครอบครัวนั้นแน่ๆ!

“ไม่มีอะไรหรอก”

เย่เซิ่งเทียนมองปู่หอคอย “ท่านอาวุโส ท่านฆ่าแดนทะลุเทพได้ไหม?”

ปู่หอคอยตอบอย่างทะนงตนว่า “ฆ่าสักคนสองคนก็ไม่มีปัญหาหรอก”

เย่เซิ่งเทียนตอบอย่างจริงใจว่า “ถ้างั้นก็ดี พวกเราไปฆ่าหมากันเถอะ!”