บทที่ 1957 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับฟางหยวน การต่อสู้ในสนามรบจึงหยุดลงชั่วคราว

ราชันมังกรเป็นคนแรกที่ตอบสนอง

ท่าไม้ตายอมตะดาบเขี้ยวมังกร!

สัตว์ประหลาดทั้งสามกลายเป็นผ้าคลุมเปื้อนเลือดอยู่บนแผ่นหลังของฟางหยวน ราชันมังกร ไม่ทราบสภาพของฝ่ายตรงข้ามและไม่กล้ามั่นใจเกินไป เขายังรู้สึกหวาดหวั่นต่อการโจมตีของสัตว์ประหลาดทั้งสามจากก่อนหน้า ดังนั้นเขาจึงใช้การโจมตีระยะไกล

ดาบเขียวมังกรพุ่งผ่านอากาศแต่ฟางหยวนไม่หลบ เขาต้องการทดสอบพลังป้องกันในปัจจุบันของตน

“เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”

ดาบเขียวมังกรปะทะร่างของฟางหยวนและทําให้เกิดประกายไฟแลบลิ้นขึ้น หลังจากสวมผ้าคลุมเปื้อนเลือด พลังป้องกันของฟางหยวนก็เพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าตกตะลึง

รม่านตาของราชันมังกรหดเล็กลงเมื่อเห็นฉากนี้

พลังป้องกันในปัจจุบันของฟางหยวนสูงกว่าราชันมังกรไปไกลมาก ดาบเขียวมังกรไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฟางหยวนได้แม้แต่น้อย

“พลังป้องกันยอดเยี่ยมมาก ด้านอื่นๆก็ควรคล้ายคลึงกัน” ฟางหยวนคิด

ฝ่ายของวังสวรรค์ระวังตัวมากขึ้น ขณะที่ผู้อมตะของสามภูมิภาคมองฟางหยวนด้วยดวงตาส่องประกาย

อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดรู้ว่าฟางหยวนกําลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในเวลานี้ “เด็กน้อย เจ้าเป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของข้างั้นหรือ? แขนของเจ้าบางมาก ผิวของเจ้าขาวเนียนมาก ความเท่ของบุรุษอยู่ที่ใด? สวรรค์! มรดกของข้าสูญเปล่าในมือเจ้า!”

ฟางหยวน “…”

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนต้องใช้เจตจํานงของเขาเพื่อหลอมรวมสัตว์ประหลาดทั้งสามและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเสรี อย่างไรก็ตามหลังจากผ้าคลุมเปื้อนเลือดก่อตัวขึ้น เจตจํานงของฟางหยวนกกลับถูกเปลี่ยนเป็นเจตจํานงของเทพปีศาจคลั่ง!

นี่แสดงให้เห็นถึงความสําเร็จอันยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเทพปีศาจคลั่ง นอกจากนั้นเขายังมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา

ฟางหยวนพบว่าเจตจํานงของเทพปีศาจคลังไม่เป็นอันตรายต่อเขา ตรงข้าม มันมีประโยชน์
มากมาย

เจตจํานงของเทพปีศาจคลั่งช่วยรักษาท่าไม้ตายนี้เอาไว้ เขายังช่วยให้ฟางหยวนเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังท่าไม้ตายนี้ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

“เจ้าหนู รีบไปเร็วเข้า หลังจากหลายปี ความแข็งแกร่งของข้าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว เร็ว พุ่งไปข้างหน้า ทําลายวิญญาณชะตากรรม!” เจตจํานงของเทพปีศาจคลั่งหัวเราะเสียงดังและคร่ําครวญ อย่างไม่สามารถอดทน

“พูดมาก หุบปาก!” ฟางหยวนกล่าวอย่างไม่แยแส

“อา…” เทพปีศาจคลั่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นทาบแก้มของตนและตะโกนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ข้าถูกดูหมิ่น! เทพปีศาจคลั่งถูกรุ่นน้องดูหมิ่น! และคนผู้นี้ขี้เหร่มาก!”

เทพปีศาจคลั่งยังโอดควรญต่อไป ผู้ใดจะคิดว่าเทพปีศาจคลั่งจะเป็นคนช่างพูดเช่นนี้!

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่มีเวลาสนใจเขา

“เมื่อเป็นเช่นนี้…” ฟางหยวนหรี่ตามองไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์

“ระวังฟางหยวน!”

“เขากําลังจะโจมตี!”

“ป้องกัน!”

ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกตึงเครียด

“บม!”

ในเวลาต่อมา ร่างของฟางหยวนก็พุ่งข้ามท้องฟ้าและตรงไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์ด้วยความเร็วสูง

ความเร็วของเขาน่าอัศจรรย์มาก กระทั่งราชันมังกรยังรู้สึกตกใจ

“ฟางหยวน หยุด!” ราชันมังกรเร่งไล่ล่าด้วยกําลังทั้งหมดของเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดมันก็เริ่มน่าสนใจ” ที่ขอบสนามรบ เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะเสียงดัง “เฒ่าเพิ่งหยวน ใช้ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคน ข้าต้องการให้คนทั้งโลกเห็นภาพที่น่าสนใจนี้”

“รับทราบ” เฒ่าเพิ่งหยวนเป็นกุญแจสําคัญในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของเทพอมตะ

ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคนถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์ พลังอํานาจของมันเคยแสดงให้เห็นมาแล้วในชีวิตก่อนหน้า

ท่าไม้ตายนี้สามารถแบ่งปันวิสัยทัศน์ของพวกเขา

ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคน!

ไม่เพียงภาคกลางแต่ทั้งห้าภูมิภาคตกสู่ความโกลาหลทันที

“เกิดสิ่งใดขึ้นกับโลกใบนี้?”

“ดวงตาของข้า ดวงตาของข้ามีปัญหา!?”

มนุษย์ต่างตกใจ

“มันเป็นฉากในวังสวรรค์ นี่เป็นวิธีการชนิดใด มันทําให้ทุกคนเห็นสถานการณ์ปัจจุบัน!”

“ฝ่ายใดได้เปรียบ?”

ผู้อมตะทั้งหมดของทั้งห้าภูมิภาคสามารถเรียนรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวังสวรรค์

ในชีวิตก่อนหน้า มีเพียงผู้คนของภาคกลางที่ได้รับผลกระทบจากท่าไม้ตายนี้ แต่ในชีวิตนี้ ด้วยการแทรกแซงของเฉินซาน ผู้คนทั้งห้าภูมิภาคจึงได้รับผลกระทบทั้งหมด

ฉากแรกที่ทุกคนเห็นคือฟางหยวนพุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์

“เขาคือผู้ใด?” มนุษย์ธรรมดารู้สึกหายใจไม่ออกกับพลังอํานาจอันเป็นที่สุดของฟางหยวน

“ฟางหยวน เจ้าจะไม่ประสบความสําเร็จ!” ในช่วงเวลาสําคัญ ฟางเจ๋งและฉินติงหลิงนําหอพิพากษาปีศาจเข้ามาปกป้องหอคอยดวงตาสวรรค์

“นั่นคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด หอพิพากษาปีศาจ!” ผู้อมตะจากทุกภูมิภาคที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ฟางหยวนไม่หยุด เขาพุ่งเข้าหาหอพิพากษาปีศาจโดยตรง!”

“เข้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ?”

“มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด!”

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาปากของผู้อมตะของทั้งห้าภูมิภาคกลับอ่าค้างด้วยความตกใจ

ฟางหยวนพุ่งชนหอพิพากษาปีศาจโดยตรงและส่งมันบินออกไปจากเส้นทางของเขา

“หายไป!” ฟางหยวนตะโกนและส่งหมัดออกไป

หอพิพากษาปีศาจระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา

ฟางเจิ้งกระอักเลือดจํานวนมากออกมาและล้มลงบนพื้น

หลังจากหอพิพากษาปีศาจล้มลง ฟางหยวนยังกระทึบมันซ้ําอีกครั้งก่อนจะพุ่งเข้าหาหอคอยดวงตาสวรรค์ต่อไป

แต่ราชันมังกรตามทันแล้ว

“ฟางหยวน!” ราชันมังกรตะโกนเสียงดัง

ฟางหยวนหันหลังกลับ ผ้าคลุมเปื้อนเลือดสะบัดตัวและก่อให้เกิดพายุกรรโชกแรง

“ปัง ปัง ปัง ปัง!”

ฟางหยวนกับราชันมังกรแลกหมัดกันอย่างดุเดือด

ด้านหนึ่งคือผู้สืบทอดของเทพปีศาจหลายคน อีกด้านหนึ่งคือผู้พิทักษ์เต่ําและอาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดง การต่อสู้ของพวกเขาอยู่บนจุดสูงสุดในสงครามครั้งนี้

ผลที่ตามมาคือคลื่นกระแทกที่สามารถทําลายล้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้โดยตรง กระทั่งบ้านไม่ไผ่สายลมและแท่นบูชาแห่งโชคยังต้องล่าถอยออกไป

“พวกเขาเป็นสัตว์ประหลาด!”

“น่ากลัวเกินไปแล้ว”

ฉากนี้ทําให้หัวใจของผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคเต้นอย่างบ้าคลั่ง

ในกรณีที่ไม่มีผู้อมตะระดับเก้า การต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับราชันมังกรถือเป็นระดับสูงสุดของโลกใบนี้

ผู้ใช่วิญญาณระดับมนุษย์ค่อยๆตระหนักถึงบางสิ่ง

“เหลือเชื่อ! พวกเขาคือผู้อมตะ!”

“โลกใบนี้มีผู้อมตะอยู่จริงๆ!”

“การต่อสู้ของผู้อมตะน่ากลัวเกินไป แม้แต่สวรรค์ก็อาจถูกทําลายโดยพวกเขา”

มนุษย์ธรรมดากรีดร้องด้วยความตกใจ ฉากที่พวกเขาเห็นอยู่นอกเหนือจากจินตนาการของพวกเขาไปไกลมาก

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

ราชันมังกรไม่ได้รับการขยายพลังอํานาจโดยท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน แต่เขาได้รับความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์และเพลงพรหมลิขิตรวมถึงดูดกลืนพลังปราณทั้งสาม

ที่ขอบสนามรบ เทพปีศาจจิตวิญญาณยิ้มขณะมองการต่อสู้ของฟางหยวนกับราชันมังกร “เมื่อมันมาถึงจุดนี้ ให้ข้าผลักดันมันอีกเล็กน้อย เฒ่าเพิ่งหยวน ใช้เจตจํานงของมนุษ์ทั้งหมด”

เฒ่าเพิ่งหยวนมึนงง เจตจํานงของมนุษย์ถูกใช้ไปหมดแล้ว หากมันยังเหลืออยู่ เฒ่าเพิ่งหยวนคงใช้มันไปก่อนหน้านี้แล้ว

เทพปีศาจจิตวิญญาณชี้นิ้วไปยังมุมหนึ่งของวังสวรรค์ เฒ่าเพิ่งหยวนมองไปยังทิศทางที่ถูกน่าและพบเจตจํานงของมนุษย์เก็บไว้ที่นั่น

ความเข้าใจของเทพปีศาจจิตวิญญาณเกี่ยวกับวังสวรรค์ยังชัดเจนยิ่งกว่าเฒ่าเจิ้งหยวน

“นายท่านรู้ความลับของวังสวรรค์มากเพียงใด? เหตุใดเทพอมตะในอดีตจึงเก็บเจตจํานงของมนุษย์ส่วนหนึ่งไว้อย่างลับๆ?” เฒ่าเพิ่งหยวนเต็มไปด้วยค่าถาม

“ไม่จําเป็นต้องคาดเดา ใช้มัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้จะให้คําตอบแก่เจ้า” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะ

เจตจํานงของมนุษย์ได้รับการปลดปล่อยออกมาในที่สุด

ในเวลาต่อมา พลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนก็ปะทุขึ้นสู่ระดับใหม่