ตอนที่ 908: การคาดคะเนของไป่เจี้ยน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 908: การคาดคะเนของไป่เจี้ยน

ในเวลาเดียวกัน ในชั้นใต้ดินที่ถูกซ่อนอยู่ที่อยู่ลึกลงไปหลายร้อยเมตรใต้ตระกูลหวงกู่ที่อยู่ในป่าเก่าแก่ ไข่มุกราตรีขนาดเท่ากำปั้นหลายก้อนถูกติดอยู่ที่เพดานของชั้นใต้ดิน ซึ่งทำให้แสงสว่างขึ้นจากความมืดในขณะที่ไข่มุกส่องแสงลางลางออกมา

ในตอนนี้ หญิงที่อยู่ในชุดเหลืองนั่งอยู่ที่พื้นในขณะที่นางกำลังทำสมาธิอยู่ นางสวยงามและมีใบหน้าที่งดงามมาก นางกำลังนั่งอยู่ที่กลางห้องเหมือนรูปปั้นและมีสายพลังงานที่บริสุทธิ์ของธาตุน้ำเปล่งออกมาจากร่างของนาง มันทำให้ห้องทั้งห้องอบอวลไปด้วยหมอกมัว ๆ และหยดน้ำเล็ก ๆ ก็ควบแน่นไปที่กำแพงรอบ ๆ

นางคือหวงหลวน นางถูกพามาที่นี่มาค่อนข้างนานแล้วในฐานะลูกศิษย์ของบรรพชนตระกูลหวงกู่ และนางก็ทุ่มเทให้กับการฝึกฝนในห้องนี้ตั้งแต่ที่นางมาถึงที่นี่

ในตอนนี้ ประตูของห้องก็ถูกเปิดขึ้นมาอย่างช้า ๆ ชายชราที่แต่งตัวธรรมดาเดินเข้ามา ลักษณะของเขานั้นธรรมดาแต่ตาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยไปด้วยความกระชับกระเฉง สายตาของเขาที่มองไปที่หวงหลวนนั้นซ่อนความอิจฉาและความโลภอยู่ภายในลึก ๆ

หวงหลวนลืมตาขึ้นช้า ๆ และมองไปที่ชายชราที่กำลังเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสายตาที่มีชีวิตชีวา นางยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะป้องมือให้ชายชรา “ท่านอาจารย์ ! “

ชายชราเป็นบรรพชนตระกูลหวงกู่ เขาจ้องไปที่นางด้วยรอยยิ้มและพูดอย่างนุ่มนวล “ลูกศิษย์เอ๋ย การฝึกฝนของเจ้าไปถึงไหนแล้ว ? “

“ข้าขอบคุณท่านอาจารย์มากที่ห่วงใย คัมภีร์ทานตะวันเหมาะกับศิษย์อย่างมาก ในเวลาสั้น ๆ ของการทำสมาธิ ความแข็งแกร่งของข้าก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม พลังเซียนของศิษย์เป็นธาตุน้ำ ความเร็วในการฝึกฝนของศิษย์น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมายถ้าศิษย์ฝึกฝนอยู่ในที่ที่พลังธรรมชาติธาตุน้ำหนาแน่นกว่านี้ ข้าหวังว่าอาจารย์จะให้ศิษย์ออกไปหาที่ซึ่งเหมาะสมกว่านี้ในการฝึกฝน” หวงหลวนพูดออกมา เสียงของนางเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนเสียงร้องของนก มันฟังดูน่าพึงพอใจอย่างมาก

บรรพชนยิ้มแล้วพูด “ศิษย์เอ้ย เจ้าต้องจำเอาไว้ว่าทุก ๆ อย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ความเร็วในการฝึกฝนของเจ้าเร็วมากแล้ว ดังนั้นเจ้าต้องไม่รีบร้อนเกินไปโดยไม่จำเป็น ไม่เช่นนั้น มันอาจจะทำลายพื้นฐานของเจ้า เจ้าควรจะอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนในช่วงเวลานี้เพื่อไม่ให้สิ่งภายนอกรบกวนเจ้าได้”

“ท่านอาจารย์..” หวงหลวนต้องการที่จะพูดบางอย่างแต่นางก็หยุดพูดไปทันทีที่นางอ้าปาก

“เอาล่ะ ศิษย์เอ้ย ข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีกแล้ว ฝึกฝนให้ดี ข้าหวังว่าเจ้าจะได้เป็นเซียนผู้คุมกฎในเร็ววันนี้” หลังจากพูดจบ บรรพชนก็จากไป

ประตูของชั้นใต้ดินปิดลงอีกครั้ง และปล่อยให้หวงหลวนยืนอยู่คนเดียวอยู่กลางห้องที่มืดมิด ทันใดนั้นเอง หนังสือก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง นางเปิดผ่านไปเรื่อยเรื่อยและพึมพำ “ทำไมท่านอาจารย์ไม่ให้คำภีร์ทานตะวันแก่ข้าทั้งหมดกัน ? เขาให้ข้าเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของบทเริ่มต้นเท่านั้น”หวงหลวนมองไปรอบ ๆและสายตาของนางก็เป็นประกาย นางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ารอบ ๆ นี้มีม่านพลังอยู่ ม่านพลังนั้นจมอยู่ในดิน ดังนั้นมันจึงไม่สามารถมองเห็นได้ ถ้านางต้องการที่จะทำลายมัน นางต้องทำลายผ่านชั้นดินไปก่อน

“ม่านพลังนี้ถูกร่ายไว้โดยท่านอาจารย์เพื่อป้องกันห้องนี้จากการรบกวนภายนอก แต่…” หวงหลวนครุ่นคิดในใจ นางดูเหมือนจะค่อนข้างสับสน

อย่างไรก็ตาม นางเลิกความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว นางนั่งลงในห้องอีกครั้งและคิด “ในตอนนี้ข้าเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 5 ข้าน่าจะเป็นวัฏจักรที่ 5 ในไม่ช้าด้วยความเร็วในตอนนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นเซียนสวรรค์ ข้าต้องฝึกฝนให้หนักในช่วงเวลาที่ถึงนี้และเป็นเซียนผู้คุมกฎให้เร็วที่สุด แบบนั้นข้าจึงจะสามารถช่วยเจี้ยนเฉินได้”

เพียงแค่คิด ใบหน้าของนางก็หม่นหมอง ใบหน้าที่หล่อเหลาและกล้าหาญของเจี้ยนเฉินแวบขึ้นมาในหัวของนาง ในขณะที่นางเริ่มคิดถึงเขาอย่างรุนแรง “เจี้ยนเฉิน ทั่วทั้งทวีปกำลังตามหาเจ้าอยู่ในตอนนี้ เจ้าอยู่ที่ไหนกัน ? มันน่าจะยากลำบากสำหรับเจ้ามากในวันเหล่านี้”

..

หลายแสนกิโลเมตรห่างออกไปจากอาณาจักรจีซุน คนหลายหมื่นคนกำลังยุ่งกับการสร้างเมืองที่ฐานของ กลุ่มทหารรับจ้างอัคนี หลังจากการก่อสร้างหลายปีนี้ เมืองจะถูกสร้างไปด้วยทังสเตนทั้งหมด ซึ่งตอนนี้สำเร็จไปสามในสี่ส่วนแล้ว กำแพงเมืองสูงมากกว่าเจ็ดสิบเมตร แม้ว่าเมืองจะยังสร้างไม่เสร็จ แต่มันก็มีพลังที่น่าเกรงขาม

เมืองทหารรับจ้างในตอนนี้มีอิทธิพลอย่างมาก พวกเขาเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งที่สุดในรัศมีหลายแสนกิโลเมตร แม้แต่ตระกูลสันโดษยังไม่กล้าที่จะไปยั่วยุพวกเขาด้วยเรื่องเล็กน้อย เพราะว่าตระกูลมีเพียงแค่เซียนผู้คุมกฎ 2 คนดูแลอยู่เท่านั้น ด้วยความสัมพันธ์กับตระกูลเจียงหยางด้วยแล้ว มันทำให้แม้แต่ตระกูลโบราณยังเกรงกลัวเมืองทหารรับจ้าง

ในตอนนี้ จำนวนของทหารรับจ้างได้เพิ่มจำนวนมากกว่าสามแสนคน แม้ว่าพวกเขาจะเปรียบเทียบไม่ได้กับกองทหารของอาณาจักรเล็กใดใด แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย สมาชิกทุกคนมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งและพวกเขาทุกคนเหนือกว่าทหารของอาณาจักรเหล่านั้น จำนวนของเซียนปฐพีในตอนนี้มีหลายร้อย พร้อมทั้งเซียนผู้คุมกฎสี่สิบกว่าคน พวกเขาเป็นเซียนผู้คุมกฎที่สุดยอดในบริเวณนี้

โหยวเยว่และไป๋เหลียนนั่งอย่างเบื่อหน่ายในที่ที่ได้รับการซ่อมแซมแล้ว

กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้เริ่มทำงานอย่างหนักต่อเนื่องมาตลอดในปีเหล่านี้ ในช่วงที่เพิ่มผ่านมานี้ พวกเขาทั้งสองได้มอบหมายงานหลายอย่างให้คนที่ต่ำกว่าพวกเขาจัดการและพวกเขาจะจัดการเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ ๆ บางเรื่องเมื่อมีเรื่องเท่านั้น ดังนั้น การใช้ชีวิตของพวกเขาในตอนนี้จึงผ่อนคลายขึ้นมากและไม่เหนื่อยหน่ายเหมือนเมื่อก่อน

“ข้าสงสัยจริงว่าท่านพี่อยู่ที่ไหนตอนนี้และข้าจะได้พบเขาอีกหรือไม่” ไป๋เหลียนพูดพร้อมถอนหายใจในขณะที่นางนั่งอยู่ที่โต๊ะ สีหน้าของนางเริ่มระลึกถึงความหลัง

โหยวเยว่ก็แสดงท่าทีทุกข์และโดดเดี่ยวเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น นางถอนหายใจออกมา “ข้าหวังว่าเขาจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย ข้าจะรอที่นี่ตลอดไปและช่วยเขาในการจัดการกับรากฐานของทหารรับจ้างที่เขาได้สร้างเอาไว้ กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเป็นของเขา ครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่ที่นี่”

“พี่โหยวเยว่ เมื่อพี่เห็นว่าเมืองทหารรับจ้างยิ่งใหญ่เพียงใดแล้ว เขาจะต้องดีใจมากเป็นแน่ ในฐานะที่เป็นผู้นำของทหารรับจ้าง ท่านได้ลงแรงไปมากจริง ๆ ” ไป๋เหลียนพูดหวาน

โหยวเยว่เผยให้เห็นรอยยิ้มและไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ตาม นางจ้องไปที่ท้องฟ้ามัว ๆ ด้านนอก ความเศร้าโศกซ่อนอยู่ลึกลึกในดวงตาของนาง

“ข้าถูกปฏิเสธจากเจ้ามากกว่า 1 ครั้งด้วยเหตุผลเดิม ๆ ในที่สุดข้าก็เข้าใจถึงความเจ็บปวดของเจ้าแล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ แต่เจ้าก็ยังทนเก็บความกดดันเอาไว้ลับ ๆ ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่หลังจากที่เจ้ากลับมาและจัดการกับทุกอย่างหมดแล้ว”

“ข้ารู้ว่าการแต่งงานนี้ถูกจัดไว้โดยเสด็จพ่อตลอดหลายปีมานี้ บางทีข้าอาจไม่อยู่ในหัวใจของเจ้าเลย ข้าอาจจะดูเหมือนเพื่อนธรรมดาของเจ้า แต่เจ้าก็รู้หรือไม่ เจี้ยนเฉิน เจ้าอยู่ในใจของข้า ข้าไม่สามารถลบมันออกไปได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม…”

หลายกิโลเมตรห่างออกไปจากเมืองอัคนี ชายวัยกลางคนที่เป็นสัตว์อสูรระดับ 5 มากกว่าสิบคนยืนเรียงกันอยู่เป็นเส้นตรง พวกเขาจ้องไปที่เมืองที่อยู่ไกล ๆจากบนภูเขา

“กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนี้ฟุ่มเฟือยจริง ๆ ที่สร้างเมืองไปด้วยทังสเตนทั้งหมด แค่เมืองนี้เองก็เหมือนสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ของทวีปแล้ว” ชายกลางคนกำยำในชุดสีฟ้าพูดขึ้นมาพร้อมถอนหายใจ

“ถ้าองค์กรอื่นมีทังสเตนมากมายขนาดนี้ พวกเขาอาจจะยากที่จะซ่อนมันเอาไว้ได้ มีแต่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเท่านั้นที่กล้าทำอะไรอย่างไม่เกรงกลัว และกล้าหาญในการสร้างเมืองด้วยมัน” ชายวัยกลางคนที่มีผมสีแดงเพลิงก็ถอนหายใจออกมาด้วย ตาของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา

ชายหนุ่มที่ดูมีอายุยี่สิบกว่าปียิ้มแปลกแปลกและพูดออกมา “ทุกคน เหตุผลที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาแต่ไกลที่นี่ไม่ใช่แค่การมาดูเมืองอัคนี”

ชายวัยกลางคนข้าง ๆ เขาทั้งหมดมองหน้ากันและกันเมื่อได้ยินแบบนี้ หลังจากนั้น หนึ่งในพวกเขาก็ป้องมือไปที่ชายหนุ่มและถามอย่างสุภาพ “องค์ชายไป่เจี้ยนมีเรื่องอะไรหรือถึงได้เรียกพวกเรามาที่นี่ ? “

“แน่นอนว่าเข้ามีเรื่อง ข้าสงสัยว่าทุกคนเคยคิดเรื่องที่จะยึดครองเมืองที่ทำจากทังสเตนทั้งหมดหรือเปล่า ? ” รอยยิ้มเย็นชาเกิดขึ้นที่ใบหน้าของไป่เจี้ยน

ท่าทางของชายทุกคนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น บางคนพูดขึ้นมาทันที “องค์ชายไป่เจี้ยน ท่านไม่รู้หรือว่าใครหนุนหลังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีอยู่ ? กลุ่มทหารของพวกเราไม่ได้อ่อนเลย แต่ว่าแม้แต่พวกเราจะกล้าหาญกว่านี้ร้อยเท่า พวกเราก็ไม่สามารถไปคิดร้ายกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้”

“ใช่ องค์ชายไป่เจี้ยน ถึงแม้พวกเราจะไม่สนเรื่องที่ทหารรับจ้างพวกนี้ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเจียงหยางของสิบตระกูลผู้พิทักษ์ แต่ข้าก็ได้ยินมาว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสสูงสุดที่เป็นที่เคารพของเมืองทหารรับจ้าง แม้ว่าพวกเราจะมีความกล้าหาญมากมายเพียงใด พวกเราก็ไม่เคยพยายามที่จะทำอะไรที่เป็นการต่อต้านพวกเขา นั่นมันเหมือนไปหาที่ตาย” บางคนพูดเสริมขึ้นมาทันที ตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

รอยเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป่เจี้ยน “เจ้าจะกังวลอะไรไปทำไม ? ในเมื่อข้าเรียกพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ข้าจะจัดการกับความกลัวเหล่านี้ของพวกเจ้าเอง”

“จริงอยู่ที่ว่าตระกูลเจียงหยางของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบนั้นแข็งแกร่งจริง แต่เหตุผลที่ตระกูลผู้พิทักษ์มีอยู่ก็เพื่อปกป้องทวีปเทียนหยวน พวกเขามีข้อตกลงกันที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใดใดที่เกี่ยวกับทวีป ยกเว้นมันจะเชื่อมโยงเกี่ยวกับความปลอดภัยของทวีปโดยตรง ข้ารับรองพวกเจ้าเลยว่า ถ้าคนจากตระกูลเจียงหยางมายุ่งเมื่อพวกเราโจมตีเมือง ตระกูลผู้พิทักษ์ที่เหลืออีกทั้งเก้าตระกูลต้องไม่นั่งดูอยู่เฉย ๆ แน่ หืม แล้วยังมีเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะอีก มันน่าจะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยระหว่างตระกูลเจียงหยางและตระกูลผู้พิทักษ์อื่น ๆ “

“สำหรับเมืองทหารรับจ้างนั้น ไม่มีความจำเป็นที่พวกเจ้าจะต้องเป็นกังวลไป เหตุผลของการมีอยู่ของเมืองทหารรับจ้างก็เหมือนกับตระกูลผู้พิทักษ์นั้นแหละ แม้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างจะมีอำนาจและฐานะมหาศาล แต่ทุก ๆ อย่างที่เขาทำก็ทำในฐานะเมืองทหารรับจ้าง ถ้าเขากล้าที่จะเข้ามายุ่งเรื่องที่เกิดขึ้นที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ความไม่เห็นด้วยจากผู้อาวุโสคนอื่นก็เพียงพที่จะหยุดการกระทำของเขาได้ ถ้าพวกเราไม่สนใจว่าตระกูลผู้พิทักษ์จะเห็นด้วยหรือไม่”

“ไป่เจี้ยน เจ้ามั่นใจนะว่าตระกูลผู้พิทักษ์อื่นจะหยุดพวกเขาไว้จากการมายุ่งพวกเรา ? ” ชายวัยกลางคนถามอย่างกังวล

ไป่เจี้ยนหัวเราะออกมาอย่างมั่นใน “อย่ากังวลไป พ่อของข้ามีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ จากความสัมพันธ์นั้น ข้าได้สร้างข้อตกลงกับตระกูลผู้พิทักษ์อื่นไปแล้ว ตระกูลเจียงหยางในตอนนี้แข็งแกร่งเกินไป ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีอัจฉริยะถึง 3 คน แต่เพียงคงยังมีความสัมพันธ์กับศาลาจิตพิสุทธิ์และศาลาเทพเจ้าน้ำแข็ง มันทำให้สมดุลของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบเสียไป ตระกูลอื่นจะไม่ทนดูอยู่เฉย ๆ แน่”