เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1262

ทุกคนไม่พูดอะไรสักคำ มองผู้อาวุโสที่ไม่ลืมตาคนนี้อย่างเงียบๆ

ผู้อาวุโสเห็นว่าไม่มีใครตอบ เขาพยักหน้าพูดว่า “ไม่มีใครตอบ ก็คงไม่มีใครแตะต้อง แบบนี้ก็ดี ฉันจะเตือนพวกนายไว้ว่าถ้าแตะต้องหรือแอบขโมยอะไรไป จะไม่สามารถออกจากคลังบู๊ได้!”

เทียนชิงหยางพูดอย่างราบเรียบว่า “ผู้อาวุโสเร็วๆ หน่อยได้ไหม”

ผู้อาวุโสยิ้มแล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม อดทนหน่อยสิ จะถามรอบสุดท้าย ไม่ได้แตะต้องใช่ไหม”

ทุกคนมองหน้ากันไปมา เผยรอยยิ้มบนใบหน้า

มีเพียงลู่ฝานที่สายตาแปลกประหลาด

กระบี่อู๋หมิงหายไปเอง ถือว่าเขาไม่น่าจะแตะต้องมันนะ!

รออยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครตอบอะไร

ผู้อาวุโสพูดว่า “งั้นก็ดี เราออกไปกันได้แล้ว”

พูดพลาง ผู้อาวุโสเดินนำทุกคนออกไปข้างนอก

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู จู่ๆ ผู้อาวุโสชะงักฝีเท้าลง ทุกคนก็พากันหยุดเดินด้วย

ผู้อาวุโสสะบัดมือ เอาของแปดชิ้นวางเรียงด้านหน้า

เมื่อยื่นมือออกมาลูบ แร่หินที่ห่อหุ้มอยู่ด้านนอกละลายหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำแข็ง

“เอาอาวุธของพวกนายไป เดินออกจากคลังบู๊ทีละคน!”

เทียนชิงหยางได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสแล้วพูดเบาๆ ว่า “วุ่นวายจริงๆ!”

เมื่อพูดจบ เขาเอากระจกปากว้าของตัวเอง แล้วเดินออกจากคลังบู๊เป็นคนแรก

จากนั้นคือหลู่ยิน สุ่ยสือฉวน ถังชิงและคนอื่น

เอาของเดินออกมาตามลำดับ ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ

ไม่นาน ในบรรดาทั้งแปดคนเหลือลู่ฝานเพียงคนเดียว

ลู่ฝานตั้งสติ ไม่คิดอะไรมาก ยื่นมือไปหยิบเกราะเฟิ่งเซียนแล้วเดินไปข้างนอก

หนึ่งก้าว ห้าก้าว สิบก้าว

ไม่มีอะไรผิดปกติ ลู่ฝานโล่งใจ ดูเหมือนเขาคิดมากไปเอง

ลู่ฝานเร่งฝีเท้าเดินออกจากประตูคลังบู๊

แต่ขณะนั้นขาข้างหนึ่งของเขาเพิ่งก้าวออกจากประตูคลังบู๊

จู่ๆ แสงค่ายกลสว่างขึ้น เกิดเสียงดังตึง ลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองชนเข้ากับอุโมงค์ข้ามมิติ พลังน่ากลัวจู่โจมทั้งตัวเขา

จู่ๆ ลู่ฝานโดนพลังนี้บีบให้กลับเข้ามา!

ผู้อาวุโสด้านหลังปรากฏตัว ใช้มือจับลู่ฝานแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนนายไม่ใช่คนซื่อสัตย์!”

ทุกคนตกตะลึง พากันมองมาทางลู่ฝานด้วยสายตาประหลาด

ลู่ฝานแอบพูดว่าแย่แล้ว พบว่าร่างกายตัวเองไม่สามารถขยับได้

ผู้อาวุโสข้างๆ ใช้พลังอันแข็งแกร่งผนึกการเคลื่อนไหวของลู่ฝานเอาไว้

เทียนชิงหยางและคนอื่นหันมา ความตกตะลึงบนใบหน้าหายไป หลังจากนั้นเทียนชิงหยางหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน ดูเหมือนฉันพูดถูกนะ นายมันคนเห็นแก่เงิน โลภในผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ เป็นไง ตอนนี้โดนคนจับได้แล้วสินะ!”

ลู่ฝานสงบสติอารมณ์ตัวเอง ตอนนี้ห้ามเผยพิรุธอะไรเด็ดขาด

ลู่ฝานรู้สึกว่ามีพลังเคลื่อนไหวอยู่นอกตัวเขาอย่างรวดเร็ว ยังแทรกซึมเข้าไปในเข็มขัดของเขาด้วย ต้องการจะตรวจสอบสิ่งของของเขา

ลู่ฝานรวบรวมปราณชี่ทั้งตัว แล้วปล่อยออกมาทันที

ทันใดนั้นผู้อาวุโสไม่ทันตั้งตัว ยกฝ่ามือขึ้นมาเล็กน้อย

ลู่ฝานใช้โอกาสนี้ถอยหลบไปด้านหลัง

แสงปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ กระบี่หนักไร้คมอยู่ในมือ

ผู้อาวุโสเอาสองมือไพล่หลัง จ้องลู่ฝานเขม็ง พวกองครักษ์เกราะทองข้างนอกยกอาวุธขึ้นพร้อมกัน มองลู่ฝานด้วยแววตาโมโห เหมือนจะพุ่งเข้ามาอย่างไรอย่างนั้น

“หยุด!”

ผู้อาวุโสเงยหน้าเล็กน้อย องครักษ์เกราะทองด้านนอกขานรับแล้วหยุดการกระทำ

ผู้อาวุโสค่อยๆ ลืมตาขึ้น ลู่ฝานไม่สามารถอธิบายดวงตาคู่นี้ได้

มันดำขลับล้ำลึก ไม่มีตาขาว เป็นสีดำเหมือนความว่างเปล่า

ทันใดนั้น ลู่ฝานรู้สึกเหมือนโดนมองทะลุทั้งตัว

โลกใบเล็กในตัวเคลื่อนไหวอยู่สองสามครั้ง!

เหมือนผู้อาวุโสเห็นอะไรบางอย่าง ความประหลาดใจผุดขึ้นบนใบหน้า หลังจากนั้นพูดกับลู่ฝานว่า “เมื่อกี้นายแตะต้องอะไรกันแน่”

ลู่ฝานพูดอย่างแน่วแน่ว่า “ไม่ได้แตะต้องอะไรเลย!”

เทียนชิงหยางหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “เขาไม่แตะต้องสิแปลก ผู้อาวุโสไม่ต้องเกรงใจหรอก ให้องครักษ์จับตัวเขาเลย!”

เมื่อพูดจบ ผู้อาวุโสยกมือขึ้นมาสะบัด เสียงตบดังขึ้นชัดเจน

เทียนชิงหยางลอยออกไปไกลตามเสียง แล้วร่วงลงบนพื้น

“น่ารำคาญ!”

การกระทำนี้ไม่ใช่แค่เทียนชิงหยางที่รับมือไม่ทัน คนข้างๆ ก็ตกใจจนอ้าปากค้าง

เทียนชิงหยางลุกขึ้นจากพื้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโมโห บนหน้าเขามีรอยนิ้วชัดเจน

“ผู้อาวุโส นายกล้าตบฉัน นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร รนหาที่ตาย!”

เทียนชิงหยางดึงกระบี่มังกรคำรามออกมา ทำท่าเหมือนจะเข้าไปฆ่าผู้อาวุโส

ผู้อาวุโสหันมามองเขาอย่างเฉยเมย

แค่มองเพียงแวบเดียว เทียนชิงหยางลอยออกไปไกลอีกครั้ง

ผู้อาวุโสพูดอย่างราบเรียบว่า “งั้นนายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร! ให้เทียนเจวี๋ยฉิงปู่นายมาคุยกับฉัน”

เทียนชิงหยางกระอักเลือด กระบี่มังกรคำรามหล่นอยู่ข้างๆ

ปู่ เทียนเจวี๋ยฉิง!

เหมือนเทียนชิงหยางคิดอะไรได้ มองผู้อาวุโสอย่างตกใจแล้วพูดว่า “นายคือถง……”

เทียนชิงหยางไม่กล้าพูดต่ออีก ลุกขึ้นมองผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม