บทที่546

 

เซียวชูหรันออกมาจากห้องนอน บิดขี้เกียจ แล้วถามเย่เฉินว่า:”วันนี้มีธุระเหรอ?”

เย่เฉินบอกว่า:”ตอนเที่ยงผมจะไปเข้าร่วมงานวันเกิดของเพื่อนน่ะ”

พูดจบ เย่เฉินก็ถามเธอว่า:”ที่รัก เธอมีธุระเหรอ?”

เซียวชูหรันพยักหน้า แล้วพูดว่า:”ฉันอยากไปซื้อของ แต่ว่าถ้านายมีธุระก็ไปทำก่อนเถอะ ฉันนัดรั่งหลินไปด้วยกันแล้ว”

เย่เฉินพูดว่า:”ขอโทษนะที่รัก เธอไปกับรั่งหลินก่อน วันหลังผมค่อยไปกับเธอ”

เซียวชูหรันยิ้ม:”อื้ม ได้”

แม่ยายหม่าหลันถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง:”โอ้ เย่เฉิน นายมีเพื่อนที่จะจัดงานวันเกิดที่เมืองจินหลิงด้วยเหรอ?อายุไม่ใช่น้อยๆสินะ?”

เย่เฉินพยักหน้า: “อายุแปดสิบแล้ว”

หม่าหลันหัวเราะเยาะ:”ตอนนี้นายเริ่มใช้ของบ้าๆนั้น ไปหลอกลวงคนแก่ที่กำลังจะตายงั้นเหรอ?หลอกค่าโลงศพเหรอ?”

เย่เฉินพูดเบาๆ:”ผมไม่เคยโกหกใคร”

“ยังจะเสแสร้งอีกเหรอ?”หม่าหลันตะคอกอย่างเย็นชา:”คนใหญ่โตที่นายเคยหลอกในเมืองจินหลิงยังน้อยไปเหรอ?ฉันบอกให้นะ ฉันมองเห็นอนาคตของนายหมดแล้ว ผลลัพธ์ที่รอนายอยู่มีสองอย่าง ไม่เข้าคุก ก็ถูกตามล่า”

ช่วงนี้หม่าหลันเห็นเย่เฉินแล้วไม่สบอารมณ์มากๆ ปัจจัยหลักคือเย่เฉินบริจาคเงินที่ตนเสียให้กับเหอเหลียนและเฉียนหงเย่นให้Project Hope

ตอนนี้ กระเป๋าสะอาดกว่าหน้าอีก บัตรชำระเงินของร้านเสริมสวยใช้หมดแล้วไม่มีเงินต่ออายุ ยิ่งไม่รู้ว่าถ้าสามี หรือลูกสาวรู้ จะอธิบายให้ฟังอย่างไร

ในสายตาของหม่าหลัน เย่เฉินเป็นผู้กระทำความผิดทั้งหมดนี้!

ดังนั้น เธอจึงไม่พอใจกับเย่เฉินมากๆ

เมื่อเซียวฉางควนได้ยินว่าหม่าหลันเริ่มตั้งเป้าโจมตีเย่เฉินอีกครั้ง เขาก็รีบออกมาปกป้อง:”ทำไมเธอถึงเป็นคนแบบนี้ ทำไมถึงชอบเบียดเบียนเย่เฉิน?ช่วงนี้เย่เฉินก็ทำตัวดีนี่”

“ดีอะไรล่ะ!”หม่าหลันไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้งานเลี้ยงรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นของเซียวฉางควน อาศัยบารมีเย่เฉินโอ้อวดใหญ่เลย และรู้สึกขอบคุณเย่เฉินมากๆ

เมื่อเห็นสามีของอยู่ข้างเย่เฉิน เธอจึงด่าทันที:”เซียวฉางควน นายอย่าหลงกลหมอนี่เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น วันไหนนายถูกเขาขายก็ไม่รู้!”

เซียวฉางควนขี้เกียจคุยกับเธอ และยื่นกุญแจรถBMMของตัวเองให้เย่เฉิน และพูดว่า:”เย่เฉิน คืนนี้พ่อจองห้องไว้ในเทียนเซียงฝู่ และจะทานอาหารร่วมกับผู้นำสมาคมศิลปะจีน ตอนนั้นต้องกินเหล้าแน่นอน ขับรถไม่ได้ นายเอากุญแจรถไป แล้วรับพ่อที่เทียนเซียงฝู่”

เย่เฉินพยักหน้า รับกุญแจรถมา ถามว่า:”พ่อ ให้ไปรับประมาณกี่โมงครับ?”

เซียวฉางควนพูดว่า:”พวกเรานัดกินข้าวหนึ่งทุ่ม ประมาณสองทุ่มครึ่งถึงสามทุ่มถึงจะเสร็จ นายมาเทียนเซียงฝู่ตอนสองทุ่มครึ่งแล้วกัน”

“ได้ครับ”

เย่เฉินเพิ่งตอบตกลง หม่าหลันก็โกรธทันที พูดออกมาว่า:”เซียวฉางควน นายจะเลี้ยงข้าวที่เทียนเซียงฝู่เหรอ?นายเอาเงินมาจากไหน?”

เซียวฉางควนไม่กล้าบอกว่าเย่เฉินเป็นคนให้เงินตัวเอง เลยพูดปิดว่า:”เธอจะยุ่งอะไรนักหนา?ยังไงก็ไม่ได้ใช้เงินเธอก็แล้วกัน!”

หม่าหลันพูดด้วยความโกรธ:”ไปกินข้าวห้องที่แย่ที่สุดของเทียนเซียงฝู่ก็ต้องมีสัก2-3หมื่นหยวน นายมีเงินจ่ายเหรอ?”

เซียวฉางควนพูดอย่างโมโห:”บอกเธอไปนานแล้ว ว่าผมจะชิงตำแหน่งกรรมการบริหาร มื้อละสองสามหมื่นแล้วยังไง?อีกอย่างก็ไม่ใช่เงินเธอ”

หม่าหลันโกรธมาก และพูดออกมาว่า:”เงินสองหมื่นหยวน พอสำหรับข้าไปทำทรีทเมนท์ใบหน้าและร่างกายที่ร้านเสริมสวยได้หลายครั้ง! นายกลับใช้เงินนี้เพื่อไปเลี้ยงข้าวเหรอ?”

เซียวฉางควนพูดออกมา:”เธอไปร้านเสริมสวยใช้จ่าย1-2หมื่นต่อเดือน ผมก็ไม่ได้ห้ามเธอ! เงินสองร้อยกว่าล้านในบ้านอยู่ที่เธอหมด เธอใช้ของเธอ ผมใช้ของผม ผมขอเงินเธอ เธอก็ไม่ให้ เธอยังจะมายุ่งอีกว่าผมเอาเงินมาจากไหนทำไม?”

หม่าหลันถูกเซียวฉางควนถามจนนิ่งไปทันที

สองร้อยล้านในบ้านอยู่ที่ตัวเองจริงๆ แต่ตอนนี้บริจาคให้ Project Hopeหมดแล้ว!

ฉันไม่มีเงินแม้แต่จะไปร้านเสริมสวยเพื่อดูแลผิวหน้าแล้ว!

ถ้าค่าอาหาร 20,000หยวนนี้ เอาไปทำหน้าให้ตัวเองมันจะดีแค่ไหนเชียว?