ตอนที่ 1328

Alchemy Emperor of the Divine Dao

แม้โลงศพโบราณจะไร้รอยต่อและดูเหมือนไม่มีทางเข้า ก็ไม่ใครที่มาที่นี่คิดจะล่าถอยกลับไป

วาสนาครั้งนี้คือโอกาสที่หาไม่ได้อีกแล้ว!

ไม่เพียงแต่ไม่มีใครกลับออกไป คนกลับยิ่งเข้ามาที่นี่เพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่หมอกห้วงความฝันก่อนหน้านี้ได้จางหายไปหมดแล้ว มีเพียงคนที่เข้ามาในตอนแรกที่เห็นความฝันช่วงชีวิตของติงจื่อเฉิน

เมื่อเรื่องราวในห้วงความฝันถูกแพร่กระจายออกไป เหล่าคนที่มาทีหลังล้วนแต่เกิดความรู้สึกสงสัยไม่อยากจะเชื่อ แต่พอเห็นว่าปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ทั้งสี่ไม่คิดจะออกจากไปที่นี่ ทุกคนจึงตัดสินใจอยู่ดูสถานการณ์ต่อไป

ไม่ว่าอย่างไรอายุขัยของจอมยุทธระดับพระเจ้าก็มากมายอยู่แล้ว ต่อให้เสียเวลาอยู่ที่นี่สักสิบหรือยี่สิบปีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เพราะงั้นแล้วที่นี่ถึงได้มีคนเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยคนในตอนแรกเพิ่มเป็นหลายพันคน หลายพันคนเพิ่มเป็นหมื่นคน แสนคน และเกรงว่าหากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปคงจะถึงล้านคน

ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ค่อยๆปรากฏตัว ไม่เพียงแค่ธิดาซื่อเยว่ แต่จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ของสองจักรวรรดิราชวงศ์อย่างแม่ทัพเชี่ยและคนอื่นๆที่หลิงฮันไม่รู้จักก็มาเช่นกัน ทุกคนล้วนเป็นปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงของดาวหยุนติ่ง

แม้แต่ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของดาวดวงนี้อย่างจักรพรรดิชื่อเยี่ยนแห่งจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์กับจักรพรรดิหลันอวิ๋นแห่งจักรวรรดิราชวงศ์เมฆาครามก็ยังตื่นตัว ทั้งสองบรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดและอยู่ในช่วงของการทะลวงผ่านขั้นต่อไปอันสำคัญ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้จึงส่งตัวแทนของตระกูลราชวงศ์ออกมาแทน

ตัวแทนของจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์คือกู๋ซื่อ ผู้สืบทอดรุ่นที่สี่ของจักรพรรดิชื่อเยี่ยน พลังบ่มเพาะของเขาคือระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูง ในกลุ่มตัวแทนที่ถูกส่งมาจากจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด

ตัวแทนของจักรวรรดิราชวงศ์เมฆาครามคือบุตรคนที่เก้าของจักรพรรดิหลันอวิ๋น เขาคือบุตรที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดและจะได้รับสืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิในอนาคต เขาเองก็มีพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงเช่นกัน

ในด้านของดินแดนใต้พิภพนั้นไม่มีใครทราบ แต่เชื่อว่าพวกเขาคงส่งปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งพอๆกันมาไม่ผิดแน่

เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆจึงมีเพียงขุมอำนาจของดาวหยุนติ่งที่มาถึงก่อน แต่หากโลงศพนี้ยังคงมีอยู่ไปอีกสักปี เหล่าปรมาจารย์ของเขตดวงดาวแสงคงกระพันแห่งนี้คงมากันทั้งหมด หากเป็นอีกสิบปีเกรงว่าปรมาจารย์ของเขตดวงดาวอื่นก็คงรุดหน้ามาที่นี่

แม้แต่เซียนก็อาจจะปรากฏให้เห็น

เนื่องจากไม่สามารถทำอะไรกับโลงศพโบราณตรงหน้าได้ หลิงฮันจึงเข้าไปในหอคอยทมิฬเพื่อบ่มเพาะพลังใต้ต้นสังสารวัฏ

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เองก็เข้าไปในหอคอยทมิฬเพื่อขัดเกลาพลังบ่มเพาะให้บรรลุขั้นสมบูรณ์เช่นกัน ทั้งสองคนนั่งอยู่ใต้ต้นสังสารวัฏโดยมีเซียนหวู่เซียงคอยชี้แนะบ้างเป็นบางครั้ง

จากคำกล่าวของเซียนหวู่เซียง หากใครต้องการทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่ง คนคนนั้นต้องขัดเกลาพลังบ่มเพาะให้บรรลุขั้นสมบูรณ์อย่างน้อยหนึ่งระดับ

ตัวของเซียนหวู่เซียงนั้นเขาเคยขัดเกลาพลังบ่มเพาะให้บรรลุขั้นสมบูรณ์มาแล้วถึงสองระดับ คือระดับสุริยันจันทราและระดับดารา ดังนั้นเขาจึงสามารถชี้แนะหลิงฮันได้ตรงจุด ที่จริงตอนนี้เขาว่างไม่มีอะไรให้ทำด้วยซ้ำ การจะให้คำชี้แนะบ้างจึงไม่เสียเวลาอะไร

วันเวลาค่อยๆผ่านไปจนผ่านไปสองเดือน

หลิงฮันไม่ยอมเสียโอกาสขัดเกลากายหยาบด้วยเพลิงนิรันดร์ ต่อให้ตอนนี้จะไม่สามารถกินเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้เขาก็ยังฝึกฝนเคล็ดลับกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่าน เขาในตอนนี้รู้สึกเร่งรีบอยากบรรลุขั้นสมบูรณ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

หลังผ่านไปอีกสามเดือน ในที่สุดหลิงฮันรู้สึกได้ว่าตนเองกำลังจะทะลวงผ่าน!

เขาออกมาจากหอคอยทมิฬ ทันใดนั้นเองเมฆสายฟ้าก็รวมตัวกันบนท้องฟ้า แม้จะเป็นที่แห่งนี้ก็ไม่สามารถหลบหนีสายตาของสวรรค์และปฐพี

หลิงฮันสลายการป้องกันของกายหยาบและชี้นำทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เข้ามาในร่างเพื่อชำระล้างกระดูก ดาบอสูรนิรันดร์เองก็ถูกนำออกมาดูดซับพลังของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เช่นกัน แต่ได้มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น ในขณะที่ดาบดูดซับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ตัวดาบเกิดการหดตัวจนมีขนาดเล็กกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นคุณภาพของมันได้ถูกยกระดับขึ้นเป็นอุปกรณ์ศศักดิ์สิทธิ์ระดับแปด!

หรือว่า… ต่อให้ไม่ต้องกลืนกินแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ดาบก็สามารถพัฒนาตัวเองได้?

หลิงฮันที่จะรู้สึกไม่ได้ว่านี่มันน่าอัศจรรย์เกินไป ราวกับว่าดาบเล่มนี้มีสัญชาตญาณที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นในตัวมันเอง

เพียงแต่ว่าการพัฒนาตัวเองเช่นนี้ทำให้ขนาดของดาบอสูรนิรันดร์หดเล็กลงหลายเท่า ถ้าดาบยังพัฒนาตนเองเช่นนี้ต่อไป ในอนาคตขนาดของมันจะไม่เหลือเท่าเข็มรึไง?

เขาต้องพยายามหาแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดจำนวนมากมาให้ดาบอสูรนิรันดร์กลืนกินจนกลับมามีขนาดเท่าเดิม!

ช่วงเวลานี้ในหัวทุกคนมีแต่เรื่องของโลงศพโบราณ ไม่มีใครคิดสนใจมาดูคนแปลกหน้ารับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์

หลิงฮันใช้เวลาทะลวงผ่านครึ่งวัน เขาโคจรหยดวารีอมตะฟื้นฟูร่างกายและกลับเข้าไปในหอคอยทมิฬก่อนนำเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งออกมากินและบ่มเพาะพลังใต้ต้นสังสารวัฏต่อ

สามวันต่อมาเขายกระดับของตัวเองขึ้นเป็นขั้นสมบูรณ์ชั้นกลาง!

ในด้านของโลงศพโบราณนั้นยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จำนวนคนที่ปรากฏตัวจะมีมากขึ้นก็ยังไม่สามารถหาทางเข้าโลงศพเจอ ขุมพลังที่แข็งแกร่งร่วมมือกันจนค้นพบว่าสัญลักษณ์มากมายบนโลงศพนั้นที่แท้กลับล้ำค่าอย่างมาก การศึกษาสัญลักณ์เหล่านั้นได้ช่วยให้พลังบ่มเพาะของพวกเขาที่หยุดแน่นิ่งจนขึ้นสนิมมานานเริ่มขยับอีกครั้ง

ด้วยการค้นพบนี้จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนกลับออกไป ที่นี่กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการบ่มเพาะไปโดยปริยาย จำนวนคนที่มารับวาสนามีมากขึ้นเรื่อยๆ

โลงศพโบราณก็ส่วนหนึ่ง ในขณะเดียวกันเม็ดทรายสีทองที่อยู่ที่นี่ก็สามารถทำการดูดซับได้เช่นกัน เม็ดทรายสีทองล้ำค่าอย่างมาก แม้แต่เซียนก็ยังสามารถยกระดับพลังของตนเองได้หากดูดซับทรายสีทองเหล่านี้

ทั้งโลงศพโบราณและเม็ดทรายสีทองได้ทำให้สถานที่แห่งนี้ดึงดูดผู้คนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

หลิงฮันมองเห็นเชี่ยตงหลายมาที่นี่ หมอนั่นทำให้ตระกูลเสียหน้าขนาดนั้นกลับถูกปล่อยตัวแล้ว?

แต่พอคิดดูแล้วก็มีเหตุผล สถานที่แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์บนโลงศพหรือเม็ดทรายสีทองก็สามารถทำให้แม้แต่ตัวตนระดับเซียนหวั่นไหว ตระกูลเชี่ยจะให้เชี่ยตงหลายที่เป็นทายาทคนสำคัญพลาดโอกาสนี้ได้อย่างไร?

บางทีที่เขามาบ่มเพาะพลังที่นี่ก็เพื่อทะลวงระดับ?

หลิงฮันอยากจะลงมือสังหารอีกฝ่าย แต่เชี่ยตงหลายนั้นนั่งอยู่ที่บริเวณมุมหนึ่งของโลงศพโบราณทั้งวันซึ่งที่นั่นแม่ทัพเชี่ยก็อยู่ด้วย ด้วยการคุ้มครองจากปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ หลิงฮันสังหารอีกฝ่ายได้อย่างไร?

‘ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะอยู่ที่นั่นตลอดไปโดยไม่ขยับไปไหน!’

หลิงฮันครุ่นคิด หากว่าเชี่ยตงหลายมาที่นี่เพื่อทะลวงผ่านขั้นสมบูรณ์ของระดับสุริยันจันทราล่ะก็ เขาที่บรรลุขั้นสมบูรณ์ชั้นกลางแล้วย่อมกำราบอีกฝ่ายได้ แต่ถ้าเชี่ยตงหลายคิดจะทะลวงผ่านระดับดาราล่ะ?

ด้วยพรสวรรค์ของเชี่ยตงหลาย เมื่อทะลวงผ่านระดับดาราแล้วเขาสมควรมีพลังต่อสู้อย่างน้อยสามดาว ต่อให้หลิงฮันบรรลุขั้นสมบูรณ์ชั้นสูงสุดก็คงไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้

“ดูจากศักยภาพของเชี่ยตงหลายแล้ว หากเขาจะทำการทะลวงผ่านคงไม่ใช่ขั้นสมบูรณ์แต่เป็นระดับดารา” หลิงฮันคาดการณ์ “ข้าต้องรีบบ่มเพาะพลังให้บรรลุขั้นสมบูรณ์สูงสุด หากเชี่ยตงหลายจะทะลวงผ่านระดับก็ต้องรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ข้าจะฉวยโอกาสในตอนนั้นสังหารเขา!”