ตอนที่ 2138

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,138 : พื้นที่พันธนาการ!

 

“เป็นนายน้อยพันธมิตร 7 สังหารโอวฉิง กับนายน้อยพันธมิตรพันสารท ตงกั๋วจื่อ! ทั้งคู่ถูกกำจัดออกมางั้นเหรอ!?”

 

การปรากฏตัวของโอวฉิงและตงกั๋วจื่อย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบๆไม่น้อย คนที่ไม่ได้เข้าไปและคนที่ถูกขับออกมา มีหลายคนที่จดจำพวกมันทั้งคู่ได้

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมาจากโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นโอวฉิง หรือตงกั๋วจื่อ ก็ชักสีหน้าอัปลักษณ์ปั้นยากขึ้นมาทันที

 

เกือบแล้วเชียว!

 

อีกแค่นิดเดียวพวกมันก็จะผ่านการทดสอบอยู่แล้ว!

 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาสำคัญ พวกมันกลับพลาดท่าเสียที!

 

พวกมันย่อมไม่เต็มใจถึงที่สุด ไม่ยินยอมพร้อมใจถึงที่สุด…

 

แต่แน่นอนว่าหากพวกมันยังรู้ว่าหลังบททดสอบที่พวกมันล้มเหลว ยังมีบททดสอบอีกมากมายเป็นกระบุง พวกมันคงไม่คิดแบบนี้…

 

“เฮ่ๆ ตงกั๋วจื่อ เจ้าถูกเตะออกมาแทบจะพร้อมๆกันกับข้าเลยนี่นา…ฮัยยา ดูเหมือนว่าที่แท้นายน้อยของพันธมิตรพันสารทก็ไม่เท่าไหร่เลยนี่นา จึกๆๆๆ”

 

หลังได้เห็นว่าตงกั๋วจื่อก็ถูกขับออกมาพร้อมๆกันกับมัน โอวฉิงก็ไม่เสียใจอะไรอีก

 

กระทั่งมันยังมองตงกั๋วจื่อด้วยสายตาล้อเลียน ยกยิ้มเย้ยกล่าวเสียดสีเสียงดังว่า “ไม่ใช่แต่ก่อนเจ้าชอบหาว่าข้าเป็นพวกนายน้อยรุ่น 2 ที่ไม่เอาไหนรึไงหา? แล้วทำไมนายน้อยคนเก่งของพันธมิตรพันสาทรถึงไม่ได้ดีไปกว่าข้าเลยเล่า? ถุย! ที่แท้เจ้ามันก็แค่นี้ล่ะว้า ทีหลังอย่ามาทำเป็นพูดว่าข้า…ตัวไม่เอาไหน!!”

 

ในที่สุดก็มีโอกาสให้กล่าวแขวะตงกั๋วจื่อมาทั้งที โอวฉิงย่อมไม่พลาดโอกาสดีงามนี้เป็นธรรมดา

 

“โอวฉิง!!”

 

ได้ยินวาจาเสียดสีจากโอวฉิง ตงกั๋วจื่อถึงกับหัวร้อนขึ้นมาทันที!

 

เพราะไม่ใช่แค่มันเท่านั้นที่ดูถูกโอวฉิงว่าไม่เอาไหนมาตลอด ทั้งนครแห่งบาปก็ล้วนดูถูกโอวฉิง และคิดว่ามัน ตงกั๋วจื่อ แข็งแกร่งกว่าโอวฉิงมากทั้งนั้น!

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆที่มองจ้องมาจากผู้คนรอบๆ ตงกั๋วจื่อก็รู้สึกอับอายนัก ยังอยากจะขุดหลุมแล้วมุดเข้าไปหลบหน้าผู้คนให้รู้แล้วรู้รอด! ขายขี้หน้าเหลือเกิน!!

 

เห็นหน้าตงกั๋วจื่อบิดเบี้ยว โอวฉิงก็ถูกใจนัก! มันหัวร่อดังลั่นอย่างสาแก่ใจ กระทั่งยังคิดว่า มีโอกาสได้ถล่มโอวฉิงแบบนี้ถึงถูกกำจัดก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว…

 

ขวับ! วูบ! วุบ!

 

……

 

หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนที่ถูกขับออกเรื่อยๆคนแล้วคนเล่า

 

คนที่ถูกขับออกมาตอนแรกๆก็เป็นแค่เซียนสวรรค์ 1เปลี่ยนหรืออ่อนด้อยกว่านั้น ต่อมาก็เริ่มมีเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยน สักพักกระทั่งเซียนสวรรค์ 3เปลี่ยนก็ถูกขับออกมา!

 

“ตาแก่อวี๋!”

 

“ผู้เฒ่าเซียว!”

 

เมื่อร่างเห็นร่าง 2 ร่างที่ปรากฏตัวขึ้นแทบจะพร้อมกันล่าสุด โอวฉิงกับตงกั๋วจื่อก็โพล่งดังออกมาพร้อมๆกัน

 

และคนที่ทำให้โอวฉิงกับตงกั๋วจื่อถึงกับหลุดอุทานออกมาแบบนี้ ก็คืออาวุโสของพันธมิตร 7 สังหาร และอาวุโสของพันธมิตรพันสารท!

 

แน่นอนว่าหากเป็นอาวุโสธรรมดาๆ คงไม่ทำให้พวกมันแปลกใจถึงขั้นต้องอุทานอะไรออกมาแบบนี้

 

แต่เหตุผลที่พวกมันถึงกับต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจนั้น เป็นเพราะอาวุโสทั้งคู่ถือว่าเป็นตัวตนที่ไม่ธรรมดาอยู่บ้างในพันธมิตรของพวกมัน!

 

“นั่นมิใช่อาวุโสอวี๋จงของพันธมิตร 7 สังหารหรือไร?”

 

“ส่วนคนผู้นั้น หากจำมิผิดก็คือ อาวุโสเซียวเผิงของพันธมิตรพันสารท!”

 

“ให้ตายเถอะ อวี๋จงกับเซียวเผิงนั่นมิใช่เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนหรือไร…กระทั่งยังติดอยู่ใน 200 อันดับแรกของรายนามยอดเซียนด้วยซ้ำ!”

 

“มิผิด…ทั้งคู่นับเป็นสุดยอดฝีมือของขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนจริงๆ กระทั่งฉุนหวู่ของพันธมิตรร้อยวิญญาณที่ว่าแน่ก็สู้ทั้งคู่ไม่ได้ เผลอๆจะถูกทั้งคู่สยบเอาได้ในไม่กี่ท่า! ไม่คิดเลยว่ากระทั่งฝีมือระดับนี้ยังถูกขับออกมา!!”

 

“โอย…นับว่าความยากของบททดสอบในคลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนคนนี้มีไม่น้อยจริงๆ…หากมิใช่ชนชั้นยอดฝีมือจริงๆน่ากลัวยากจะคาดหวังอะไรได้…ข้าคิดว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่จะแสวงโชคในนั้นได้คงมีไม่มาก”

 

“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า…”

 

……

 

เหล่าผู้ที่ถูกคัดออกได้แต่กล่าวบ่นด้วยความเสียดาย

 

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ที่ถูกคัดออกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

และคนที่ถูกคัดออกนั้น ก็มีจุดร่วมเหมือนกันก็คือ…

 

ทั้งหมดล้วนอยู่ใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน!

 

“ตอนนี้ผู้ที่พลังฝึกปรือไม่ถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 4เปลี่ยนของพันธมิตร 7 สังหาร พันธมิตรพันสารท และพันธมิตรหมื่นโบราณเหมือนจะถูกขับออกมาถ้วนหน้า…นอกจากนั้นยังมีเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนของพันธมิตรอำนาจทรราช และพันธมิตรร้อยวิญญาณถูกขับออกมาเช่นกัน…”

 

“เซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนของพันธมิตรอื่นๆก็ถูกขับออกมาเช่นกัน…ดูเหมือนตอนนี้คนที่จะอยู่ด้านในได้พลังฝึกปรือล้วนต้องบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน แถมพลังฝีมือต้องร้ายพอตัว…”

 

“อืม…เซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนที่ยังไม่ถูกขับออกมา มีแค่ของพันธมิตรใหญ่ กับคนของลัทธิอารามทมิฬทั้งนั้น…ที่พวกมันไม่ถูกขับออกมาแสดงว่ายังรับมือกับบททดสอบด้านในไหวอยู่…”

 

“สมควรเป็นเช่นนั้น”

 

……

 

ในขณะที่ผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลายกล่าวถึงเรื่องนี้ ก็มีเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนที่ไม่ใช่คนของพันธมิตรใหญ่และลัทธิอารามทมิฬถูกขับออกมาเรื่อยๆคนแล้วคนเล่า

 

“ให้ตายเถอะ…”

 

“โอย กระทั่งเจ้านั่นยังถูกขับออกมา…นี่ถ้ามิใช่เซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนที่พลังฝีมือพอตัว ไม่อาจต้านทานได้ไหวจริงๆหรือเนี่ย?”

 

“เหอะๆ คลังสมบัตินี่นับว่ามีเกณฑ์การประเมินสูงลิบนัก…ดูเหมือนถ้าไม่ใช่เซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนชนชั้นมากฝีมือ อย่าได้คิดจะมีโอกาสได้เห็นสมบัติอันใด”

 

“ธรณีประตูนี้…สูงเกินไป! ผู้คนข้ามกันไม่ได้แล้ว!!”

 

……

 

ตอนนี้คนที่อยู่ด้านนอกอดไม่ได้ที่จะบ่นโอดครวญกันยกใหญ่ ทั้งหมดรู้สึกอับจนหนทางไม่น้อย

 

ให้กล่าวจากใจ พวกมันไหนเลยจะอยากถูกขับออกมาแบบนี้

 

อนิจจาบางสิ่งก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของพวกมัน

 

“อย่างไรก็ตามบททดสอบด้านในมันวิปริตเกินไป…แต่ละด่านยิ่งมายิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะไม่มีจุดสิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น!”

 

“นั่นสิ ตอนที่ข้าถูกขับออกมาก็ยากเย็นยิ่ง หากยังมีอีกสักด่านสองด่าน น่ากลัวเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนทั่วไปก็ไม่พ้นถูกขับออกมาหมดสิ้น!!”

 

……

 

เหล่าเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนออกความเห็นกันไม่หยุด พวกมันมองเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนที่ถูกขับออกมาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

 

หากจะถามว่าในบรรดาผู้ที่ถูกขับออก เป็นพวกไหนที่รู้สึกขื่นขมที่สุด ก็คือพวกสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนเหล่านี้

 

ตอนแรกที่ยังไม่มีเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนถูกขับออกมา พวกมันก็คิดว่าบททดสอบที่พวกมันเผชิญอาจจะเป็น บททดสอบ 2-3 ด่านสุดท้ายแล้ว

 

กระทั่งอาจจะเป็นบททดสอบรองสุดท้ายก็เป็นได้

 

‘ชายในชุดคลุมลมดำ…สมควรเป็นเซียนสวรรค์ 4เปลี่ยนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ!’

 

ผู้นำกองกำลังพันธมิตรอีกาทมิฬหันมองไปรอบๆ ทั้งหลังจากสอบถามเล็กน้อยมันก็พบว่า ศัตรูของพันธมิตรอีกาทมิฬอย่างชายชุดดำผู้นั้น…ยังไม่ถูกขับออกมา! และสมควรเป็นอย่างที่มันคาดเดาไว้ไม่มีผิด ชายชุดดำเป็นเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน!!

 

ตอนแรกที่คาดเดา มันยังคงแอบหวังไว้ในใจอยู่บ้าง

 

แต่ตอนนี้ความหวังสุดท้ายในใจได้หายไปแล้ว เรียกว่าไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวความหวังอันใดอีกเลย

 

“ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเจ้าทั้งหมดต้องละวางความแค้น และความเกลียดชังต่อชายชุดดำนั่นให้หมด…อีกทั้งหลังจากนี้พวกเราพันธมิตรอีกาทมิฬจะไม่ประพฤติตัวเป็นนกขมิ้นอีกต่อไป!!”

(นกขมิ้นในที่นี้มาจาก…’ตั๊กแตนจ้องจับจั๊กจั่น ไม่รู้ภัยนกขมิ้นอยู่ด้านหลัง’ )

 

เมื่อตระหนักได้ว่ามันและพันธมิตรอีกาทมิฬไม่มีหนทางต่อกรกับชายชุดดำได้เลย ผู้เฒ่าเฮยหยาก็หันไปกล่าวสั่งคนของพันธมิตรอีกาทมิฬด้วยเสียงผ่านพลังทันที…

 

และคำสั่งที่ดั่งประกาศิตนี้ ก็ไม่มีคนของอีกาทมิฬคนใดคัดค้าน!

 

พลังฝีมือของชายชุดดำกระทั่งผ็นำที่ร้ายกาจที่สุดยังกลัว ยังนับประสาอะไรกับพวกมัน?

 

กลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกนั้นไม่ได้รู้เลย…

 

ว่าตอนนี้ภายในคลังสมบัติที่เหลือทิ้งไว้ด้วยฝีมือของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จนั้น…มีคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเบื่ออย่างหนัก!

 

คนกลุ่มที่ว่า…มีต้วนหลิงเทียนรวมอยู่ด้วย

 

“โอย เมื่อไหร่ข้าจะออกไปจากที่นี่ได้สักที”

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนอยู่ในพื้นที่ปิดสนิท โดยมี่พื้นที่ปิดสนิทที่ว่า มีพื้นที่ราวๆให้ผู้ใหญ่ 2 คนเบียดกันเท่านั้น ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหดหู่อย่างมาก

 

ตอนแรกต้วนหลิงเทียนเองก็พยายามหาวิธีดิ้นรนให้หลุดออกจากพื้นที่ปิดสนิทดั่งกรงขังนี่แล้ว

 

แต่ถึงแม้เขาจะลงมือโดยไร้ซึ่งการออมรั้งพลังใดๆ โดยใชกระบี่นิลสวรรค์ เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย เรียกว่ามันไม่สะเทือนด้วยซ้ำ!

 

พื้นที่ปิดสนิทนี้แข็งแกร่งเกินไป มันเป็นอะไรที่ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ไม่อาจทำอะไรได้เลย ผนึกกักเขาไว้ราวกรงขัง ไม่อาจไปไหนได้

 

“ผู้เฒ่าหั่ว พื้นที่นี่มันอะไรกันแน่ ทำไมพลังของข้าไม่ระคายมันเลยล่ะ?”

 

ต้วนหลิงเทียนได้กล่าวถามผู้เฒ่าหั่วออกมาทันทีหลังจากลองใช้พลังทำลายแล้วไม่เป็นผล

 

“พื้นที่ดังกล่าวเป็นผลพวงจากการสร้างระนาบเทียม…ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ในระนาบเทียมแห่งนี้ เจ้าถูกกำหนดให้ต้องถูกส่งตัวมาติดอยู่ที่นี่ และไม่อาจหลุดออกไปได้ไม่ว่าเจ้าจะพยายามอย่างไรก็ตาม…”

 

“แน่นอนว่าหากเจ้าเป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จแล้ว กระทั่งคิดออกจากระนาบเทียมแห่งนี้เจ้ายังใช้กำลังฝ่าไปได้ กับอีแค่พื้นที่พวกนี้ย่อมไม่อาจขังเจ้าไว้ได้เป็นธรรมดา”

 

นี่คือคำตอบที่ผู้เฒ่าหั่วมอบให้เขา

 

และฟังจากคำของผู้เฒ่าหั่ว…

 

ต่อให้เป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน แต่หากยังไม่ได้ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ยังไม่มีปัญญาหลุดออกจากพื้นที่ผีสางนี้ด้วยซ้ำ!

 

ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปแล้ว กับผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ยังไม่ผ่านทัณฑ์สวรรค์ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

 

ช่องว่างระหว่างทั้ง 2 ต่างกันราวกับอยู่คนละโลก!

 

หลังได้ฟังคำตอบของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็ล้มเลิกความคิดดิ้นรนให้หลุดออกจากพื้นที่แห่งนี้ทันที

 

ล้อกันเล่นหรือไง?

 

ไม่ได้ยินที่ผู้เฒ่าหั่วบอกเหรอ กระทั่งเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนที่ยังไม่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ยังไม่อาจทำได้ แล้วเขาจะเอาปัญญาที่ไหนมาแหกพื้นที่ผีสางนี่เพื่อหลบหนี?

 

กระทั่งตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ยังไม่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ยังเป็นอะไรที่ลำบากแค่ยกนิ้วก็ฆ่าเขาได้…เกรงว่าถ้าเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์มา แค่ใช่สำนึกเทวะกดดัน เขาก็ตายแล้ว!!

 

“จะว่าไปบททดสอบก่อนที่จะมาติดแหง็กที่พื้นที่ผีสางนี่ก็ช่างยากเหลือเกิน…ถ้าไม่ใช่ว่าพลังเซียนสุริยันพอได้ฟื้นฟูขึ้นมาหลังเข้าระนาบเทียมหลายส่วน… ด่านสุดท้ายนั่นถึงจะใช้กระบี่นิลสวรรค์ก็คงไม่มีทางผ่านมาได้แน่…”

 

นึกถึงบททดสอบสุดท้ายก่อนหน้านี้ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหวาดเสียวอยู่บ้าง

 

บททดสอบสุดท้ายนั่น หากไม่ใช้กระบี่นิลสวรรค์ด้วยพลังเซียนสุริยันกว่า 7 ส่วนเขาไม่อาจผ่านมันมาได้แน่!

 

หลังจากผ่านการทดสอบสุดท้าย ต้วนหลิงเทียนก็เห็นว่ารอบข้างมืดลงไปวูบหนึ่ง รู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกส่งมาในพื้นที่ประหลาดแห่งนี้เสียแล้ว

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้เลย

 

ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ติดอยู่ในพื้นที่พันธนาการเช่นนี้

 

กระทั่งคนอื่นๆที่ผ่านบททดสอบมาแล้วก็คิดแหง็กเหมือนเขาเช่นกัน

 

ผู้นำพันธมิตร 7 สังหาร ผู้นำพันธมิตรพันสารทและผู้นำพันธมิตรหมื่นโบราณ ไม่เว้นเมิ่งฮ่าวและแม่เฒ่าอสรพิษ…สองคนที่บรรลุขอบเขตเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยน ก็ติดแหง็กอยู่ในพื้นที่แบบนี้เหมือนกัน!

 

เรียกว่าใครที่ผ่านบททดสอบมาจะถูกกักไว้ในพื้นที่พันธนาการดังกล่าวโดยไร้ซึ่งข้อยกเว้น!

 

ราวกับต้องรอให้คนทั้งหมดทดสอบเสร็จสิ้น…

 

“ยินดีด้วยเจ้าผ่านการทดสอบ…วัดคุณสมบัติแล้ว”

 

หลังจากที่ผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่ทราบ อยู่ๆพลันมีเสียงหนึ่งดังเข้าหูต้วนหลิงเทียน

 

เสียงนี้ประหนึ่งหมอกสลัว ไร้ตัวตน ยากจับต้อง ไม่ทราบมาจากไหน…