คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1504
นับตั้งแต่เริ่มการประลองเพื่อหาพระสวามีของเจ้าหญิง มัตเตโอ แฮนสันได้รับกำลังใจจากฝูงชนมากที่สุด และยังมีพลังยุทธ์ในระดับเทพยุทธ์อีกด้วย!
แต่ในตอนนั้นเขาหักโหมมากไป
ที่สำคัญกว่านั้น ลูก้า มูนไลท์คู่ต่อสู้ของเขาก็อยู่แค่ในระดับจักรพรรดิยุทธขั้นห้าเท่านั้น
“แก…”
มัตเตโอตะเกียกตะกายออกมาจากหลุมลึกในขณะนั้นและจ้องมองไปยังแดร์ริลด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “นี่แกเองก็บ่มเพาะเปลวเพลิงเมฆอินทนิลมาด้วยอย่างนั้นหรือ?”
กว่าที่จะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเขาก็พูดไปได้ครึ่งประโยคแล้ว ต่อให้ลูก้าจะฝึกบ่มเพาะเปลวเพลิงเมฆอินทนิลมาเหมือนเขา แต่มัตเตโอก็จะไม่แพ้เพราะพลังยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งกว่าของลูก้ามาก
แดร์ริลลงมาจากกลางอากาศอย่างช้า ๆ ก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัยให้มัตเตโอ “ผมจะบ่มเพาะเปลวเพลิงเมฆอินทนิลหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะคุณแพ้ไปแล้ว!”
แดร์ริลระงับความโกรธในใจของเขาอย่างหนัก ในตอนที่เขาพูดถึงเรื่องนี้
ความจริงแล้วแดร์ริลนึกอยากจะฆ่าเขาด้วยการโจมตีครั้งนั้น เมื่อนึกถึงสิ่งที่มัตเตโอเคยทำในอดีต
แต่เขาตระหนักดีว่า นี่คือการประลองยุทธรอบชิงชนะเลิศ และเขายังต้องพาอีเวตต์ไปด้วย ดังนั้นเขาจึงยับยั้งตัวเองไว้
“แก… อั่ก!”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนั้น มัตเตโอก็ทางโกรธและตกตะลึงในเวลาเดียวกัน เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ต้องกระอักเลือดออกมาเพราะอารมณ์ที่เก็บกดไว้
แม้ว่าการโจมตีของแดร์ริลจะไม่ทำให้ถึงตาย แต่มันก็ทำให้หลอดเลือดหัวใจของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
มัตเตโอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะสู้ต่อไปได้อีก!
ในเวลาเดียวกันฟลอเรียนเดินออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้นเพราะจักรพรรดิแห่งโลกใหม่ให้สัญญาณ เขาประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “ทุกท่าน! ผมขอประกาศว่าผู้ชนะในการประลองยุทธในครั้งนี้ได้แก่ ลูก้า มูนไลท์!”
ผู้ชมค่อย ๆ รู้สึกตัวเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ทุกคนยังคงเงียบขณะที่พวกเขายังคงมองไปที่แดร์ริลด้วยความไม่เชื่อ
เป็นที่แน่ชัดว่าการแข่งขันครั้งนี้มีจุดจบที่ไม่มีใครคาดถึง ผู้ฝึกยุทธ์ในระดับเทพยุทธ์อย่างมัตเตโอ แฮนสันกลับพ่ายแพ้ ลูก้า มูนไลท์ผู้นี้คือใครกันแน่? เขาเป็นอัจฉริยะแบบไหนกัน?
นอกจากนี้ หากเขาทรงพลังขนาดนี้แล้ว ปรมาจารย์ที่สอนวิชาให้กับเขาจะทรงพลังขนาดไหน?
“เขา… ชนะงั้นเหรอ?”
สโลนนั่งตัวสั่น ขณะมองแดร์ริลอย่างไม่อยากเชื่อสายตาด้วยใจที่สั่นไหว สโลนไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นในใจของเธอได้ เธอพูดกับอีเวตต์ว่า “องค์หญิงเพคะ ลูก้า มูนไลท์มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากยิ่ง เขาชนะ…”
สโลนมีดีใจกับอีเวตต์ด้วยความจริงใจในขณะเธอพูดอย่างนั้น!
ลูก้า มูนไลท์ไม่เพียงแต่เฉลียวฉลาดเท่านั้น แต่พลังยุทธ์ของเขาเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน และไม่แพ้แดร์ริล ดาร์บี้เลย! ถ้าลูก้ากลายเป็นพระราชสวามีขององค์หญิง เธอจะต้องมีความสุขแน่
แต่ถึงอย่างนั้น!
สีหน้าของอีเวตต์กลับเย็นชาและไม่ตอบสนอง ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นหันหลังกลับและมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องในวังของเธอ โดยไม่แม้แต่จะมองแดร์ริลด้วยท่าทีเย็นชาอย่างยิ่งอย่างเคย
ใช่ พรสวรรค์ของลูก้านั้นคล้ายคลึงกับแดร์ริลจริง ๆ
แต่เพราะความที่เขาคล้ายคลึงกับแดร์ริลนั้นที่ทำให้อีเวตต์ต่อต้านเขา
ไม่มีใครจะสามารถแทนที่แดร์ริลในใจของอีเวตต์ได้
เฮ้อ…
สโลนถอนหายใจเมื่อเห็นอีเวตต์จากไป
ในขณะเดียวกัน แดร์ริลที่อยู่บนเวทีการต่อสู้ก็แอบยิ้มอย่างขมขื่น แต่ก็รู้สึกประทับใจในเวลาเดียวกัน การที่อีเวตต์โกรธจนต้องลุกออกจากสนามประลองไปเช่นนี้ก็หมายความว่าในใจของเธอยังมีเขาอยู่
‘อีเวตต์ อย่าโกรธไปเลย ฉันอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว…’
จากนั้นราชองครักษ์สองสามคนก็เข้ามาโดยแต่ละคนถือกล่องที่เต็มไปด้วยยาอายุวัฒนะล้ำค่า มันเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ชนะในการแข่งประลองยุทธ
โอสถคืนชีพเก้าเม็ด โอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทอง… แต่ละอันหายากและล้ำค่า
เหวอ!
ฝูงชนและผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ข้างสนามประลองต่างพากันอิจฉา
เพราะว่าแดร์ริลไม่ได้แสดงความตื่นเต้นมากนัก เขาโค้งคำนับจักรพรรดิแห่งโลกใหม่อย่างนอบน้อม “ขอบพระทัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท!”
จุดมุ่งหมายในการชนะการประลองก็เพื่อที่เขาจะได้พาอีเวตต์ออกไป รางวัลเหล่านี้ไม่สำคัญอะไรสำหรับเขาเลย
อีกทั้งแดร์ริลเองก็เป็นปรมาจารย์ด้านโอสถที่มีทักษะลึกซึ้งในด้านการบ่มเพาะโอสถ เขาสามารถบ่มเพาะโอสถที่ราชวงศ์แห่งโลกใบใหม่ให้เป็นรางวัลแก่เขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจึงไม่มีค่าอะไรสำหรับเขา