เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1269

พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!

เสียงอึกทึกดังขึ้นกลางสนามบู๊

เมื่อโยนแท่งหยกออกไป ท่านแปดก็เหาะถอยหลังออกไป เขาเดินได้ไม่กี่ก้าว

ก็มีหมัดของสองคนปะทะกัน เป็นหมัดของลู่ฝานกับเทียนชิงหยาง

เหมือนทั้งสองคนถึงพร้อมกัน เห็นแท่งหยกที่เขียนเลขแปดเอาไว้ในเวลาเดียวกัน

อันที่จริงควรพูดว่าไม่ว่าจะแย่งแท่งหยกอันไหนได้ก็ไม่สำคัญ เพราะถึงตัวเองแย่งได้ ก็ไม่รู้ว่าคู่แข่งของตัวเองคือใคร

แต่ลู่ฝานกับเทียนชิงหยางมีแผนของตัวเอง พวกเขาคิดว่าดูการต่อสู้ของคนอื่นให้จบก่อน หลังจากนั้นตัวเองค่อยต่อสู้จะดีกว่า

ดังนั้นจุดประสงค์ของทั้งสองคนเหมือนกัน จึงเกิดการปะทะกัน

หลังผ่านไปหนึ่งหมัด ทั้งสองคนถอยออกมาครึ่งก้าว ตอนนี้คนอื่นก็รีบเข้ามาเหมือนกัน

ลู่ฝานจ้องเทียนชิงหยางเขม็ง เทียนชิงหยางส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วคว้าไปทางแท่งหยกหมายเลขแปดอีกครั้ง

ลู่ฝานทำมือเป็นกรงเล็บ ยื่นมือปล่อยกระบวนท่าออกมา ทันใดนั้นแท่งหยกรอบๆ ลอยเข้ามา รวมถึงแท่งหยกหมายเลขแปดนั่นด้วย

เทียนชิงหยางเห็นท่าไม่สู้ดี จึงเร่งความเร็วที่ฝ่ามือ

ลู่ฝานสะบัดฝ่ามือ ทันใดนั้นแท่งหยกทั้งหมดกระจายไปทั่ว

คนอื่นที่เพิ่งพุ่งเข้ามาข้างหน้า เห็นแสงแปดแสงลอยกระจายไปทั่ว

ภายใต้ความตกตะลึง ทุกคนพุ่งเข้าไปคว้าแสงเอาไว้ ลู่ฝานใช้โอกาสนี้คว้าแสงหนึ่งเอาไว้ แล้วเคลื่อนตัวถอยออกมาอย่างรวดเร็ว

ทั้งแปดคนร่วงลงสู่พื้น ในมือมีแท่งหยกคนละอัน!

ทุกอย่างเมื่อครู่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นักบู๊ทั่วไปเห็นแค่ท่านแปดพูดจบ ทุกคนก็ลงมาบนพื้นพร้อมแท่งหยกแล้ว

มีเพียงนักบู๊ที่วิทยายุทธสูงส่งเหมือนท่านแปด ที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้อย่างชัดเจน

คนที่ดูออก ชื่นชมฝีมือของพวกลู่ฝาน ส่วนคนที่ดูไม่ออก ก็ตกใจกับความเร็วของพวกลู่ฝาน

เทียนชิงหยางบีบแท่งหยกเอาไว้ในมือ มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ฝีมือต่ำต้อย!”

ลู่ฝานอมยิ้มแล้วพูดว่า “ดูก่อนแล้วค่อยพูด”

เทียนชิงหยางก้มมองแท่งหยกในมือตัวเอง เขาหน้าเปลี่ยนสีทันที

เขาจำได้ว่าตัวเองแย่งแท่งหยกหมายเลขแปดมาแท้ๆ ทำไมที่อยู่ในมือคือหมายเลขสี่ล่ะ

ลู่ฝานมองในมือตัวเอง ในมือเขาต่างหากคือหมายเลขแปด

ตอนนั้นลู่ฝานใช้แรงผลักของปราณชี่ของตัวเอง รวมถึงแรงดึงดูดด้วย

เมื่อใช้ทักษะน่าอัศจรรย์ทั้งสองอย่างออกมา ถ้ายังไม่ได้หมายเลขที่ตัวเองต้องการอีก ลู่ฝานคงไม่ต้องสู้ต่อแล้ว ยอมแพ้ก่อนจะดีกว่า!

ทุกคนมองแท่งหยกในมือตัวเองเงียบๆ จากนั้นจึงมองไปทางคนอื่น

ตอนนี้ท่านแปดเดินเข้ามาพูดอีกครั้ง “ดีมาก ดูเหมือนทุกคนรู้หมายเลขของตัวเองแล้ว นักบู๊ที่ได้หมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองอยู่ต่อ ส่วนคนที่เหลือถอยไป!”

ลู่ฝานและคนอื่นค่อยๆ ถอยไปข้างหลัง เท้าเหยียบเศษหินที่ลอยอยู่ กลับมาที่เก้าอี้กิเลน

คนที่ยังอยู่ในสนามคือหลู่ยินกับเสอหลิง!

หลู่ยินมองแท่งหยกหมายเลขหนึ่งในมือตัวเอง ย่นปากยู่แล้วพูดว่า “รังแกคนนั่งรถเข็นอย่างฉัน วิ่งก็ช้า การจับฉลากนี้ไม่ยุติธรรม”

เสอหลิงเก็บแท่งหยกในมือ ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ฉันคิดว่ายุติธรรมมาก ถ้าไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่ตั้งใจเอาแท่งหยกหมายเลขสองมาฆ่าสาวสวยอย่างเธอโดยเฉพาะ!”

เสอหลิงแลบลิ้นที่เหมือนงูของเขาออกมาอีกแล้ว อักษรยันต์ทั้งตัวส่องสว่าง

ทุกคนได้ยินคำพูดของเขาชัดเจน

สีหน้าของหลู่ยินเย็นชาลงทันที “นายตั้งใจสู้กับฉันโดยเฉพาะเลยเหรอ”

เสอหลิงพูดอย่างราบเรียบว่า “ไม่ได้เหรอ”

รอยยิ้มแห่งความชั่วร้ายผุดขึ้นตรงมุมปากของหลู่ยิน เธอพูดช้าๆ ว่า “งั้นนายคงมาหาผิดคนแล้วล่ะ!”

บทสนทนาของทั้งสองคน ดังสะท้อนอยู่กลางท้องฟ้า