บทที่ 1004 ปรากฏตัว

Mars เจ้าสงครามครองโลก

“พวกเราก็ไปกันเถอะ!”

จงหยู่มองทิศทางที่เย่เซิ่งเทียนจากไป จากนั้นเขาก็สั่งการทันที

การต่อสู้กับตระกูลเซียวในครั้งนี้ มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่ในตระกูลลี้ลับอย่างแน่นอน!

ตระกูลเซียวโดนฆ่าล้างตระกูล มันได้ทำลายสมดุลของตระกูลลี้ลับที่รักษามานานแล้ว

ยุคแห่งการแย่งชิง กำลังจะมาถึงแล้ว!

ตระกูลจงจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้เทียบเท่ากับตระกูลลี้ลับก่อนที่ยุคแห่งการแย่งชิงจะมาถึง มิฉะนั้นโอกาสของตระกูลจงจะมีน้อยมากๆ

“คุณพ่อ หลังจากนี้พวกเราควรทำยังไงต่อ?”

ระหว่างเดินทาง จงกวงขมวดคิ้วและถาม

ถึงแม้พวกเขาฆ่าล้างตระกูลเซียวสำเร็จ ทำให้ตระกูลต่างๆหวาดกลัวตระกูลจง แต่ตระกูลจงก็จะมีปัญหาอื่นๆตามมา

“แสดงความจงรักภักดี”

จงหยู่เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

จงกวงเข้าใจทันที:”แล้วทางฝั่งหลินเย่ละ?”

จงหยู่พูดเบาๆ:”ใครคือหลินเย่ เขาคือเย่เซิ่งเทียนต่างหาก พวกเราแสดงความจงรักภักดีต่อสรวงสวรรค์ มันจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของพวกเรากับเย่เซิ่งเทียนเหรอ?”

จงกวงถามด้วยความไม่พอใจ:”คุณพ่อ เย่เซิ่งเทียนเป็นแค่หนูทดลองของสรวงสวรรค์ ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนแข็งแกร่งมากๆจนสามารถทำลายตระกูลเซียวได้แล้ว ทางฝั่งสรวงสวรรค์ก็คงจะลงมือกำจัดเย่เซิ่งเทียนอย่างแน่นอน ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ พวกเรายังร่วมมือกับเย่เซิ่งเทียน มันเท่ากับพวกเราคิดจะเป็นศัตรูกับสรวงสวรรค์”

จงหยู่พูดอย่างเคร่งขรึม:”แกคิดว่าเย่เซิ่งเทียนไม่มีวิธีรับมือเหรอ? เหล่าจู่ตระกูลเซียวก็โดนสังหารไปแล้ว มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียน แกต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง จากข้อมูลของพวกเรา เย่เซิ่งเทียนเริ่มฝึกฝนบำเพ็ญเซียนจนถึงตอนนี้ ใช้เวลาแค่สี่ถึงห้าปีเอง”

“ใช้เวลาสั่นๆแค่สี่ห้าปี แต่เขากลับแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ เขาคือสุดยอดอัจฉริยะจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เย่เซิ่งเทียนไม่ได้เป็นคนที่อยู่นิ่งๆได้ เขาปรากฏตัวในตระกูลลี้ลับก็เพื่อต่อสู้กับสรวงสวรรค์ ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ใจกล้าขนาดนี้ เขาจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ออกมาเหรอ?”

“แกคิดว่าในตระกูลลี้ลับจะไม่มีใครสนับสนุนเย่เซิ่งเทียนเลยเหรอ? แกคิดว่าไอ้เฒ่าประหลาดพวกนั้นจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลยเหรอ? แผนการครั้งนี้ซับซ้อนและยุ่งยากมากๆ ถึงแม้เขาจะประสบความสำเร็จและแข็งแกร่งได้อย่างทุกวันนี้ มันก็ต้องเกี่ยวข้องกับสรวงสวรรค์อยู่แล้ว”

“แต่แกต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง ภายใต้แผนการของไอ้เฒ่าประหลาดของสรวงสวรรค์ แต่เย่เซิ่งเทียนยังสามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ มันแสดงให้เห็นว่าเย่เซิ่งเทียนโชคดีมากๆ เมื่อความแข็งแกร่งกับความโชคดีรวมตัวกันที่คนๆหนึ่ง พวกเราต้องให้ความสำคัญกับคนๆนี้ให้มากๆ ”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จงหยู่หรี่ตาเล็กน้อยและพูดเบาๆ:”แกไม่เคยครุ่นคิดเลยเหรอ ทำไมเย่เซิ่งเทียนต้องรักษาโรคให้ฉัน? ทำไมเขาบังเอิญพบหน้าเสี่ยวอู่ที่บ่อนการพนันด้วย?”

จงกวงเข้าใจทันที ก่อนหน้านี้เขาเคยครุ่นคิดเรื่องนี้มาก่อน เมื่อคิดอีกที นี่คือแผนการที่เย่เซิ่งเทียนวางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!

“คุณพ่อ ความหมายของท่านคือ……”

จงหยู่หัวเราะเบาๆและพูด:”สถานการณ์ตอนนี้น่าสนใจมากๆ เย่เซิ่งเทียนสามารถรู้ว่าฉันเป็นโรคอะไร ต้องมีคนชี้นำอย่างแน่นอน เย่เซิ่งเทียนมารักษาโรคให้ฉันก็เพื่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ พวกเราโดนเขาหลอกใช้แล้ว แน่นอนว่าผลลัพธ์ในวันนี้ พวกเราก็อยากจะให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว พูดกันตามตรงว่าพวกเราก็ไม่ได้โดนหลอกใช้ทั้งหมด แต่เพราะเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นโดนบังเอิญต่างหาก”

จงกวงหายใจเร็วด้วยความตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มอย่างเย่เซิ่งเทียนจะเป็นคนที่สุขุมและน่ากลัวขนาดนี้!

เย่เซิ่งเทียนยังมีไผ่ตายมากน้อยแค่ไหนกันแน่?

หนูทดลองอย่างเขา สรวงสวรรค์สามารถควบคุมเขาได้จริงๆเหรอ?

“คุณพ่อ ฉันเข้าใจแล้ว”

จงหยู่พูดด้วยความพอใจ:”ไม่จำเป็นต้องประจบอีกฝ่าย พวกเราได้ร่วมมือกับเขาในครั้งนี้แล้ว เย่เซิ่งเทียนก็เข้าใจความต้องการของตระกูลเรา พวกเราต่างหลอกใช้อีกฝ่ายเหมือนกัน ถ้าเขาโดนสรวงสวรรค์สังหารจริงๆ สำหรับพวกเราแล้ว มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย”

หลังจากพวกเขาจากไปได้ไม่นาน ด้านบนของตระกูลเซียว มียอดฝีมือหลายๆคนปรากฏตัว

“ป้ายเรียกเซียน? ตระกูลเซียวใช้มันออกมาเหรอ?”

“ฮ่าๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ตระกูลเซียวใช้ป้ายเรียกเซียนแล้ว แต่ก็ยังโดนฆ่าล้างตระกูลอีก!”
“ดูเหมือนหนูทดลองอย่างเย่เซิ่งเทียนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เทพอาวุโสเหนือ พวกคุณคิดจะทำยังไงต่อ?”

ยอดฝีมือคนอื่นๆต่างมองไปที่เทพอาวุโสเหนือ

เทพอาวุโสเหนือพูดด้วยความเคร่งขรึม:”ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลการทดลองแล้ว!”

มีคนเอ่ยปากพูด:”มวลสารทิพย์ที่อยู่ในร่างกายของเย่เซิ่งเทียน พวกเราก็ควรจะได้ส่วนแบ่งด้วย”

มีคนหัวเราะและพูด:”พวกแกกลับไปปรึกษากับเทพองค์ใหญ่ก่อน ถ้าพวกเราลงมือฝ่ายเดียวคงต่อสู้กับสรวงสวรรค์ไม่ไหว แต่ถ้าพวกเราร่วมมือกันละ”

เทพอาวุโสเหนือพูดเบาๆ:”ข่มขู่เหรอ?”

ชายชราชุดดำคนหนึ่งพูด:”ใครจะไปกล้าข่มขู่พวกแกละ ไปกันเถอะ”