ตอนที่ 917: อุบายของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 917: อุบายของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด

ในตอนนี้เอง เสียงดังอื้ออึงก็ดังมาจากข้างในโถง พลังงานที่รุนแรงก็พุ่งพวยออกมาจากโถงทันที ทำให้พื้นที่รอบ ๆ สั่นไหว

ใจของทุกคนด้านนอกตกไปถึงตาตุ่ม พวกเขาคิดว่าคนที่เข้าไปข้างในต้องแย่แน่ ๆ แล้ว โถงนั่นต้องซ่อนอันตรายเอาไว้มากมายและมันก็ไม่ได้ดูสงบอย่างที่เห็น

โถงระเบิดออกมาดังสองสามครั้งก่อนที่จะสงบลง หลังจากนั้น มันก็ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวอีกเลย ไม่มีใครเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นด้านในเนื่องด้วยพลังของเซียนจักรพรรดิ แม้แต่พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินก็ไม่สามารถทะลุผ่านกำแพงไปได้

“ดูเหมือนพวกเขาจะมาพลาดท่าที่นี่” ความคิดแบบเดียวกันเกิดขึ้นในหัวของทุกคน หลังจากนั้น ความกลัวของทุกคนในโถงนั้นก็มากขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาก็สาบานว่าจะไม่เข้าไปในนั้น

อย่างไรก็ตาม เสียงฝีเท้าหลายเสียงก็ดังออกมาหลังจากนั้น คนทั้งสามที่เข้าไปก็ออกมาอย่างมีชีวิตอยู่ และแต่ละคนเต็มไปด้วยความยินดี เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเจอเรื่องดีดีมา

ในตอนนี้ เกราะของพวกเขาก็สีหม่นลง มันช่วยพวกเขาในการต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงนั้น และดูดซับพลังงานมากมายนั้นเข้าไป

การปรากฏตัวของพวกนั้นดึงดูดความสนใจของทุกคน พวกเขาทั้งหมดจ้องเขม็งไปที่คนทั้งสามคนด้วยความตกใจและสงสัยในขณะที่พวกเขาแสดงท่าทางเหลือเชื่อออกมา

“พวกเขายังมีชีวิตอยู่จริงจริง…”

“อะไรอยู่ด้านในกันแน่…”

หลาย ๆ คนถามออกมาทันทีแต่พวกเขาก็ไม่ได้ตอบรับใดใด ทันทีที่คนทั้งสามออกมาจากโถง พวกเขาก็รีบปรี่เข้าไปหาคนทั้งสามนั้นอย่างไม่ลังเล

“มันต้องมีของดีในโถงเหล่านั้นแน่ พวกเราต้องเข้าไปหามันพวกเราจะให้คนอื่นได้มันไปก่อนพวกเราไม่ได้” บางคนพูดออกมาเสียงดัง หลังจากนั้น คนทั้งหมดก็พุ่งเข้าไปที่โถงรอบ ๆ เป็นกลุ่มอย่างไม่ได้กังวลอะไรแล้ว

“พวกเราก็ไปดูด้วยดีกว่า” เจี้ยนเฉินโบกมือและบอกให้คนด้านหลังเขาเข้าไปที่โถง

เสียงดังระเบิดออกมาจากทุกที่ เซียนผู้คุมกฎบางคนรอบ ๆ ได้เบิดประตูเข้าไปที่โถงในขณะพวกเขาใส่เกราะที่ควบแน่นมาจากพลังของเซียนราชา มีบางคนที่ถูกกระแทกออกมาไกลด้วยพลังงานที่รุนแรงที่พุ่งพวยออกมาจากโถง

เจี้ยนเฉินเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ เขารู้ว่าจอมยุทธทุกคนที่เข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดอาจจะมีพลังของเซียนราชานอกเหนือจากนูบิส ซี่หวังและเขา เซียนราชาได้ให้พวกเขายืมพลังเพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาชีวิตรอดของพวกเขา เพราะว่าถ้าพวกเขานำเอาสมบัติกลับมา คนที่ได้ประโยชน์ก็จะเป็นเผ่าที่หนุนหลังพวกเขาอยู่

“ดูเหมือนจะมีพลังของเซียนราชาอยู่กับโมจื่อและคนอื่น ๆ ด้วย ข้าสงสัยว่าพลังนั้นจะมากขนาดไหนและเซียนราชาที่ให้พลังพวกเขายืมนั้นอยู่ในระดับการฝึกฝนใด” เจี้ยนเฉินมองไปที่คนทั้งสี่ด้านหลังทางหางตาและระวังตัวอยู่ในใจ

คนทั้งเจ็ดหยุดอยู่ตรงหน้าโถงเงียบเงียบสักพัก ซี่หวังพูดขึ้นมาจากอีกข้างหนึ่ง “ทันทีที่ประตูเปิดออก มันจะมีการโจมตีที่ทรงพลังออกมา มันจะทำให้พวกเราคนใดคนหนึ่งบาดเจ็บ ดังนั้นเราควรจะเปิดมันพร้อมกัน”

“แน่นอน ถ้างั้นพวกเรามาเปิดมันพร้อมกัน” ชายชราพูดออกมาเรียบ ๆ เขาคือเกาต้า หนึ่งในคนสี่คนที่เข้าร่วมกับกลุ่มของเจี้ยนเฉิน

ในไม่ช้า คนทั้งเจ็ดก็เปิดประตูพร้อมกัน ในตอนที่พวกเขาเปิด คลื่นพลังงานที่รุนแรงพุ่งออกมาที่พวกเขาทันที

พวกเขาโจมตีออกไปพร้อมกัน และใช้การโจมตีที่ทรงพลังเข้าปะทะกับคลื่นพลังงานนั้น

เสียงอื้ออึงดังขึ้น พวกเขาทั้งเจ็ดกระเด็นถอยหลังเพราะพลังงานนั่น พวกเขาถอยไปสิบกว่าก้าวก่อนที่จะตั้งตัวได้แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

พวกเขาเข้าไปที่โถง โถงนั้นตกแต่งอย่างสวยงามและแม้ว่ามันจะมานานแสนนานตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่มันถูกเปิดออก แต่ด้านในก็สะอาดและปราศจากฝุ่น

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และพุ่งเป้าไปที่โต๊ะในห้องอย่างรวดเร็ว มันมีแหวนมิติ จดหมาย หนังสือเล่มบาง และกระดานหินจัตุรัสขนาดกว้างยาวประมาณ 30 เซ็นติเมตรอยู่บนโต๊ะ

คนทั้งเจ็ดเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นมิติรอบ ๆ ก็เริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงและสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ก็หายไปทันที มันเปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิงซึ่งเปล่งประกายไปด้วยความร้อนที่รุนแรง

“มันร้อนมาก นี่คงเป็นอาคมกับดัก พวกเราตกอยู่ในอาคมกับดักแล้ว” ซี่หวังคำรามออกมา พลังที่ทรงพลังพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาทันทีและกลายเป็นม่านพลังปกป้องรอบตัวเขาจากความร้อน

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ทะเลอย่างสงบ เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนและพูดออกมาอย่างปกติ “อาคมกับดักนี้ทรงพลังมากกว่าที่พวกเขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ถ้าข้าเดาไม่ผิด อาคมกับดักนี้น่าจะเตรียมไว้สำหรับจอมยุทธ 15 ดาว”

“ข้าไม่ชอบความร้อนนี้เลย ผู้คุมกฎ พวกเรามาร่วมมือกันและทำลายมันเดี๋ยวนี้เถอะ” โมจื่อพูดอย่างไม่อดทนพร้อมขมวดคิ้ว สำหรับเผ่าพันธุ์ทะเลที่อยู่ในมหาสมุทร ไฟเป็นจุดอ่อนของพวกเขา ไม่มีคนของเผ่าพันธุ์ทะเลคนไหนที่ชอบไฟ

เจี้ยนเฉินเอายุทธภัณฑ์ราชาออกมาและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาฟันมันอย่างรุนแรงไปที่พื้นที่เหนือเขาในขณะที่กระบี่ของเขาเปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง

การโจมตีนี้เทียบเท่ากับการโจมตีของเซียนราชา มันเกินกว่าความแข็งแกร่งของเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 และมิติของอาคมก็สั่นไหวอย่างรุนแรงในขณะที่กระบี่ตัดผ่านอากาศไป ก่อนที่อากาศจะแตกกระจายออกเสียงดัง

ทะเลไฟหายไปและรอบ ๆ ก็กลับกลายเป็นสภาพเดิม การโจมตีเพียงครั้งเดียวของเจี้ยนเฉินได้ทำลายมันลง

เมื่อคนทั้งสี่ที่มาด้วยกันเห็นแบบนี้ พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจทันที สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือเผ่าเต่านั้นเป็นเผ่าที่มีการป้องกันที่ทรงพลังแต่มีการโจมตีที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ผู้คุมกฎของเผ่าเต่าที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขานี้ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ลบล้างคำพูดดังกล่าวนั้นไปจนหมดสิ้น

“ความแข็งแกร่งของผู้คุมกฎช่างเปิดหูเปิดตาพวกเราจริง ๆ มันเหลือเชื่อมาที่ผู้คุมกฎสามารถทำลายอาคมกีบดักที่มุ่งเป้าหมายไปที่จอมยุทธ 15 ดาวได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว” คนหนึ่งพูดออกมาชื่นชมพร้อมยิ้มกว้าง

เจี้ยนเฉินยังคงปกติและพูด “อาคมกับดักนี้อาจจะมีไว้กำจัดจอมยุทธ 15 ดาวก็จริงแต่มันก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อนเพราะว่าเวลาได้ผ่านมานานมากแล้ว ไม่เช่นนั้น ข้าก็คงไม่สามารถทำลายมันลงได้อย่างง่ายดายเพียงนี้ พวกเราไปดูกับให้รู้เถอะว่าสมบัติอะไรกันที่ซ่อนอยู่ในโถงนี้” หลังจากพูดจบ เจี้ยนเฉินก็เข้าไปในห้องพร้อมทั้งยุทธภัณฑ์ราชาที่อยู่ในมือของเขา เขามองผ่านของที่อยู่บนโต๊ะไป ก่อนที่จะจับตาดูไปที่กระดานหิน

เจี้ยนเฉินยื่นมือไปที่กระดานหิน มือของเขาหล่นลงเมื่อเขาถือมันเอาไว้ กระดานมีน้ำหนักที่ไม่สมกับขนาด มันหนักอย่างน้อยหลายกิโลกรัม การยกมันคงเป็นอะไรที่ลำบากมากสำหรับคนที่อ่อนแอ

เจี้ยนเฉินยกกระดานหินขึ้นมาอย่างไม่ยากเย็นและตรวจดูที่มัน มันมีอะไรบางอย่างสลักอยู่แต่มันดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรงสอบว่ามันคืออะไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ถึงความกดดันที่ดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดมาจากธรรมชาติ แรงกดดันนี้เต็มไปด้วยจิตต่อสู้ที่พวยพุ่ง

เจี้ยนเฉินสัมผัสถึงแรงกดดันนี้อย่างระมัดระวัง ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกคุ้นเคยกับแรงกดดันนี้ดีเหมือนว่าเขาเคยรู้สึกแบบนี้ที่ไหนมาก่อนหน้านี้

ทันใดนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉิน เขาคำรามออกมา “นี่เป็นชิ้นส่วนของทักษะเซียนระดับเทียน” วิชาเซียนเป็นสิ่งที่อาณาจักรทะเลเรียกและหมายถึงทักษะการต่อสู้ พวกเขาแบ่งมันออกเป็น 4 ระดับคือ เทียน ตี้ ซวน และฮวง ทักษะเซียนระดับเทียนคือทักษะการต่อสู้ระดับเซียนบนทวีปเทียนหยวน

ทุกคนจ้องไปที่กระดานหินในมือของเจี้ยนเฉินด้วยความสนใจเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ผิดหวังหลังจากนั้น ซี่หวังถอนหายใจและพูดออกมา “น่าเสียดายที่มันไม่สมบูรณ์ มันไร้ประโยชน์”

“แม้ว่ามันจะสมบูรณ์ แต่ทักษะเซียนระดับเทียนนั้นยากมากที่จะทำความเข้าใจ มีแม้แต่จอมยุทธ 16 ดาวหลายคนที่ไม่เข้าใจมันเลย นั่นยิ่งทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยกับอันที่ไม่สมบูรณ์ที่พวกเรามีตอนนี้ ถ้าพวกเราไม่เก็บชิ้นส่วนทั้งหมด ชิ้นส่วนก็จะไร้ค่า” โมจื่อพูดออกมากพร้อมถอนหายใจเช่นกัน

เจี้ยนเฉินก้มหัวลงคิด เขายังจำได้แม่นว่าในตอนที่ช่วยอาณาจักรเกอซุนเพื่อขับไล่อาณาจักรทั้งสี่ที่ร่วมมือกันไปนั้น เขาได้ไปค้นพบสมบัติของอาณาจักรเข้า ในนั้น เขาได้ไปพบกับชิ้นส่วนของทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอย่างบังเอิญ

อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนนั้นก็ไม่ได้เข้ากันกับอันที่พวกเราเจอในตอนนี้เพราะมันเป็นทักษะที่แตกต่างกัน

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ตรวจสอบของอีก 3 อย่างที่เหลือ แหวนมิติเต็มไปด้วยเหรียญผลึกชั้นยอดถึงหลายสิบล้านเหรียญ ยังมีแกนอสูรอยู่จำนวนมากอีกด้วยในนั้น ตั้งแต่ระดับ 5 จนถึงระดับ 7 ยังมีแม้แต่แกนอสูรระดับ 8 อีกด้วย

มีวิธีฝึกฝนที่ยังไม่สมบูรณ์ถูกบันทึกอยู่ในสมุดเล่มบาง มันเป็นแค่ส่วนเล็กน้อยของมันเท่านั้น

ในจดหมายประกอบไปด้วยความเข้าใจในการฝึกฝนของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดพร้อมกับเรื่องราวชีวิตช่วงหลังหลังของเขา แต่ก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน

“นอกเหนือจากแหวนมิตินี้ อีก 3 อย่างที่เหลือไม่มีอะไรที่สมบูรณ์เลย มันไร้ค่าสิ้นดี จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดนี้ชอบปั่นหัวคนอื่นแน่” นูบิสอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

เจี้ยนเฉินไม่สนใจคำบ่นของนูบิสและมองไปที่คนอื่น เขาถาม “พวกเจ้าต้องการที่จะแบ่งของกันอย่างไร ? ใครมีความคิดดีดีบ้างหรือไม่ ? “

โมจื่อและคนทั้งสามมองหน้ากันและกันหลังจากที่พวกเขาได้ยินแบบนั้น หนึ่งในนั้นแนะนำออกมา “ความแข็งแกร่งของผู้คุมกฎนั้นยอดเยี่ยมและเหมาะสมที่จะปกป้องสิ่งของเหล่านี้ ดังนั้น ข้าแนะนำให้เก็บของทั้งหมดไว้ที่ผู้คุมกฎก่อนในตอนนี้ พวกเราจะคุยกันทีหลังว่าจะแบ่งของพวกนี้ยังไงเมื่อพวกเราออกไปจากโถงแล้ว”

“ข้าเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้…”

คนอื่น ๆ เห็นด้วยกับคำแนะนำนี้และเจี้ยนเฉินก็ตกลงเช่นกัน เขาเก็บทุกอย่างเอาไว้ในแหวนมิติอีกวง

พวกเขาตรวจไปที่โถงอีกครั้ง พวกเขาพลิกหาจนทั่งโถงแต่พวกเขาก็ไม่เจออะไรอย่างอื่นเลย จากนั้นพวกเขาก็ออกจากบริเวณนั้นไป

พวกเขาเข้าไปที่โถงอื่นที่ยังไม่ถูกเข้าไปทันทีที่พวกเขาออกมาจากโถงเดิม และทำลายอาคมกับดักในโถงใหม่ลง พวกเขาได้ของที่อยู่ได้ในโถงได้อย่างสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยู่ด้านในนั้นเหมือนกันเป๊ะ มีแหวนมิติที่มีเหรียญผลึก จดหมายที่ไม่สมบูรณ์ วิธีการฝึกฝนที่ไม่สมบูรณ์ และชิ้นส่วนของทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปที่โถงที่สาม และก็ได้รับวัตถุที่เหมือนกับก่อนหน้านี้เป๊ะ ดูเหมือนทุกอย่างในทุกโถงจะเหมือนกันหมด

“ดูเหมือนจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดจะแบ่งของเป็นหลายหลายชิ้นและเก็บมันไว้ในแต่ละโถง เจ้าต้องเก็บรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดถึงจะได้ชิ้นที่สมบูรณ์ จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดต้องการที่จะให้พวกเราฆ่าฟันกันเอง” ใบหน้าของเจี้ยนเฉินหมองลงไปในขณะที่เขาเข้าใจถึงความตั้งใจของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดอย่างรวดเร็ว

ของพวกนี้ที่จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดได้ทิ้งเอาไว้ ของทุกอย่างทำให้ทุกคนน้ำลายไหลไปด้วยความอยากได้ถึง แม้ว่ามันจะเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียนที่ไม่สมบูรณ์ ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับการฝึกฝน หรือวิธีการฝึกฝนของเขา แม้แต่จอมยุทธ 16 ดาวก็พบว่ามันเป็นสิ่งยั่วยุที่ห้ามเอาไว้ไม่ได้ เจี้ยนเฉินคาดหวังไว้เลยว่าต้องมีการฆ่าฟันกันอย่างดุเดือดในระหว่างคนทั้งร้อยหกสิบคนที่เข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์แน่