ตอนที่ 919: การขัดขวางของม่านพลัง (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 919: การขัดขวางของม่านพลัง (2)

เจี้ยนเฉินไม่ได้เคลื่อนไหวเช่นกัน เขากลับยืนอยู่และสำรวจไปที่ทุก ๆ ส่วนของโถง เขาขยายพลังแห่งการรับรู้ไปจนถึงขีดสุดแต่เขาก็สามารถทำได้น้อยกว่าพันกิโลเมตร มันไม่สามารถผ่านสิ่งก่อสร้างไปได้และมันสามารถสังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าตาเปล่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สักพักต่อมา เจี้ยนเฉินก็ดูเหมือนจะพบบางอย่าง รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฎขึ้นที่ริมฝีปากของเขาและเขาก็เดินไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล

การเคลื่อนไหวของเขาดึงดูดความสนของทุกทุกคน พวกเขาจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน และต้องการที่จะใช้เจี้ยนเฉินเป็นเครื่องมีในการทดสอบเส้นทางข้างหน้า ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็สะสมพลังและเตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าไปทุกเมื่อ

เจี้ยนเฉินเดินช้า ๆ และเข้าใกล้โถงใหญ่ไปทีละก้าว เมื่อเขาอยู่ห่างร้อยเมตรจากโถง คลื่นพลังงานก็ปรากฎขึ้นจากด้านล่างและม่านพลังสีฟ้าก็พุ่งขึ้นมา มันเป็นรูปร่างกลมและปกคลุมโถงด้านในเอาไว้และกันเจี้ยนเฉินเอาไว้ด้านนอก

“มีม่านพลังป้องกันโถงอยู่จริงด้วย ! ” มีคนร้องออกมาจากฝูงชน ทุกคนเต็มไปด้วยความยินดี นี่เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าโถงนี้ได้เก็บสมบัติที่สุดยอดเอาไว้

เจี้ยนเฉินแทงยุทธภัณฑ์ราชาของเขาเข้าไปที่ม่านพลังแต่มันก็ไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย การป้องกันของมันนั้นมากมายเหนือจินตนาการ

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินหม่นลงเล็กน้อยในขณะที่ตาของเขาเป็นประกายอ่อน ๆ ความสามารถโดยกำเนิดของพยัคฆ์ปีกเทวะแวบเข้ามาในใจของเขาก่อนที่เขาจะตะโกนออกมา “ม่านพลังนี้ทรงพลังมาก มันไม่สามารถถูกทำลายได้ด้วยตัวคนเดียว ทำไมพวกเราไม่มาช่วยกันทำลายมันล่ะ ? “

“พวกเราต้องทำลายม่านพลังนี้ถ้าพวกเราต้องการที่จะเข้าไปที่โถง ข้า ไทนิช เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของผู้คุมกฎเผ่าเต่า ข้าต้องการที่จะใช้พลังส่วนหนึ่งของข้าในการทำลายม่านพลังนี้” ไทนิชเป็นคนแรกที่พูดสิ่งที่คิดออกมา

หลังจากนั้น คนอื่น ๆ ก็ตกลงที่จะร่วมมือ พวกเขาเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว

คลื่นพลังงานมหาศาลพุ่งออกมาจากพวกเขา ในตอนนั้นเอง พวกเขาทุกคนก็เคลื่อนไหวพร้อมกันและสะสมพลังการโจมตีที่มหาศาลเพื่อที่จะทำลายม่านพลังไปพร้อม ๆ กันทุกคนโดยไม่มียกเว้น

หลังจากให้สัญญาณ จอมยุทธมากกว่าร้อยคนก็โจมตีออกไปอย่างรุนแรง คลื่นพลังมากกว่าร้อยได้พุ่งออกไปจากมือของพวกเขาพร้อมกันและปะทะเข้าอย่างจังกับม่านพลัง

เสียงระเบิดดังขึ้น พลังงานรุนแรงที่เหลืออยู่ทำให้เกิดพายุที่น่ากลัวที่ทำลายไปรอบ ๆ มันทำให้พวกเขากระเด็นไปและไม่มีใครที่ยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง

ม่านพลังสีฟ้ารอบ ๆ โถงสั่นไหวเล็กน้อยเหมือนกับก้อนกรวดที่ถูกโยนลงไปที่ทะเลสาบที่สงบนิ่ง มันกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว การโจมตีของเซียนผู้คุมกฎมากกว่าร้อยคนมีผลกระทบเพียงนิดเดียวเท่านั้นกับม่านพลัง

พวกเขาทั้งหมดเคร่งเครียดเมื่อเห็นแบบนี้ ความแข็งแกร่งของม่านพลังนั้นเหนือกว่าทุกสิ่งที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้ และเกือบถึงขั้นที่ยากที่จะเชื่อในความแข็งแกร่งของมัน

“เจ้าจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดนั่นมันบ้าจริง ๆ ที่ทิ้งม่านพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้เอาไว้ แม้แต่จอมยุทธ 15 ดาวก็คงลำบากที่จะทำลายมันได้ อย่าว่าแต่พวกเราเลย” บางคนสบถออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

“หนทางที่จะออกไปสู่ด้านนอกก็คงอยู่ในโถงนี้เหมือนกัน นั่นไม่ได้หมายความว่า ถ้าพวกเราเข้าไปไม่ได้ พวกเราก็ออกไปไม่ได้เหมือนกันหรือ จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดต้องการที่จะให้พวกเราติดอยู่ที่นี่จนพวกเราตายอย่างนั้นหรือ ? “

“จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดต้องการอะไร ? เฉพาะจอมยุทธ 14 ดาวขั้นสูงสุดถึงจะเข้ามาที่โถงนี้ได้ แต่เขาก็สร้างม่านพลังให้แข็งแกร่งมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการที่จะให้พวกเราเข้าไป เขาต้องการที่จะให้พวกเราติดอยูที่นี่ตลอดไปงั้นหรือ ? “

ทุกคนเผยให้เห็นถึงท่าทางหวาดกลัวออกมาในขณะที่พวกเขาสบถอย่างโกรธเกรี้ยว

เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วคิดก่อนที่จะพูดออกมาเสียงดัง “ใจเย็นทุกคน ความแข็งแกร่งของม่านพลังนี้เหนือเกินกว่าที่พวกเราจินตนาการ ดังนั้นถ้าพวกเราต้องการที่จะทำลายมัน พวกเราจะออมแรงไม่ได้ ทำไมพวกเราไม่มาลองอีกครั้งและครั้งนี้พวกเราจะใช้พลังเต็มที่ แล้วมาดูกันว่าพวกเราจะทำลายมันได้หรือไม่ ? “

ในตอนนี้ สิ่งนี้เป็นเพียงความหวังเดียวของพวกเขา ทุกคนเห็นด้วยและเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกันอย่างรวดเร็ว คลื่นพลังที่น่ากลัวเปล่งออกมาจากแต่ละคนในครั้งนี้มากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า เห็นได้เลยว่าทุกคนใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาในตอนนี้และโจมตีออกไปอย่างไม่ออมแรง พลังงานที่น่ากลัวมากปะทะเข้าอย่างจังกับม่านพลัง

นี่คือการโจมตีเต็มกำลังจากเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ร้อยกว่าคน มันทรงพลังมากจนสามารถสังหารได้แม้แต่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ก็เหมือนก่อนหน้านี้ ม่านพลังสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและต้านการโจมตีที่น่ากลัวได้อย่างง่ายดาย

ครั้งนี้ใบหน้าของทุกคนมืดมน โถงศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดยังถูกปิดสนิท การเข้าไปที่โถงได้เท่านั้น พวกเราถึงจะมีโอกาสที่จะออกไป ถ้าพวกเขาทำลายม่านพลังไม่ได้ พวกเขาจะต้องติดอยู่ที่นี่

แววตาของไทนิชเป็นประกายอย่างมีพลัง เขาตะโกนออกมา “พวกเรามาลองอีกรอบ ข้าหวังว่าจะไม่มีใครออมแรง ใครที่ใช้วิชาเซียนระดับเทียนได้ ใช้มันซะ ! และพลังที่อยู่ในร่างของพวกเจ้า ใช้มันด้วย ! ถ้าพวกเราทำลายม่านพลังไม่ได้ จะไม่มีใครที่จะได้ออกไปจากที่นี่เลย”

กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่เปล่งประกายออกมาจากไทนิช ตามมาติด ๆ ด้วยแรงกดดันที่น่ากลัวที่ลดลงมาจากท้องฟ้าผ่านสิ่งก่อสร้างของของโถงศักดิ์สิทธิ์และเติมเต็มไปทั่วบริเวณ อากาศหยุดไหลในขณะที่ทุก ๆ อย่างตกอยู่ในความเงียบ เวลาดูเหมือนจะถูกหยุด

ไทนิชใช้พลังเพื่อที่จะใช้ทักษะเซียนระดับเทียนของเขา

เซียนผู้คุมกฎหลายคนแสดงท่าทางแน่วแน่ออกมาเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่ไทนิชกำลังทำ พวกเขาไม่ห่วงที่จะซ่อนอะไรอีกต่อไปและแสดงไพ่ตายออกมา ทันใดนั้นเอง แรงกดดันมากกว่ายี่สิบก็ลดลงมาจากท้องฟ้า

ทักษะเซียนระดับเทียนมากกว่า 20 อย่างกำลังถูกร่ายพร้อม ๆ กัน แรงกดดันนี้เพียงพอที่จะทำให้ท้องฟ้าสั่นไหว แม้แต่ภายในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดเอง มิติก็ยังได้รับผลกระทบอย่างมากในขณะที่มันบิดเบี้ยว

เซียนผู้คุมกฎคนอื่นถูกยับยั้งสัมผัสเอาไว้ แรงกดดันทำให้ยากที่จะหายใจ ทักษะเซียนระดับเทียนถูกร่ายพร้อม ๆ กัน อาณาจักรทะเลไม่เคยประสบกับอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

หัวใจของเจี้ยนเฉินสั่นไหว ทักษะเซียนระดับเทียนนั้นยากมากที่จะฝึกฝน จนถึงขั้นที่เซียนราชาจำนวนหนึ่งยังไม่สามารถใช้ได้เลย เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนมากกว่า 20 คนใน 160 คนที่สามารถใช้มันได้ เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขาไปมาก

พวกเขาสะสมพลังสำหรับทักษะเซียนอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เอง จอมยุทธทั้งหมดไม่คิดจะออมพลังอีกต่อไปแล้ว พวกเขาใช้ไพ่ตายของพวกเขาทั้งหมด บางคนใช้พลังของเซียนราชาที่มี บางคนสะสมพลังเพื่อใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับคนที่ไม่มีพลังของเซียนราชา

เจี้ยนเฉินก็ไม่มองดูอยู่เฉย ๆ เช่นกัน ยุทธภัณฑ์ราชาในมือของเขาส่องแสงสว่างสีดำออกมาในขณะที่พลังแห่งการทำลายล้างก็ม้วนตัวอยู่รอบดาบ มันเปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายที่เยือกเย็น

“โจมตี ! “

ในขณะที่ไทนิชตะโกนออกมา ทุกคนก็โจมตีออกไปด้วยกัน ทักษะเซียนระดับเทียนและพลังของเซียนราชามากกว่าร้อยได้ม้วนตัวรวมกันเป็นมังกร และปะทะเข้าอย่างจังกับม่านพลังด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง

บู้ม !

เสียงดังบาดหู การโจมตีปะทะเข้ากับม่านพลังซึ่งทำให้มันสั่นไหวอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม มันก็กลับมาคงตัวอย่างรวดเร็วอีกครั้งและไม่สลายไป การโจมตีจากพวกเขาทั้งหมดเปลี่ยนเป็นพายุพลังงานที่รุนแรงทันที และพุ่งกลับมาปะทะพวกเขาอย่างรุนแรงในตอนท้าย

ทุกคนถูกกระแทกกลับไปในอากาศจากพลังงานที่สะท้อนกลับมานี้ หลายคนได้รับบาดเจ็บหนักในขณะที่พวกเขากระอักเลือดออกมาจนย้อมให้อากาศเป็นสีแดง ถ้าม่านพลังไม่ดูดซับพลังงานส่วนมากจากการโจมตีเอาไว้ บางอาจจะไม่มีใครรอดเลยก็ได้

พวกเขากระเด็นไปไกลหลายพันเมตรก่อนที่จะตกลงสู่พื้นด้วยสถาพย่ำแย่ พวกเขาทั้งหมดหน้าซีด เจี้ยนเฉินและนูบิสก็ไม่ยกเว้นด้วยเช่นกัน ทั้งคู่บาดเจ็บจากพลังงานที่น่ากลัว อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินนั้นมีร่าบรรพกาลซึ่งช่วยป้องกันตัว ดังนั้นเขาจึงสภาพดีกว่าคนอื่น ๆ ทั้งหมดที่เขาเจอมีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ คนอึ้งเมื่อพวกเขาเห็นว่าม่านพลังยังคงปกติดี พวกเขาทั้งหมดสิ้นหวัง ทักษะเซียนระดับเทียนมากกว่า 20 อย่างและการโจมตีจากจอมยุทธร้อยกว่าคนไม่สามารถที่จะทำลายม่านพลังได้ ความแข็งแกร่งของม่านพลังเหนือความคาดหมายของพวกเขามาก มันเป็นอะไรที่พวกเขาไม่สามารถทำลายได้

โฮ้ก !

ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามของสัตว์อสูรก็ดังออกมาจากรอบ ๆ และพื้นก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ร่างของสัตว์อสูรที่ดุร้ายนับไม่ถ้วนได้ปรากฎขึ้นทุกทิศทางและพวกมันพุ่งเข้ามาที่ผู้คนด้วยตาสีแดงก่ำ พวกมันมีมากมาย และมากกว่าฝูงสัตว์อสูรที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วยในครั้งแรก

“บ้าเอ้ย สัตว์อสูรพวกนี้มาตอนที่พวกทั้งหมดบาดเจ็บพอดีใช่หรือไม่ ? และมันยังมากมายขนาดนี้ พวกเราจะจัดการกับพวกมันยังไง ? “

“บางทีพวกเราอาจจะต้องใช้วิธีการเดียวกันกับตอนที่พวกเราหลุดออกมาจากเขาวงกตหรือไม่ ? พวกเราต้องใช้เลือดของสัตว์อสูรที่ดุร้ายพวกนี้เพื่อเติมเต็มให้กับอาคม ? “

“ไม่มีเวลาแล้ว ทุกคนตั้งใจรักษาตัวเองเข้า ไม่เช่นนั้นพวกเราทั้งหมดต้องตายด้วยน้ำมือของสัตว์อสูรพวกนี้แน่”

ทุกคนเริ่มที่จะเอายาต่าง ๆ ออกมาและใช้เวลานี้ในการรักษาบาดแผลของพวกเขาและฟื้นฟูพลังงานที่พวกเขาใช้ไป เห็นได้ชัดว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่นั้นมาจากองค์กรใหญ่ ดังนั้นยาที่พวกเขาใช้จึงเป็นยาที่รู้จักกันดีในอาณาจักรทะเลและมีค่ามาก บางอย่างนั้นเทียบเท่ากับยาเม็ดจิตวิญญาณธาตุแสงเลยทีเดียว ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนไปและดีขึ้นในไม่ช้าทันทีที่พวกเขากินยาเข้าไป มันทำให้พวกเขาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น แค่มันก็ก็ช่วยให้พวกเขาทรงตัวและลดบาดแผลของพวกเขาไปเท่านั้น

ฝูงสัตว์อสูรที่อยู่รอบ ๆ รวมตัวกันอย่างหนาแน่นและมีจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่นานนักเซียนผู้คุมกฎทั้งหมดก็ถูกล้อมโดยฝูงสัตว์อสูรจำนวนมาก การต่อสู้นองเลือดกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

สัตว์อสูรทั้งหมดอยู่ในระดับ 5 ถึงระดับ 7 และมีบางตัวเป็นระดับ 8 มันสร้างความกดดันอย่างมากให้กับทุกคน และพวกมันทำให้ผู้คนบาดเจ็บในเวลาเพียงนิดเดียว เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น คนเหล่านี้จึงต้องใช้พลังของเซียนราชาที่เหลือเก็บเอาไว้เพื่อควบแน่นเป็นเกราะ ในขณะที่พวกเขากำลังกินยาเหมือนกับว่ามันเป็นลูกอม

เจี้ยนเฉิน นูบิสและซี่หวังทั้งหมดเข้าร่วมในการสังหารสัตว์อสูรและใช้ทุกอย่างที่มี พวกเขาย้อมไปด้วยเลือด ทำให้มันยากที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูรกันแน่ มือของนูบิสเป็นสีทองและแทงเข้าไปที่สัตว์อสูรตัวแล้วตัวเล่า เขาใช้พิษเพื่อลดกำลังของสัตว์อสูรก่อนที่จะฉีกพวกมันเป็นชิ้น ๆ สายพลังสีทองถูกยิงออกจากปลายนิ้วของเขาเป็นครั้งคราวและเจาะทะลุเข้าไปที่หัวของสัตว์อสูรระดับ 5 และระดับ 6 เขาสังหารสัตว์อสูรได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวและเอาแกนอสูรของพวกมันมา

ยุทธภัณฑ์ราชาที่อยู่ในมือเจี้ยนเฉินกวัดแกว่งไปมาต่อเนื่อง และกลายเป็นภาพติดตาปกคลุมรอบ ๆ และสังหารสัตว์อสูรไปอย่างไม่ปราณี สัตว์อสูรระดับ 5 และระดับ 6 ไม่สามารถที่จะทนได้แม้แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวจากกระบี่ของเขาและตายไป เฉพาะสัตว์อสูรระดับ 7 เท่านั้นที่ยังอยู่ได้สักพักแต่สุดท้ายพวกมันก็หนีความตายไม่พ้นอยู่ดี

ไทนิชคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวในขณะที่เขาแยกส่วนสัตว์อสูรด้วยดาบสองเล่มที่อยู่ในมือของเขาอย่างต่อเนื่อง ศพสัตว์อสูรกองเกลื่อนกลาดอยู่ด้านหลังของเขา