บทที่555

ใครก็ไม่นึกเลยว่า พอหลิวกว่างออกมา ก็พูดเยาะเย้ยกับทุกคนเลย

ประโยคนี้ ไม่ใช่แค่เยาะเย้ยเย่เฉิน และยังเยาะเย้ยคนที่เคารพนบน้อมอีกด้วย

ตอนนี้เองหงห้าโกรธจนแทบจะพ่นไฟออกมาจากตาแล้ว เขาจ้องมองหลิวกว่างอย่างโมโห และพูดอย่างเย็นชาว่า:”แซ่หลิว มึงแม่งหาเรื่องตายใช่ไหม?อยากเป็นเหมือนกับลูกมึงสินะ ให้กูสลักตัวหนังสือบนหน้าผากมึง?!”

เย่เฉินเห็นหลิวกว่างที่สีหน้าบึ้งตึง ก็เข้าใจทันที

ที่แท้หมอนี้ก็คือพ่อของหลิวหมิง

หลิวหมิง ไอ้ลูกคนรวยที่เอาแต่พูดว่ายาจกยาจก แล้วยังอวดดีกับเขาที่ช็องเซลิเซียนสปา จากนั้นตนก็ให้หงห้าสลักคำว่ายาจกสองคำที่หน้าผากเขา

ไม่นึกเลยว่า วันนี้พ่อเขากลับกล้ามาหาเรื่องตนที่งานเลี้ยงวันเกิดตระกูลซ่ง

ตอนนี้หลิวกว่างจ้องมองหงห้าอย่างดุร้าย พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า:”หงห้า มึงแม่งอย่ามาอวดดีกับกู มึงคิดว่ากูกลัวมึงจริงๆเหรอ?”

พูดจบ เขาก็ชี้ไปที่เย่เฉิน พูดว่า:”กูไม่เข้าใจจริงๆ ไอ้ยาจกที่ไม่มีอะไรเลย เอาแต่พึ่งเกาะผู้หญิงกินมาใช้ชีวิต กลับยังสามารถปรากฏตัวที่นี่ได้ด้วย! แล้วยังมีคนเรียกมึงว่าอาจารย์เย่อย่างเคารพอีก ทำไม? ตาบอดกันรึไง? ดูธาตุแท้ของไอ้ยาจกอย่างมึงไม่อแกรึไง?”

ทุกคนไม่พอใจทันที และพวกเขาอยากจะลงมือกับหลิวกว่าง แต่เย่เฉินหยุดพวกเขาไว้ และพูดอย่างเฉยเมย:”ทุกคน วันนี้เป็นวันเกิดของคุณท่านซ่ง ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ จะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ”

หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็ยิ้มและพูดกับหลิวกว่างอีกครั้งว่า:”ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่า คนปัญญาอ่อนแบบไหนที่จะให้สอนลูกชายอย่างหลิวหมิงออกมาได้ วันนี้ได้เจอนาย ในที่สุดฉันก็เจอสาเหตุแล้ว”

นิ่งไปชั่วครู่ เย่เฉินก็พูดอีกครั้ง:”ชะตากรรมของลูกชายของนาย เป็นแบบอย่างของนาย ดังนั้นฉันแนะนำให้นายถ่อมตัวหน่อย อย่าเหลิงเกินไป หน้าผากนายแตกหมดแล้ว ถ้าจะใช้ มีดแกะสลักจริงๆล่ะก็ มันจะไม่ลื่นเหมือนหน้าผากของลูกชายนาย ”

“แก……”หัวใจของหลิวกว่าวเต้นแรงขึ้น ชี้ด่าเย่เฉินว่า:’”ขอบอกให้นะใอ่นามสกุลเย่ อย่าบอกว่ากูไม่ได้ให้โอกาสมึงรอด แค่มึงคุกเข่าลงตอนนี้เดี๋ยวนี้ และให้กูสลักคำว่ายาจก บนหน้าผากมึงซะดีๆ มิฉะนั้น กูจะฆ่าใง! ”

เย่เฉินพูดอย่างเหยียดหยาม:”ใครเป็นคนให้ความกล้านาย ให้นายคิดว่า นายสามารถฆ่าฉันได้กัน?”

หลิวกว่างหัวเราะเยาะและพูดว่า:”มึงต้องพึ่งพาหงห้า นักเลงถังขยะเท่านั้น ที่กล้าที่จะหยิ่งยโส แต่ตอนนี้คนที่หนุนหลังกูคือตระกูลอู๋ หงห้าเมื่ออยู่ต่อหน้ากูไม่ใช่อะไรเลย แค่่กูกระดิกนิ้วก็ฆ่ามันได้แล้ว อย่าว่าแต่คนไร้ประโยชน์อย่างมึงเลย”

หงห้าโกรธมาก อยากรีบวิ่งเข้าไปโจมตีหลิวกว่าง เย่เฉินขวางไว้ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:”หลิวกว่าง เจ้านายของนายดูไม่จริงใจเลย ปล่อยหมาออกมากัดน่ะได้ แต่ตัวเองก็ต้องปรากฏตัวหน่อยถูกไหม? ไม่งั้นถ้าหมาถูกคนอื่นตีจนตายจะทำไงล่ะ?”

หลิวกว่าวยิ้มเยาะและพูดว่า:”ไอ้แซ่สกุลเย่ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร ก็แค่ใช้สิ่งลึกลับเหล่านั้นเพื่อหลอกลวงผู้คน คนเหล่านี้ยังคงอยู่ไม่รู้ว่าถูกหลอก รอให้พวกเขาได้สติกลับมา ไม่ต้องให้กูลงมือ พวกเขาก็ไม่ปล่อยมึงไปแน่!”

พูดจบ เขาก็มองไปที่ซ่งหวั่นถิง และพูดอย่างจริงจังว่า:”คุณซ่ง คุณเป็นผู้หญิงเข้มแข็งที่ได้รับการยอมรับในจินหลิง ทำไมคุณถึงถูกไอ้ยาจกขยะแบบนี้หลอกได้ล่ะ? และอย่าลืมสิ ผู้ชายคนนี้แต่งงานแล้ว และเขาเป็นเขยแต่งเข้า คุณสนิทกับคนแบบนี้มากเกินไป มันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของคุณ ถ้าทุกคนเข้าใจผิด คิดว่าคุณหนูอันดับหนึ่งในจินหลิง ชอบผู้ชายที่แต่งงานแล้วจริงๆ ชื่อเสียงของคุณก็จะไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้! ”

ทันใดนั้น สีหน้าของซ่งหวั่นถิงก็ดูแย่มากทันที

เธอชอบเย่เฉินจริงๆ และเย่เฉินเป็นคนที่แต่งงานแล้วจริงๆ แต่แล้วยังไงล่ะ? เธอก็ยังชอบเขา หรือว่าแค่ชอบคนๆหนึ่งก็ผิดเหรอ?

อีกอย่าง แม้ว่าฉันจะผิด แล้วต้องให้คนอย่างแกหลิวกว่างมาพูดได้เหรอ? !

แต่ว่า ซ่งหวั่นถิงก็รู้ในใจ หลิวกว่างพูดแบบนี้ออกมา ตนเองห้ามโมโหออกมาง่ายๆเด็ดขาด

เพราะว่าถ้าหากตนเองโมโห ก็จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าโกรธเพราะอับอาย

จากนั้น ซ่งหวั่นถิงพูดด่าหน้าบึ้งว่า:”หลิวกว่างสินะ? ในรายชื่อแขกผู้มีเกียรติของเราไม่มีนาย ใครเป็นคนพานายเขามากันแน่?”