บทที่ 840 หนามยอกเอาหนามบ่ง + ตอนที่ 841 หามืออาชีพ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 840 หนามยอกเอาหนามบ่ง + ตอนที่ 841 หามืออาชีพ โดย Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 840 หนามยอกเอาหนามบ่ง

จ้าวเสวียหลินไม่เมินเฉยต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน  ปฏิกิริยาของผู้คนที่มามุงในตอนนั้นเขาเองก็ดูอยู่ เขารู้ว่าโอหยางซานซานต้องไม่ได้พูดส่งเดชแน่นอน

“พี่สี่ พี่ห้า พวกพี่เคยได้ยินอะไรมาบ้างไหม?” จ้าวเสวียหลินถาม จ้าวเสวียไห่ พวกเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์ของเมืองหลวงมากกว่า

“ฉันออกไปถาม ๆดู ไม่นานก็คงได้ข่าวมาแหละ”

ทั้งจ้าวเสวียไห่และจ้าวเสวียกงต่างก็พากันออกไปถาม จ้าวเสวียหลินที่นั่งไม่ติดก็ตามออกไปด้วย ส่วนเหมยเหมยกับสยงมู่มู่ พวกเขาอยู่ที่บ้านตระกูลเซียว เซียวเซ่อถามเธอว่า เรื่องอะไรกัน เหมยเหมยจึงได้เล่าเรื่องของโอหยางซานซานให้ฟังอีกรอบ

“ก็ฉันอยากจะรู้ว่า ข้างนอกพูดถึงฉันว่าอย่างไร ฉันไม่ยอมถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนโง่หรอกนะ”

จริง ๆแล้วเหมยเหมยไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะว่าเธออย่างไร ไม่ว่าข้างนอกจะพูดถึงเธอเลวร้ายแค่ไหน ขอเพียงเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไรก็พอแล้ว คนอื่นจะมองตัวเธออย่างไรเธอไม่สนใจสักนิด!

แต่ไม่สนใจก็ส่วนหนึ่ง เรื่องนี้เธอต้องรู้ความจริงให้ได้ อีกอย่างเธอยังต้องสืบให้ได้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการกระจายข่าวลือเรื่องนี้

เซียวเซ่อครุ่นคิดแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ง่ายมาก ฉันโทรศัพท์ไปถามก็รู้แล้ว”

คุณหนูใหญ่เฝิงเป็นคนที่รู้ทุกเรื่อง  พูดได้ว่าเป็นคนที่รู้ข่าวคราวทั่วเมืองหลวงได้อย่างรวดเร็วที่สุด ไม่มีใครเร็วไปกว่าเธอแล้ว เซียวเซ่อไม่ได้โทรศัพท์หาคุณหนูใหญ่เฝิง  แต่เธอโทรหาลูกน้องของคุณหนูใหญ่เฝิง

เซียวเซ่อถามเรื่องของเหมยเหมยไปตรง ๆ  แน่นอนว่าลูกน้องคนนั้นรู้เรื่องดี แล้วก็เล่าเรื่องราวอย่างละเอียดทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟัง

เพราะว่าคุณหนูใหญ่เฝิงกำชับไว้ หากเซียวเซ่อไม่มาถาม ห้ามพูดแม้แต่คำเดียว แต่หากเป็นเซียวเซ่อถามขึ้นมาเอง ถ้าอย่างนั้นก็ให้เล่าทุกอย่างอย่างละเอียด

“เรื่องไร้สาระ พูดจาเหลวไหลทั้งนั้น ทำไมเธอไม่รีบบอกฉัน? เซียวเซ่อเดือดดาลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนเกือบจะทุบโทรศัพท์อยู่แล้ว

ลูกน้องเคยชินกับนิสัยของคุณหนูของตัวเอง จึงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ก็คุณหนูไม่เคยถาม?”

เซียวเซ่อนิ่งไป ไม่ได้ระบายความโกรธ แม้ว่าเธอจะนิสัยไม่ดี แต่เธอมีข้อดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยพาลโมโหไปทั่ว  โดนลูกน้องของคุณหนูใหญ่เฝิงตอกกลับหนึ่งประโยค เซียวเซ่อก็ว่าง่ายในทันที

“ถ้าอย่างนั้น คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนกุเรื่องเหลวไหลนี้ขึ้นมา?” เซียวเซ่อถาม

ลูกน้องยังคงน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณหนู  คนที่กุเรื่องนี้คือหวงอวี้เหลียน”

หวงอวี้เหลียนคิดว่าไม่มีใครรู้ แต่นั่นแค่คนในตระกูลจ้าวเท่านั้น แต่ต่อหน้าคุณหนูใหญ่เฝิงที่มีเครือข่ายข้อมูลทั่วทั้งเมืองหลวง กลอุบายของเธอนั้นก็เป็นเพียงเรื่องเด็กเล่นขายของเท่านั้น

“พวกผู้หญิงไร้ยางอาย!” เซียวเซ่อขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง

“คุณหนูครับ คุณหนูใหญ่เฝิงบอกว่า เธอช่วยได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือต้องให้คุณหนูไปจัดการเอง” ลูกน้องกล่าว

เซียวเซ่อตะคอกด้วยความโมโห “ฉันขอความช่วยเหลือจากเขาแล้วเหรอ? ไม่ต้องให้เขามายุ่ง!”

เธอไม่พอใจพฤติกรรมของคุณหนูใหญ่เฝิงที่รู้เรื่องข่าวลือเหล่านี้มานานแล้วแต่กลับปิดปากไม่พูดออกมา  ถ้าเธอไม่โทรมาถาม ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะปิดบังไปถึงเมื่อไหร่!

ถึงอย่างไรเหมยเหมยก็เหมือนลูกเหมือนหลาน เธอจะกลั้นใจปิดบังไม่พูดได้อย่างไร?

ผู้หญิงคนนี้ก็ยังใจร้ายเห็นแก่ตัวเหมือนแต่ก่อนไม่มีผิดเลย ทำเรื่องไม่ดีหลายเรื่อง และไม่เกรงกลัวผลกรรมที่จะตามมาภายหลัง!

เซียวเซ่อสบถด่าอย่างเคียดแค้น แล้วค่อยพูดเรื่องข่าวลือที่หวงอวี้เหลียนกุขึ้นมา หญิงสารเลวคนนี้พูดถึงเหมยเหมยได้เลวร้ายมาก แม้กระทั่งเรื่องทำแท้งยังกล้าพูดออกมาได้

แม้ว่าเหมยเหมยจะไม่สนใจความคิดของคนนอก แต่ก็โมโหเพราะข่าวลือเลวร้ายเหล่านี้ไม่น้อยเหมือนกัน

หวงอวี้เหลียนเป็นนังงูพิษจริงๆ!

“เหมยเหมย เรื่องนี้จะปล่อยไปเฉยๆ ไม่ได้นะ พวกเราต้องให้บทเรียนแก่นังพวกนั้นให้หลาบจำ!” เซียวเซ่อก็โมโหเช่นกัน สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดก็คือทำร้ายคนของอื่นลับหลัง!

สยงมู่มู่ก็โมโห เขาเสนอความคิด “พวกเราต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งกัน!”

……………………………………

ตอนที่ 841 หามืออาชีพ

เหมยเหมยกับเซียวเซ่อล้วนเห็นด้วยกับวิธีการของสยงมู่มู่ ทว่า—

“แล้วจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งอย่างไร? หรือว่าพวกเราก็ต้องออกไปปล่อยข่าวลือด้วย?” จ้าวตุ้ยนุ้ยถาม

เหมยเหมยครุ่นคิดแล้วกล่าว “ไม่จำเป็นต้องใช้ข่าวลือ คุณอาพูดอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอว่าหวงอวี้เหลียนไม่โปร่งใส ขอเพียงสิ่งที่คุณอาพูดเป็นความจริง พวกเราก็แค่สะกดรอยตามหวงอวี้เหลียนต้องจับพิรุธของเธอได้อย่างแน่นอน!”

สยงมู่มู่คันไม้คันมือ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันตอนนี้เลย แม่ฉันต้องไม่พูดเรื่องไร้สาระแน่นอน หวงอวี้เหลียน ผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ต้องมีส่วนพัวพันแน่นอน!”

เซียวเซ่อมองเขาอย่างเหยียดหยามอยู่แวบหนึ่ง “นายจะไปตามไง? ฝีมืออย่างนายเหรอ หวงอวี้เหลียนก็ไม่ใช่คนโง่ เขาจะไม่เห็นเลยเหรอ?

“ถ้าอย่างนั้นใครจะเป็นคนตามละ?  หรือว่าเธอจะไป?” สยงมู่มู่ทำหน้าไม่พอใจ

“ฉันก็ไปไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ต้องให้มืออาชีพทำ เดี๋ยวฉันโทรศัพท์อีกครั้งก่อน”

เซียวเซ่อหาสมุดโทรศัพท์ในลิ้นชัก เธอกดโทรออกทันที ไม่นานก็มีคนรับสาย เธอพูดเร็วมากและพูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เหมยเหมยฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่สยงมู่มู่เข้าใจ เขามองเซียวเซ่อด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย

“เธอหานักสืบเอกชน? เมืองหลวงมีนักสืบเอกชนตั้งแต่เมื่อไหร่?” สยงมู่มู่ถาม

เซียวเซ่อมองเขาอย่างเหยียดๆแวบหนึ่งอีกครั้ง “นายไม่รู้อะไรอีกตั้งมากมาย!”

เธอก็หันไปบอกเหมยเหมย “ฉันได้ให้คนไปตรวจสอบหวงอวี้เหลียนแล้ว คน ๆนี้ไม่ปากพล่อย ทำงานเชื่อถือได้ ไม่นานก็ได้ข่าวคราวแล้ว”

เหมยเหมยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เขาเป็นคนต่างชาติเหรอ?”

“ไม่ใช่ แต่เป็นคนฮ่องกง ชื่อเสี่ยวกัว เดี๋ยวจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักภายหลัง ถ้าเธอมีงานอะไรจะให้เขาทำให้ก็ได้นะ”

เหมยเหมยยังคงอยากรู้อยากเห็น ฟังจากน้ำเสียงของเซียวเซ่อ เธอน่าจะเป็นลูกค้าเก่าของเสี่ยวกัว คำถามคือเมื่อก่อนเธอให้เสี่ยวกัวตรวจสอบอะไร?

เซียวเซ่อก็ไม่จำเป็นต้องให้เธอถาม เธอก็สารภาพออกมาเอง “เมื่อก่อนฉันเคยให้เสี่ยวกัวตรวจสอบตาแก่แตงกวา”

เหมยเหมยเบะปาก ลูกสาวหาคนไปตรวจสอบเบื้องหลังของพ่อตัวเอง บ้านนี้ช่างเหลือเกินจริง ๆ …

ตอนบ่ายพวกจ้าวเสวียไห่ก็ยังไม่กลับมา เหมยเหมยโทรไปที่โรงแรมต้องการบอกเหยียนหมิงซุ่นว่าเธอย้ายออกมาจากบ้านตระกูลจ้าวแล้ว และถือโอกาสระบายความเสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม!

เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่โรงแรม และเมื่อวานตอนเช้าหลังจากออกไปแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับเข้ามา ผู้บริหารของโรงแรมก็เป็นห่วงมากเช่นกัน

เหมยเหมยจึงต้องวางสาย เธอเป็นห่วงเหยียนหมิงซุ่นมาก วันก่อนตอนงานเลี้ยงวันเกิดที่ร้านอาหาร เธอรู้สึกว่าเหยียนหมิงซุ่นดูท่าทางแปลก ๆ เหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา!

ในเวลานี้เหยียนหมิงซุ่นอยู่ในภูเขากว้างใหญ่ไพศาลหาที่สุดมิได้ ในตัวมีเพียงกริชที่เขาซ่อนเอาไว้ กริชเล่มนั้นเหมยเหมยเป็นคนมอบให้เขา นอกจากสิ่งนี้แล้วก็ไม่มีอย่างอื่น เขาปากแห้งจนลอก คอแห้งผากเหมือนจะพ่นควันออกมา ขาก็อ่อนแรงมาก

เขาไม่ได้กินอะไรเลยมาหนึ่งวันแล้ว นอกจากนกเขาเพียงตัวเดียวที่ถูกจับเมื่อคืน น้ำก็ได้ดื่มแค่น้ำค้างตอนเช้านิดหน่อย แม้ว่าลำธารเล็ก ๆในภูเขาจะมีน้ำอยู่ แต่เขาก็ไม่กล้าดื่มสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะไม่รู้ว่าผู้คนที่ผ่านไปมาจะวางยาพิษหรือไม่

เมื่อวานเขาเห็นกับตาตัวเองว่ามีคนหนึ่งหลังจากดื่มน้ำในลำธารบนภูเขาแล้ว ก็ปวดท้องจนลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ต้องส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ แม้ว่าจะรักษาชีวิตได้แต่นั่นก็หมายความว่าเขาตกรอบแล้ว

จนกระทั่งตอนนี้ เหยียนหมิงซุ่นก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังฝัน ทั้ง ๆที่เขาแค่อยากมาที่เมืองหลวงเพื่อฉลองวันเกิดของจ้าวหญิงน้อยเท่านั้น แต่ทำไมกลายมาถึงขั้นนี้ได้?

เหยียนหมิงซุ่นส่ายหน้า ฝืนยิ้มออกมา กลับมามั่นใจแน่วแน่อีกครั้ง ในเมื่อเขาเลือกเส้นทางนี้แล้วถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องเดินหน้าต่อไป!

อีกอย่างเขาต้องเป็นผู้ชนะคนนั้นให้ได้!

นับว่าเขายังมีโชคอยู่บ้าง มีกระต่ายอ้วนพีตัวหนึ่งแวบผ่านหน้าเขาไป จึงกลายเป็นมื้อกลางวันของเหยียนหมิงซุ่น หลังจากกินเลือดกระต่ายแล้วเขาก็มีกำลังวังชาขึ้นมาก

เขาย่างกระต่ายอย่างรีบเร่ง เตรียมจะเดินไปกินไปด้วย มีลมพัดผ่านมาจากด้านหลังเขา เหยียนหมิงซุ่นจึงเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ  มีชายหนุ่มที่อยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นกันโผล่พรวดออกมา ในมือถือกริชต้องการจะแทงเขา!

………………………………