ดาบที่ฟาดฟันลงมาเป็นการโจมตีที่รุนแรงเทียบเท่าระดับดารา อำนาจของมันน่าสะพรึงกลัวมาก
หลิงฮันยกฝ่ามือขึ้นและสะบัด
ไม่มีการผันผวนใดๆเกิดขึ้น แต่อำนาจของดาบที่ฟันลงมาค่อยๆเบาบางลงจนสุดท้ายก็สลายหายไปราวกับละอองฝน
กาลเวลาแปรผันพันปี!
นี่ไม่ใช่ทักษะจากเสษเสี้ยวโลหิตของติงจื่อเฉิน แต่เป็นทักษะจากความทรงจำอันสมบูรณ์ของติงหลิน มันคือทักษะระดับนิรันดร์ที่แท้จริง!
ในระยะเวลาสองพันปีที่เขาใช้ทะลวงผ่านระดับดารา เขาได้ฝึกฝนทักษะกาลเวลาแปรผันพันปีไปด้วยพร้อมๆกัน เมื่อเขาปล่อยฝ่ามือออกไปแม้จะดูเหมือนไม่มีการผันผวนของทักษะเกิดขึ้น แต่ระยะเวลาของการโจมตีที่พุ่งเข้าใส่เขาจะค่อยๆถูกเร่งเวลาจนไม่หลงเหลือพลังใดๆ
แน่นอนว่าเจียนเยว่ซวนไม่มีทางยอมถูกสังหารแต่โดยดี เขาปล่อยหมัดออกไป ‘ตูม’ ดาบที่ฟาดฟันลงมาอย่างไร้พลังถูกเขาพลักสะท้อนกลับไปหลายร้อยฟุต แม้แต่ยักษ์วิญญาณก็เสียการทรงตัวจนล้มลงก้นกระแทกพื้น
นี่มัน… เกิดอะไรขึ้น?
ไม่ใช่แค่คนของนิกายดาบสวรรค์ที่ตกตะลึง แม้แต่เจียนเยว่ซวนเองก็สับสน เขาเกาหัวตัวเองด้วยความมึนงง เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด?
“เยว่ซวน!” เชิงหยูร้องไห้น้ำตาคลอและกอดคนรักจากด้านหลัง นางนึกว่าดาบเมื่อครู่จะทำให้นางไม่ได้พบคนรักไปตลอดการเสียแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าคนรักของนางจู่ๆจะระเบิดพลังที่น่าอัศจรรย์ออกมา
“สุดยอด ท่านพ่อแข็งแกร่งสุดๆเลย!” เจียนเสี่ยวหลิงอุทานออกมา ใครบ้างจะไม่รู้ว่ายักษ์วิญญาณกับดาบเมื่อครู่มีพลังทำลายที่เทียบเท่าได้กับระดับดาราขั้นต่ำ
หรือที่แท้เจียนเยว่ซวนจะเป็นปรมาจารย์ระดับดารา?
ทุกคนมองเจียนเยว่ซวนด้วยท่าทีหวาดกลัว สำหรับนิกายดาบสวรรค์ ระดับดารานั้นไม่ต่างอะไรกับระดับสร้างสรรพสิ่ง พวกเขาเป็นตัวตนที่ทรงพลังไร้เทียมทาน
แต่เชิงจินกับคนอื่นๆไม่เชื่อเช่นนั้น
ออร่าของเจียนเยว่ซวนเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นของระดับสุริยันจันทราเท่านั้น แถมยังเป็นเพียงขั้นต่ำด้วย
แต่การโจมตีเมื่อครู่ถูกทำให้สลายไปได้อย่างไร?
หลิงฮันเป็นคนทำ?
เป็นไปไม่ได้ อีกฝ่ายจะสะบัดมือก็จริง แต่ไม่มีการผันผวนของปราณก่อเกิดเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นไปรึไงที่จะสลายการโจมตีของระดับดาราได้?
“ลงมืออีกครั้ง!” หลิงคงตะโกน
คนมากกว่าสิบคนก็กระตุ้นรูปแบบอาคมป้องกันและอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกัน ทันใดนั้นเองยักษ์วิญญาณกับดาบสวรรค์ก็กลับมามีพลังอีกครั้ง แรงกดดันของระดับดาราทับหล่นลงมาเป็นวงกว้างราวกับจะทำให้สวรรค์และปฐพีแตกร้าว
เจียนเยว่ซวนกัดฟัน เขาปล่อยหมัดออกไปอีกครั้งอย่างไม่ยอมรับความตาย
หลิงฮันยิ้มลับๆและสะบัดมืออีกครั้ง
การโจมตีของยักษ์วิญญาณอ่อนลงราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ
‘ตูมม’ หมัดของเจียนเยว่ซวนราวกับเป็นมังกรที่พุ่งออกจากมหาสมุทร ดาบสวรรค์ถูกสะท้อนเด้งขึ้นฟ้า พลังทำลายของหมัดได้ส่งผ่านไปยังยักษ์วิญญาณทำให้ร่างของมันลอยกระเด็นถอยหลังและร่วงลงพื้นอย่างรุนแรงในที่สุด
พรวด!
ทุกคนมองตาค้าง ครั้งแรกอาจจะบังเอิญ แต่ครั้งที่สองล่ะ?
เรื่องบังเอิญไม่มีทางเกิดขึ้นถึงสองครั้ง หากไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็ต้องมีเหตุผลมารองรับ!
เจียนเยว่ซวนมีพลังที่สามารถต่อกรกับระดับดาราได้!
อย่างที่รู้ว่าเขาเป็นเพียงจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นเท่านั้น แต่การที่เขาสามารถต่อกรกับระดับดาราขั้นต้นได้นั้นเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อ
อัจฉริยะ!
ไม่สิ สุดยอดของสุดยอดของสุดยอดของสุดยอดอัจฉริยะ! เพียงแค่คำว่าอัจฉริยะไม่สามารถใช้อธิบายพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาดเช่นนั้น!
อัจฉริยะห้าดาวจะนับเป็นอันใดได้เมื่อเทียบกับเจียนเยว่ซวน? เขาสามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ถึงหนึ่งระดับใหญ่หรือก็คือสิบหกดาว!
แม้แต่เจียนเยว่ซวนก็ยังสงสัยในตัวเอง หรือเมื่อเช้าเขาจะกินยาผิดไปทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้?
“เยว่ซวน ถึงแม้ชายคนนั้นจะเป็นอาจารย์ของเจ้า ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาก็แค่ไม่มีร้อยปีเท่านั้น แต่ระยะเวลาที่นิกายทุ่มเทฝึกฝนให้เจ้านั้นมากกว่าหมื่นปี! ยิ่งกว่านั้นเจ้าก็แต่งงานกับศิษย์ของนิกายดาบสวรรค์ของเราด้วย เท่านี้ก็เพียงพอให้เจ้าอยู่ฝั่งนิกายเราแล้วไม่ใช่รึไง?” หลิงคงเอ่ยขึ้นมาทันที
ก่อนหน้านี้เจียนเยว่ซวนเป็นคนทรยศในสายตาของเขา แต่ตอนนี้พลังของคนทรยศผู้นั้นกลับแข็งแกร่งถึงขั้นท้าทายสวรรค์ เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะเปลี่ยนหน้าไวเช่นนี้
พรสวรรค์สัตว์ประหลาดขนาดนั้นสำคัญต่อนิกายดาบสวรรค์อย่างมาก ไม่เพียงแค่นิกายดาบสวรรค์จะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในห้านิกายโบราณ แต่ยังเป็นกุญแจช่วยเปิดโลกใหม่ให้กับนิกายด้วย
เจียนเยว่ซวนรู้สึกฮึกเหิมก่อนจะหันมองรอบๆและเอ่ยถามหลิงฮัน “อาจารย์ ท่านคิดอย่างไร?”
“ห้านิกายโบราณหลอมสิ่งมีชีวิตมากมายเป็นเม็ดยา บาปนี้ไม่สามารถให้อภัยได้ ไม่เช่นนั้นเหล่าวิญญาณคนตายจากหลายยุคหลายสมันจะว่ารู้สึกอย่างไร?” หลิงฮันกล่าว
“ศิษย์เข้าใจแล้ว” เจียนเยว่ซวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ
“บัดซบ!” หลิงคงมองไปยังหลิงฮันและกล่าว “เจ้าแซ่หลิงเหมือนกันสินะ บางทีพวกเราอาจจะบรรพบุรุษต้นตระกูลเดียวกันก็เป็นได้ เช่นนั้นแล้วเหตุใดถึงขัดแย้งกันเองด้วย?”
ให้ตายเถอะ เจ้าหน้าด้านพูดอะไรเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร?
หลิงฮันทนไม่ไหวและกล่าว “เฒ่าบัดซบ ความหน้าด้านของเจ้าทำให้ข้าเปิดโลกจริงๆ ตั้งแต่วันนี้นิกายดาบสวรรค์จะต้องถูกล้มล้าง คนที่มีพลังระดับพระเจ้าขึ้นไปจะต้องทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเอง ส่วนใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอมเม็ดยาด้วยชีวิตสิ่งมีชีวิตของโลกใบเล็กจะต้องตายสถานเดียว”
ใบหน้าของหลิงคงมืดมนขึ้นมาทันทีเนื่องจากหนึ่งในตัวการหลอมเม็ดยาที่ว่าก็คือเขาเอง
ไม่เพียงต้องการล้มล้างนิกายและให้เขาตายเท่านั้น แต่คนที่มีระดับพลังบ่มเพาะในระดับพระเจ้าก็ต้องทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองด้วย?
ฝันไปเถอะ!
“ถ้าเช่นนั้นก็มีแต่ต้องสู้เป็นตาย!” เขาเลิกล้มความคิดเพ้อฝันที่จะโน้มน้าว ดูเหมือนว่าหลิงฮันไม่มีความคิดที่จะสงบศึกอย่างสันติอยู่แม้แต่น้อยนิด
“จัดการ!” หลิงคงคำราม ยักษ์วิญญาณลุกขึ้นอีกครั้งและกวัดแกว่งดาบ
เขาไม่เชื่อว่าเจียนเยว่ซวนจะแข็งแกร่งไร้เทียมทาน
ในเมื่อหลิงฮันรู้แล้วว่าเจียนเยว่ซวนไม่ได้รู้สึกติดค้างกับนิกายดาบสวรรค์ด้วยระยะเวลาหมื่นปีเขาก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดพลังอีกต่อไป เขาก้าวเดินขึ้นหน้าและปล่อยหมัดออกไปตอบโต้ยักษ์วิญญาณ
หนึ่งหมัดที่เรียบง่ายถูกปล่อยออกไป
ปัง!
แม้จะเรียบง่ายแต่กลับทรงพลังอย่างยิ่ง หมัดของเขากลายเป็นเส้นแสงทะลวงเข้าใส่หน้าอกของยักษ์วิญญาณ พลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัวส่งผลให้ยักษ์วิญญาณสลายไปทันที ดาบสวรรค์ร่วงจากท้องฟ้าและถูกหลิงฮันคว้าเอาไว้ ขนาดของมันกลับคืนสู่ขนาดสามฟุต
ดาบสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับกำลังดิ้นรนให้เป็นอิสระ ปราณดาบทะลักออกมาพร้อมกับอำนาจทำลายล้างที่ค่อนข้างทรงพลัง
“ฮึ่ม!” หลิงฮันเค้นเสียง “คิดจะต่อต้านข้า?”
กายหยาบของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งเทียบเท่าหรืออาจะสูงกว่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบ ดาบสวรรค์ที่เป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดจะทำให้หลิงฮันได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?
หลิงฮันไม่อดทนอีกต่อไปและเลือกใช้กำลัง ‘เพล๊ง’ ดาบถูกหักเป็นสองท่อนทันที
พรวด!
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนก็อ้าปากค้าง ดวงตาทุกคู่แทบจะถลนออกจากเบ้า
หะ…หักดาบสวรรค์ด้วยมือเปล่า เขาต้องเป็นสัตว์ประหลาดประเภทใดกัน?
ในตอนนี้เอง ทุกคนรู้แล้วว่าไม่ใช่เจียนเยว่ซวนที่มีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาด เขาเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราทั่วไปนั่นเอง แต่ที่ผิดปกติคือดวงดาวหายนะตรงหน้าพวกเขา!