บทที่557

เมื่ออู๋ซินได้ยินเย่เฉินดูถูกตระกูลอู๋ เขาก็โกรธมากทันที

ดังนั้น เขาจึงหันหลังลงบันไดทันที เตรียมที่จะเจอกับเย่เฉิน

และในขณะนี้ ซ่งหวั่นถิงมองไปที่หลิวกว่างที่หน้าแดงและบวมเพราะถูกเย่เฉินตบอย่างโมโห และเรียกบอดี้การ์ดที่บ้านมา

ทันทีที่บอดี้การ์ดมาถึง เธอก็ชี้ไปที่หลิวกว่างและสั่งว่า:”โยนผู้ชายคนนี้ออกไป! ถ้ากล้าเข้ามาอีก ก็หักขาของเขา!”

“ครับ!คุณหนู!”

เมื่อบอดี้การ์ดได้ยินดังนั้น พวกเขาก็รีบวิ่งไปด้านหน้า และจับหลิวกว่าง โยนเขาออกจากตระกูลซ่ง

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้จู่ๆเสียงอันเยือกเย็นก็ดังขึ้น

“กูจะดูว่าใครกล้าโยนเขาออกไป!”

อู๋ซินเดินลงบันไดไปทีละขั้น พร้อมกับความเฉยเมยและความโกรธบนใบหน้าของเขา

เดิมที เขาให้หลิวกว่างมาหาเรื่องเย่เฉิน ให้เย่เฉินอับอาย ก็เพื่อจะตบหน้าเย่เฉินแรงๆ และทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าซ่งหวั่นถิง

แต่คาดไม่ถึงว่า เย่เฉินคนนี้จะหยิ่งผยองขนาดนี้ เขาไม่เห็นตระกูลอู๋อยู่ในสายตาของเขาเลย เขาตบหลิวกว่างสองครั้งและตบหลิวหว่างจนเกือบเป็นหมาตาย

นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เย่เฉินคนนี้กล้าหาญมาก ถึงขนาดกล้าด่าตระกูลอู๋ว่าขยะด้วยซ้ำ!

มันทนไม่ได้จริงๅ!

เมื่อบอดี้การ์ดเห็นอู๋ซินลงมา พวกเขาก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง เพราะยังไงพ่อลูกตระกูลอู๋ก็อาศัยอยู่ในตระกูลซ่งหลายวันแล้ว บอดี้การ์ดก็รู้มานานแล้วว่าพวกเขาเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูล

จู่ๆหลิวกว่างก็แสดงท่าทางตื่นเต้นและพูดออกมา:คุณชายอู๋ คุณต้องช่วยผมนะครับ!”

อู๋ซินมองเขาอย่างเบื่อหน่าย แอบด่าในใจ ไอ้ไม่ได้เรื่อง แค่เรื่องเล็กยังทำไม่ได้ มีมึงไว้ทำไม!

ตอนนี้ซ่งหวั่นถิงก็ขมวดคิ้ว ถามอย่างสงสัยว่า:”อู๋ซิน นายหมายความว่าไง? เรื่องนี่เกี่ยวอะไรกับนาย?”

อู๋ซินพูดเบาๆ:”ไม่หมายความว่าไง หลิวกว่างคือคนของตระกูลอู๋ เขาติดตามฉันกับพ่อมา ตอนนี้คุณจะโยนเขาออกไป ก็เท่ากับว่าตบหน้าตระกูลอู๋ของฉัน!”

จากนั้น เขาก็พูดกับเย่เฉินว่า:”แล้วก็นาย ใครให้ความกล้านาย มาตีคนของฉัน แล้วยังเสียมารยาทกับตระกูลอู๋อีก? ตอนนี้นายคุกเข่าตบหน้าตัวเองเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”

สำหรับเขาแล้ว แม้ว่าหลิวกว่างจะเป็นหมาตัวหนึ่ง แต่หมาตัวนี้ เขาตีเองได้ คนอื่นตีเขา ไม่ได้!

ไม่อย่างนั้น เขาจะเอาหน้าไปวางไหนล่ะ? หน้าของตระกูลอู๋จะวางไหนล่ะ?

เย่เฉินมองไปที่เขาและถามว่า:”ทำไม ตระกูลอู๋ของนายดีมากรึไง?”

“แน่นอน”อู๋ซินพูดเยาะเย้ยอย่างเย่อหยิ่งว่า:”ตระกูลอู๋เป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของเจียงหนาน เป็นหนึ่งในผู้นำระดับประเทศ แล้วนายกล้าบอกว่าตระกูลอู๋ของฉันเป็นขยะ?!”

เย่เฉินยิ้มอย่างดูถูก และเงยหน้าขึ้นมองอู๋ซิน จะว่าไป ผู้ชายคนนี้หน้าตาคล้ายกับอู๋ฉีอยู่นะ เป็นพี่น้องกันจริงๆ

แต่ว่า ก่อนที่เย่เฉินจะพูด ซ่งหวั่นถิงก็รีบก้าวไปข้างหน้าและพูดออกไปว่า:”อู๋ซินเรื่องนี้หลิวกว่างเป็นคนยั่วยุก่อน นายอย่าทำให้อาจารย์เย่ลำบากใจ!”

“อาจารย์เย่?”อู๋ซินรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินซ่งหวั่นถิงออกมาเพื่อปกป้องเย่เฉิน และพูดออกไปว่า:”เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ เธอกลับเรียกเขาว่าอาจารย์งั้นเหรอ?”

ซ่งหวั่นถิงก้าวไปข้างหน้า และพูดอย่างจริงจัง:”อู๋ซิน โปรดระวังคำพูดของนายด้วย! อาจารย์เย่เป็นไอดอลของฉัน ห้ามนายมาดูถูก!”

อู๋ซินไม่คาดคิดมาก่อนว่า ผู้หญิงที่เป็นเหมือนเทพธิดาอย่างซ่งหวั่นถิงจะเป็นหมาขี้ประจบของไอ้ยาจกนี้!

เขาอดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนด้วยความขุ่นเคืองในใจ:”หมอนี้ดีกว่าผมตรงไหน?ผมควรจะเป็นผู้ชายที่เธอประจบ! เธอมันตาบอดแล้วจริงๆ!”