เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1285

ปราณชี่กลายเป็นพลังวิญญาณเข้าไปในตัวหลินหย่า

จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าร่างกายของหลินหย่าอ่อนแอมาก สติและความทรงจำในสมองเปิดออก ไม่มีการป้องกันอะไรเลย

เกิดความปั่นป่วนไม่หยุด วิญญาณไม่มั่นคง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรวมตัว

นี่คือการที่พลังแว้งกัด ถ้าสติไม่มั่นคง จะทำให้สติสับสนวุ่นวายถึงขั้นที่พังทลายได้

ถ้าคนทั่วไปสติสับสนวุ่นวาย อย่างมากก็กลายเป็นคนปัญญาอ่อนเท่านั้น

แต่นักบู๊ที่มีพลังปราณในตัว ถ้าไม่สามารถใช้สติควบคุมพลังปราณในตัวได้ เมื่อพลังปราณปั่นป่วนจะต้องตายอย่างแน่นอน!

ลู่ฝานใช้พลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของตัวเอง ค่อยๆ ทำให้สติของหลินหย่ามั่นคง

สีหน้าของหลินหย่าเริ่มผ่อนคลาย แขนขาเริ่มมีแรง

ลู่ฝานถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “โอเค ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว วิชาของนายไม่มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน ทางที่ดีอย่าใช้มันอีก ไม่งั้นระวังชีวิตนายจะ……”

ยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ หลินหย่ากระโดดถีบหน้าอกลู่ฝาน

สีหน้าแดงเถือก นัยน์ตาดุดัน ถีบนี้แรงมากจนลู่ฝานกระเด็นไปหลายเมตร แล้วกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง

หานเฟิงดึงกระบี่ฟ้าครามของตัวเองออกมาทันที ชี้ไปทางหลินหย่าแล้วตะโกนว่า “ให้ตายเถอะ นายกล้าทำร้ายศิษย์น้องฉัน รนหาที่ตายใช่ไหม!”

ฉู่สิงกับฉู่เทียนรีบจับหานเฟิงเอาไว้ จากนั้นตะโกนพูดว่า “ใจเย็นสิหานเฟิง เรื่องไม่ใช่อย่างที่นายคิด”

ศิษย์พี่ใหญ่เดินออกมา สีหน้าดุดัน ปล่อยพลังปราณออกมาบนตัว จากนั้นจ้องหลินหย่าแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องฉันช่วยรักษานาย คิดไม่ถึงว่านายจะทำร้ายเขา อย่าบอกนะว่านายเป็นคนไม่รู้จักชั่วดี”

หลินหย่าหน้าแดง พูดเสียงดังว่า “ฉันทำร้ายเขา!”

ลู่ฝานยกตัวขึ้นจากพื้น

แม้ถีบนี้ของหลินหย่าจะแรงมาก แต่ไม่มีพลังปราณเลย

ดูเหมือนถีบแรงมาก แต่ลู่ฝานที่มีปฏิกิริยารวดเร็ว บนตัวไม่มีบาดแผลอะไรเลย

ลู่ฝานปัดฝุ่นบนตัว ชี้ไปทางหลินหย่าแล้วพูดว่า “มองเจตนาดีของคนอื่นเป็นเจตนาร้ายซะงั้น ฉันช่วยนายอยู่นะ รู้นี้ปล่อยให้สตินายพังทลายไปเลยดีกว่า!”

หลินหย่าได้ยินลู่ฝานตะโกน เขาดึงกระบี่จงเทียนที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา จากนั้นพูดเสียงดังว่า “ฉันจะฆ่าไอ้หื่นอย่างนาย!”

ฉู่สิงรีบพุ่งเข้ามาดึงหลินหย่าแล้วพูดว่า “ฉู่หลิง โอ้ย น้องสาวแสนดีของฉัน อย่าวู่วาม อย่าวู่วามเด็ดขาด คนกันเองทั้งนั้น!”

ฉู่เทียนก็ดึงลู่ฝานเอาไว้แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายก็ใจเย็นหน่อย เข้าใจผิด แค่เข้าใจผิด!”

หานเฟิงได้ยินจุดสำคัญ เขาอ้าปากชี้ไปทางหลินหย่าแล้วพูดว่า “น้องสาวแสนดีงั้นเหรอ”

ศิษย์พี่ใหญ่ก็ชะงักไปเหมือนกัน เขาถลึงตาแทบหลุดออกมาแล้วพึมพำว่า “ผู้หญิงเหรอ”

ลู่ฝานยิ่งไม่อยากเชื่อ ชี้หน้าหลินหย่าแล้วพูดว่า “ฉู่หลิง น้องสาวพวกพี่เหรอ เป็นผู้หญิงเหรอ”

ฉู่เทียนพยักหน้า มองลู่ฝานด้วยใบหน้าประหลาด

ฉู่สิงมองหลินหย่าแล้วพูดว่า “ฉู่หลิง เขาหวังดี ฉันเอากระบี่มาสาบานเลย ศิษย์น้องลู่ฝานเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่ไอ้หื่นที่ชอบเอาเปรียบคนอื่น!”

หลินหย่าแอบกัดฟัน มองลู่ฝานด้วยใบหน้าอาฆาต

ลู่ฝานรู้สึกกระอักกระอ่วน เขาพูดเสียงเบากับศิษย์พี่ฉู่เทียน “เมื่อกี้ฉันคลำผิดที่แล้วใช่ไหม”

ศิษย์พี่ฉู่เทียนพูดเสียงเบาว่า “ใช่ นายคลำผิดที่สุดๆ นายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”

ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ “ราบเรียบมาก ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ พี่แน่ใจเหรอว่าเธอเป็นผู้หญิง”

เมื่อพูดจบ หลินหย่าผลักฉู่สิงออกแล้วพุ่งเข้ามาหาลู่ฝานทันที

“ฉันจะฆ่านาย!”

ลู่ฝานรีบยกมือขึ้นมาทั้งสองข้าง เวรเอ้ย หูดีจริงๆ ได้ยินด้วย

ลู่ฝานตะโกนว่า “ฉันผิดไปแล้ว ฉันยอมรับผิด ฉันนึกว่าเธอเป็นผู้ชายจริงๆ นะ!”

หลินหย่าจ่อกระบี่มาตรงหน้าอกลู่ฝาน

ลู่ฝานไม่ใช่คนโง่ เขารีบใช้วิชากายรับมือกับเธอ

เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนใช้วิชากายหลบไปหลบมานับครั้งไม่ถ้วนอยู่ในลานด้านหน้า

ในสายตาของฉู่เทียนและคนอื่น ทั้งสองคนหายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นสายลมแรงพัดจนลานด้านหน้าเต็มไปด้วยรอยกระบี่!

ในที่สุดตัวของทั้งสองคนปรากฏออกมาอีกครั้ง

ลู่ฝานใช้มือข้างหนึ่งจับกระบี่จงเทียนเอาไว้แน่น พูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า “คุณฉู่หลิง ฉันยอมรับผิดแล้วยังไม่พออีกเหรอ!”

หลินหย่าพูดเสียงดังว่า “วิชาชิงวิญญาณ!”

พลังวิญญาณพุ่งเข้าไปในสมองลู่ฝาน ลู่ฝานยังไม่ทันทำอะไร พลังที่พุ่งเข้าไปในสมองเขาโดนวิญญาณกลืนกินทันที

แม้แต่ความโหยหาของจักรพรรดิอู่ ลู่ฝานยังใช้วิญญาณเอาชนะได้เลย แค่วิชาชิงวิญญาณธรรมดาๆ ของฉู่เทียนจะทำอะไรเขาได้

ยิ่งไปกว่านั้น แม้หลินหย่าจะโกรธ แต่ไม่ได้ใช้พลังขาวดำในกระบี่จงเทียน ลู่ฝานจึงยืนรับกระบวนท่าโดยไม่ต้องป้องกันอะไรมากนัก

ประกายนัยน์ตายังคงอยู่ ตัวของลู่ฝานไม่ขยับสักนิด มองหลินหย่าด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “กระบวนท่านี้ทำอะไรฉันไม่ได้!”

หลินหย่าโมโหจนกัดฟันกรอด แต่ทว่าจู่ๆ ตัวของเธอสั่นอย่างแรงอีกครั้ง

เกิดเสียงดังเคร้ง กระบี่จงเทียนหล่นลงพื้น หลินหย่าทรุดลงบนพื้นอีกครั้ง

ลู่ฝานเห็นท่าไม่ดี จึงอุ้มเธอไว้แล้วส่งพลังวิญญาณเข้าไปอีกครั้ง