เป็นครั้งแรกที่เฉินโม่เห็นคุณปู่ที่สุขุมมาโดยตลอด ก็มีท่าทางแบบนี้ด้วย
ดูเหมือนว่าการที่ร่างกายฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงแล้ว ความมีชีวิตชีวาของเฉินกั๋วเหลียงก็กลับมาด้วย โดยเฉพาะเขาเพิ่งได้สัมผัสกับสิ่งใหม่อย่างการฝึกฝน ตอนนี้เฉินกั๋วเหลียงยังอยู่ในช่วงสนอกสนใจมากเป็นพิเศษ
ดังนั้น คนทั้งคนดูหนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นิสัยก็กลายเป็นคนใจร้อนเล็กน้อย
สองคนนั้นเป็นคนที่เคยพ่ายแพ้ให้กับเฉินกั๋วเหลียงมาแล้ว โดยธรรมชาติก็ไม่กล้าหือกับเฉินกั๋วเหลียงอีก หนึ่งคนในนั้นรีบวิ่งเข้าไปตามคนมาช่วย
“แกรออยู่นี่เลย!” นักบู๊อีกคนจ้องมองเฉินกั๋วเหลียงด้วยสีหน้าที่ขุ่นมัว พูดอย่างโอหัง “ไอ้แก่เอ๊ย แกรออยู่นี่เลยนะ ครั้งนี้จะไม่มีให้แกหนีไปได้อีก!”
“ได้ ฉันจะรอ”
เฉินกั๋วเหลียงก็ไม่ได้รีบร้อน ยืนอยู่ตรงที่เดิม ด้วยท่าทางที่ไม่แยแส อีกทั้งยังกอดอก ท่าทางเหมือนองค์เทพเก่าแก่
เฉินเยว่มองเฉินโม่แล้วพูดขึ้น “ตอนนี้เราควรที่จะบุกเข้าไปโดยตรง อย่าให้พวกมันได้มีเวลาเตรียมตัว ไม่ควรมารออยู่ที่นี่”
เฉินโม่ยิ้มๆ แล้วพูด “พี่ไม่เห็นว่าคุณปู่กำลังมีความสุขเหรอ? อีกอย่างผมมีเป้าหมายอย่างอื่น”
เฉินเยว่ไม่รู้ว่าเฉินโม่ต้องการทำอะไร ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อมีเฉินโม่อยู่ ก็คงไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นก็ฟังที่เฉินโม่พูด
“ไอ้แก่เอ๊ย แกยังกล้ามาอีก!” หยูจุนโม่พาผู้อาวุโสสองคนวิ่งออกมา คนยังไม่ถึง แต่ก็ส่งเสียงมาแต่ไกล
เฉินโม่ตะโกนเรียกเฉินกั๋วเหลียง “คุณปู่ ยังจำสิ่งที่ผมสอนได้มั้ย?”
เฉินกั๋วเหลียงพยักหน้า “จำได้แน่นอน ปู่ของนายยังไม่ได้แก่จนเลอะเลือนนะ?”
“งั้นก็ดี ไม่ต้องใจร้อน ค่อยๆต่อสู้กับเขา!” เฉินโม่กำชับ
“ได้!ฮ่าๆ!” เฉินกั๋วเหลียงหัวเราะเสียงดัง ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ชี้ไปที่หยูจุนโม่แล้วตะโกนพูด “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ครั้งก่อนนายเกือบจะเอาชีวิตฉันแล้ว ครั้งนี้ฉันมาเพื่อแก้แค้น!”
หยูจุนโม่กัดฟันยิ้มเยาะ “ไอ้แก่เอ๊ย แกมันหาที่ตายจริงๆ ครั้งก่อนที่ให้แกหนีไปได้ ครั้งนี้แกกลับติดปีกบินกลับมาอีก!”
พูดจบ เขาก็ส่งซิกทางสายตาให้กับชายชราสองท่านที่อยู่ข้างๆ ชายชราสองคนก็แยกย้ายกันในทันที และได้ตั้งเป็นสามเหลี่ยมล้อมรอบเฉินโม่สามคนเอาไว้
ฉึบ!
หยูจุนโม่ชักกระบี่ออกมาโดยตรง ชี้ไปยังเฉินกั๋วเหลียง ตะโกนพูด “ไอ้แก่เอ๊ย ไปตายเสียเถอะ!”
พูดจบ ก็ได้แทงกระบี่ไปทางเฉินกั๋วเหลียง
เมื่อเห็นการโจมตีที่โหดเหี้มของหยูจุนโม่ เฉินกั๋วเหลียงก็ลนลานไปชั่วขณะ อย่างไรก็ตามเขาก็คิดถึงสิ่งที่เฉินโม่ได้กำชับกับเขา จึงหนักแน่นในทันที
กับท่าทางเริ่มต้นของไทเก็กมาก
เฉินโม่พยักหน้า ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความปลาบปลื้มใจ “คิดไม่ถึงว่าหมัดไร้ขอบเขตชุดนี้จะเหมาะกับคุณปู่มากขนาดนี้ ใช้ต่อสู้ครั้งแรกก็ดูดีมาก ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ต้องสามารถฝึกถึงระดับที่สุดยอดได้อย่างแน่นอน!”
อันที่จริงหมัดไร้ขอบเขตนี้ มันก็เหมือนกับหมัดของไทเก็ก ล้วนให้ความสำคัญกับคำว่าฉลาด อย่างเช่นวิชาสี่ตำลึงปาดพันชั่ง(หลักอ่อนพิชิตแข็ง) เพื่อกำจัดพลังของศัตรู ซึ่งมันเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้สูงอายุในการฝึก
ตอนที่กระบี่ของหยูจุนโม่แทงเข้ามาตรงหน้าของเฉินกั๋วเหลียง ก็ถูกพลังไร้รูปของเฉินกั๋วเหลียงผลักออกไปจากทิศทางเดิมโดยตรง และเอียงไปด้านข้าง
หยูจุนโม่ตกใจ หยุดการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเร่งด่วน ต้องการที่จะถอนกระบี่กลับมา
อย่างไรก็ตาม เฉินกั๋วเหลียงหมุนวนไปรอบๆอีกครั้ง พลังที่แข็งแกร่งได้ดูดกระบี่ของหยูจุนโม่เอาไว้ เพื่อไม่ได้เขาดึงมันกลับไป
หยูจุนโม่ตกตะลึง ทำได้เพียงดึงกระบี่กลับมา ไม่เช่นนั้นแขนของเขาข้างหนึ่งก็จะถูกเฉินกั๋วเหลียงฟันขาดไปแล้ว
หยูจุนโม่ซึ่งกำลังถอยหลังอยู่ มองไปที่เฉินกั๋วเหลียงด้วยความตกใจ และอุทานว่า “เป็นไปได้อย่างไร! แค่ไม่เจอกันหนึ่งวัน แกทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?”
เฉินกั๋วเหลียงที่ชนะในท่าเดียว จิตใจสงบนิ่ง มองหยูจุนโม่อย่างอารมณ์ดีและหัวเราะพูด “ไอ้หนุ่ม เห็นกับตาแล้วใช่มั้ย ครั้งนี้ฉันทำให้นายรู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน!”