บทที่ 825 แสงสว่างนั้นของเขา

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

บนโลกใบนี้ ระยะห่างระหว่างมนุษย์กับบาปแห่งความชั่วนั้นห่างไกลกันเท่าไหร่กันแน่?

เส้นหมี่ไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องนี้เลยนี้

ในช่วงหลายปีท่านผ่านมา เธอผ่านเรื่องราวมาก็มากมาย ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้จนถึงการถูกบีบบังคับให้ต้องเติบโตในชั่วข้ามคืน ไปจนถึงจากความกระตือรือร้นอย่างเปี่ยมล้นจนถึงการถูกบีบบังคับจนพังพินาศไปกับตา เธอเองก็ผ่านช่วงอุปสรรคของชีวิต ประสบกับลมฝนพายุมานับไม่ถ้วน

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่เคยคิดถึงประโยคนี้เลย

จนกระทั่งตอนนี้ เธอเห็นชายหนุ่มคนนี้ล้มลงต่อหน้าของเธอ

“มันคือโซเดียมไซยาไนด์ เขา….ทำไมมีสิ่งนี้อยู่ในปาก?”

เส้นหมี่คุกเข่าลงบนพื้นและประคองชายหนุ่มคนนี้ที่ยังมีเลือดสีดำพุ่งออกมาจากในปากไม่หยุด สายตาจ้องมองไปยังผู้ชายคนที่เดินเข้ามาอย่างไม่ละสายตา แม้แต่น้ำเสียงก็สั่นระรัว

แสนรักไม่พูดอะไร

แต่ สายตาของเขาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มคนนี้ และมีบางอย่างที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ลึกๆ

ราวกับว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า น่าสะพรึงกลัวที่สุด

ดราก้อน แชนท์ของตระกูลหิรัญชา ปกติคนที่เข้าไปได้ ล้วนเป็นแต่บุคคลที่ตายไปแล้ว พวกเขาไม่ได้ถูกบีบบังคับ แต่เป็นเพราะได้รับพระคุณจากตระกูลหิรัญชาเป็นอย่างมาก ฉะนั้น หลังจากที่พวกเขาสามารถออกมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว ในมือของทุกคนก็จะถือยาปลิดชีพอยู่คนละหนึ่งเม็ด

และยาปลิดชีพนี้ ก็คือทำมาจากโซเดียมไซยาไนด์ จุดประสงค์คือตอนที่เจออันตรายที่สุด ก็ยังคงเก็บรักษาความลับของตระกูลหิรัญชาไว้ได้

กาวินเองก็มี

แต่ แสนรักไม่เข้าใจว่า เขาทนมาได้นานขนาดนี้แล้ว ทำไมหลังจากที่เจอเขาแล้ว? จึงได้กัดสิ่งนี้ที่ซ่อนอยู่ในปากได้

แสนรักค่อยๆ นั่งยองลงมาต่อหน้าของลูกน้องเก่าคนนี้

“นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย ฉัน…ไม่เคยโทษนายเลย”

เขาเข้าใจว่า ชายหนุ่มคนนี้รู้สึกผิดโทษตัวเองที่ตอนนั้นปกป้องเขาได้ไม่ดีพอ จึงได้ฆ่าตัวตายหลังจากที่เจอเขาแล้ว

แต่ ชายหนุ่มที่เลือดออกเต็มปากกลับส่ายหน้า

เขาอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ในลำคอที่ว่างเปล่านั้น ไม่มีเสียงใดๆดังออกมาเลย ดังนั้นในตอนท้าย เขาค่อยๆยกมือตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆ ใช้นิ้วก้อยเพียงนิ้วเดียวที่เขายังสามารถขยับได้ เขียนคำสองสามคำลงในฝ่ามือของแสนรักทีละตัวๆ

แสนรักก้มศีรษะดู

เส้นหมี่เองก็จ้องมองไปดูด้วย

แต่เธอดูไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่าตัวอักษรที่ชายหนุ่มคนนี้เขียนนั้นไม่ใช่คำทั่วไป แต่เป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่เธอดูแล้วไม่เข้าใจ

สิ่งเดียวที่เธอดูออกก็คือ ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ สีหน้าบนใบหน้าอันหล่อเหลานั้นยิ่งดูก็ยิ่งประหลาดใจ จนถึงตอนสุดท้าย ก็เริ่มที่จะดูบูดเบี้ยวบ้างเล็กน้อยไปตามขีดตัวอักษรที่ชายหนุ่มคนนี้เขียน!

จากนั้น จนกระทั่งกาวินเขียนเสร็จ เขายังนั่งยองอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับ

เส้นหมี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ คิดดูว่าจะช่วยชีวิตชายหนุ่มคนนี้ให้รอดหรือไม่?

แต่ เมื่อเธอจับชีพจรของเขา กลับพบว่าเกือบจะจับชีพจรไม่ได้แล้ว

โซเดียมไซยาไนด์เดิมทีเป็นยาพิษรุนแรง ถ้าหากสัมผัสตามปกติ ปริมาณเพียงน้อยนิดก็สามารถทำให้คนถึงตายได้ เธอไม่รู้ว่าพวกเขากลุ่มนี้นำยาพิษแบบนี้มาเก็บรักษาไว้ในฟันได้อย่างไรกัน

แต่ ทันทีที่เธอเห็นอาการของเขาที่โดนยาพิษนี้ เธอก็รู้ได้ว่า เขาไม่มีทางรอดแล้ว

“หม่ามี๊ หม่ามี๊อยู่ข้างในไหม?”

ตอนที่ในใจเธอรู้สึกเศร้าเจ็บปวดเป็นที่สุดอยู่ที่นี่นั้น จู่ ๆ หนูรินจังที่อยู่ด้านนอกก็ขึ้นมา

รินจัง?

เส้นหมี่ : “…….”

ในเสี้ยววินาทีนั้น จู่ ๆ เธอรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มในมือที่สติสัมปชัญญะกำลังจะเลือนหายไป ดวงตาคู่นั้นที่มัวหมองหรี่ลงไปกลับขยับขึ้นมาอีกครั้ง

หรือว่า?

ทันใดนั้น เส้นหมี่จำได้ว่าตอนนั้นที่ลูกสาวโดนพาตัวไป ก็เป็นฝีมือของชายหนุ่มคนนี้ จู่ ๆ หัวใจเธอเต้นพองโต หันหน้าไปทางประตูและเรียก : “รินจัง รีบเข้ามาลูก!”

“ค่ะ”

ยัยหนูน้อยราวหยกสีชมพูแกะสลักคนนั้นก็รีบเปิดประตูเข้ามาทันที

“หม่ามี๊….”

แต่หลังจากที่เธอเข้ามาแล้วนั้น เธอกลับมองเห็นฉากอันน่ากลัวเป็นอย่างมากในห้องนี้ ในมือของหม่ามี๊ทำไมมีคน? และยังอาเจียนออกมาเป็นเลือด?

เด็กน้อยตกใจกลัวมาก ทันใดนั้นดวงตาโตใสปิ๊งก็เบิกกว้างอย่างมาก

เส้นหมี่เห็นแล้ว เธอก้มหน้าลงมองยังลูกสาวที่หลังจากเข้ามาแล้วนั้น สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มบนตัวเธออย่างไม่ละสายตา ในใจเธอรู้สึกเศร้าอีกครั้ง และโบกมือเรียกลูก

“รินจัง มานี่ลูก ลูกลองดูนะ ลูกจำเขาได้ไหม?”

“หา?”

ในที่สุดสายตาคู่นั้นที่ตกใจกลัวของหนูรินจัง ก็มองไปยังร่างของพี่ชายที่เลือดออกเต็มปากอยู่ในอ้อมแขนของหม่ามี๊

ผลคือ หลังจากที่เธอจ้องดูอยู่สักครู่ จู่ ๆ ใบหน้าอันอ้วนกลมก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก!

“พี่ชายคนสวย? คือ….พี่ชายคนสวยใช่ไหม?”

ในที่สุดเธอก็จำได้ ทันใดนั้น หลังจากที่เธอเรียกด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตราวลูกปัดแก้วนั้นก็แดงก่ำขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าน้ำตาจะร่วงหล่นลงมา

เธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองมองเห็น

พี่ชายคนสวยที่เธอคิดถึงมานานแสนนาน จู่ ๆ ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้?

เธอเศร้าเสียใจเป็นที่สุด

เส้นหมี่มองเห็นฉากนี้ ก็รีบกวักมือเรียก : “ใช่ รินจัง หนูรีบมานี่ พี่ชายอยากจะเห็นหนูเป็นครั้งสุดท้าย คนเก่ง”

หนูรินจัง : “……”

ปากน้อยๆเบ้ลงเล็กน้อย ใบหน้าเล็กๆขาวนวลอันแสนน่ารัก ในที่สุดก็วิ่งเข้ามา

“พี่ชาย พี่….ทำไมบาดเจ็บแล้วล่ะ? พี่รับปากหนูรินจังแล้วไม่ใช่เหรอว่าต่อไปนี้จะไม่ให้ได้รับบาดเจ็บอีก?” เธอนั่งยองลงต่อหน้าของกาวินอย่างเศร้าเสียใจ มือน้อยคู่หนึ่งอันขาวอวบอิ่ม ก็ไม่กลัวเลยที่จะยื่นไปลูบใบหน้าของเขา