บทที่ 828 ได้เจอเด็กฝาแฝดแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 828 ได้เจอเด็กฝาแฝดแล้ว
เป็นเวลานานมากที่เส้นหมี่จ้องมองอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์นี้อย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง!

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้ชายคนนี้เป็นคนเอ่ยถึงลูกขึ้นมาเอง ทั้ง ๆที่เขายังไม่ได้กลับสู่สภาวะของเจ้านาย

อีกทั้ง เขาให้คนพาพวกเขามาที่เดอะวิวซี!

ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้? เขายังไม่ฟื้นตัวดีไม่ใช่เหรอ? คนที่ในความทรงจำไม่มีลูกทั้งสามคนนี้ จู่ ๆ ให้รับพวกเขามา เขาจะเผชิญหน้าต้อนรับพวกเขาด้วยสภาพจิตใจแบบไหนกัน?

อีกอย่าง ตอนนี้กาวินก็เสียชีวิตแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีคนจ้องจะจัดการกับเด็กทั้งสามคนนั้นอยู่

งั้นรับตัวพวกเขามาที่นี่ ไม่กลัวเกิดเรื่องเหรอ?

เส้นหมี่มองเห็นข้อความบนวีแชทนี้ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที คลื่นยักษ์ลูกใหญ่ในก้นบึ้งของหัวใจก็ถาโถมขึ้นมา!

“ใครส่งข้อความมา? เขาเหรอ?” ไชยันต์เห็นสีหน้าของเธอเป็นแบบนี้ ก็เดาได้ถูกว่าเป็นอะไร ทันใดนั้น เขาก็ถามขึ้นมาทันทีอีกครั้ง

เส้นหมี่ : “………”

สักพัก ในที่สุดเธอก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้เขาดู

“เขาบอกว่า คุณแสงดาวรู้ที่ซ่อนตัวของลูกทั้งสามคน มอบหมายให้เธอส่งคนไปถามเธอ จากนั้นรับพวกเด็กๆกลับมา”

“……”

เป็นไปตามคาด หลังจากที่ไชยันต์คนนี้เห็นข้อความนี้แล้ว ก็ตกใจมากเช่นกัน!

แต่ท่าทีตกใจของเขามีอยู่เพียงไม่กี่วินาที

จากนั้นก็มีความปลื้มปีติดีใจเข้ามาแทนที่

นั่นคือเหลนชาย เขาจะได้เจอในไม่ช้านี้แล้ว ทำไมเขาจะไม่ดีใจล่ะ?

ไชยันต์รีบลงไปทันที โทรศัพท์ไปหาแสดงดาวที่กลับไปแล้วด้วยตัวเอง

ทันทีที่ได้ยินแสงดาวก็ตกใจเป็นอย่างมาก : “น้องชายฉันให้คุณมาหาฉัน? ทำไมเขาถึง……”

อันที่จริงเธออยากถามว่า น้องชายของเธอคนนี้ทำไมถึงรู้ว่าเธอรู้ที่อยู่ของเด็กๆเป็นอย่างดี? รู้หรือไม่ว่าช่วงเวลาตอนที่อยู่เดอะวิวซี เธอนั้นปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ตลอด

ไชยันต์หัวเราะเยาะ : “เขาแค่จำเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้ ไม่ได้เปลี่ยนสมองเสียหน่อย!”

แสงดาว : “……”

ก็ไม่พูดอะไรต่อ

สุดท้าย เธอก็ยอมบอกที่อยู่ของเด็กๆทั้งสองคนให้แก่เขาแต่โดยดี

พอไชยันต์ได้ยิน ก็รีบพาคนไปรับที่มัลดีฟส์ด้วยตัวเอง

อันที่จริงเขาเองก็รู้ดีในสิ่งที่กัปตันหน่วยเอสเอสคนนั้นวิเคราะห์

ดังนั้น หลังจากที่เขารู้ที่อยู่ของเหลนชายสองคนนี้แล้ว ก็ไม่กล้าที่จะมอบหมายให้คนอื่นไปทำเรื่องนี้แทน และยอมไปรับด้วยตัวเอง เป้าหมายก็คือเพื่อให้เด็กน้อยสองสามคนนี้กลับมายังข้างกายเขาอย่างปลอดภัย

เส้นหมี่เห็นว่าเขาไปรับด้วยตัวเอง ในใจก็รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก

สำหรับชายชราคนนี้ อันที่จริงเธอไม่เคยให้อภัยเขา

ครอบครัวของพวกเขา ก็เป็นเพราะฝีมือของเขาที่ทำให้ตอนนี้ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะลงมือด้วยตัวเองหรือไม่ แต่ก็ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งสิ้น

เช่นนี้ คิดอยากจะเปิดใจรับเขา แน่นอนว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น

แต่ตอนนี้เธอเห็นแล้วว่าเพื่อความปลอดภัยของลูกทั้งสามคน เขายอมออกไปรับด้วยตัวเอง เธอก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย

“คุณแสนรัก ทำไมจู่ ๆ คุณถึงคิดจะรับเด็กทั้งสามคนมาล่ะ? คุณไม่กลัวว่าพวกเขาอยู่ที่นี่แล้วจะมีอันตรายเหรอ?”

หลังจากที่ไชยันต์ออกไปแล้ว ประตูห้องนอนชั้นสามก็เปิดออกแล้ว

เส้นหมี่คอยขึ้นมาอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเอาอาหารมาให้เขา หรือไม่ก็ฉวยโอกาสตรวจร่างกายเขา วันหนึ่งเธอขึ้นมาเจ็ดถึงแปดครั้ง

และสำหรับคำถามนี้ หลังจากที่เธอลังเลใจอยู่นานมากแล้ว ในที่สุดก็เอ่ยถามออกมา

ในเวลานี้แสนรักยืนอยู่ตรงหน้าต่างจ้องมองไปยังนอกหน้าต่างเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่?

สองวันมานี้หลังจากที่เขาเปิดประตูห้อง ดูเงียบจนผิดปกติ บางครั้งก็ยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างอยู่อย่างนั้นเป็นนานสองนาน เส้นหมี่ดูแล้วก็ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อได้ยินคำถามนี้ของเธอ เขาเลิกคิ้วขึ้น และตอบกลับว่า : “ผมอยู่นี่”

เส้นหมี่ : “……”

เพียงแค่ประโยคนี้ ในใจของเธอก็รู้สึกสงบลงอย่างกะทันหัน

ใช่สิ เขาอยู่ที่นี่ไง ไม่ว่าเขาจะจำได้หรือไม่ได้ ความสัมพันธ์สายใยแห่งความเป็นพ่อลูกกัน สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องปกป้องคุ้มครองพวกเขาได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

เส้นหมี่ออกมาจากในห้อง แล้วเริ่มคลุ้มคลั่งเรื่องลูกสาวของเธอ

【เส้นหมี่ : พี่คะ พี่บอกเรื่องเด็กๆกับท่านไชยันต์ แล้วพูดถึงรินจังว่าไงบ้าง?】

【แสงดาว : จะให้ฉันพูดยังไงล่ะ? ก็พูดตามที่เธอบอกนั่นแหละ เด็กน้อยคนนั้นป่วย และถูกน้องชายของฉันส่งตัวไปอีกที่หนึ่งก่อนที่จะเกิดเรื่อง?】

【เส้นหมี่ :……】

ถึงกับทำอะไรไม่ถูกอยู่สักครู่หนึ่ง!

แต่นี่คือวิธีที่เธอคิดขึ้นมาเพราะว่าเธอไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

ลูกสาว ก็อยู่ที่นี่กับพวกเขาไง

เส้นหมี่ไม่ได้คิดถึงปัญหาเรื่องนี้ต่ออีก แต่หลังจากที่วางโทรศัพท์ลง เธอก็เริ่มรู้สึกกังวลใจขึ้นอีก หลังจากที่จู่ ๆ ลูกชายทั้งสองคนเจอกับไชยันต์ เขาจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังเขาหรือเปล่า?

แต่ในความเป็นจริง เธอไม่รู้เลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางนี้ เด็กน้อยทั้งสองที่มัลดีฟส์ต่างก็รู้เรื่องอย่างแจ่มแจ้งผ่านน้องสาวของพวกเขาตั้งนานแล้ว

“พี่กาวินจากไปแล้ว รินจังเสียใจมาก”

สองวันมานี้คิวคิวไม่ได้รับข้อความจากน้องสาว มองดูยังหน้าจอสีดำ และนั่งเท้าคางอยู่บนบันไดด้านนอกวิลล่าด้วยความกังวลใจ

ชินจังเองก็กำลังเป็นห่วง

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากสาเหตุที่เขาเติบโตมาในครอบครัวตระกูลหิรัญชา สำหรับการตายของพี่กาวินนั้น ก็ทำให้เขาเสียใจเป็นอย่างมาก

ฉะนั้น ใครกันแน่ที่ทำให้พี่กาวินต้องตาย?

“ฉันจะต้องแก้แค้นให้เขา!” เด็กหนุ่มน้อยเสียใจเป็นที่สุด กำหมัดน้อยๆไว้แน่น

คิวคิวรีบมองไปที่เขาทันที : “จะแก้แค้นยังไง? พวกเราไม่รู้เลยว่าเขาถูกใครฆ่าตาย”

เขาเตือนสติเขา

ก็จริง ตอนที่กาวินเสียชีวิต พวกเขาเห็นเพียงแค่สภาพที่เขาเสียชีวิตอย่างน่าสลดผ่านกิ๊บติดผมของน้องสาว และสำหรับขีดเหล่านั้นที่เขาเขียนไว้ให้กับแด๊ดดี้หม่ามี๊ก่อนตาย พวกเขามองไม่เห็น