เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1293

เพียงพริบตาเดียวผ่านไปแล้วสิบวัน ยังคงไม่มีข่าวคราวของหลิงเหยา

สิบวันมานี้ ลูกหลานตระกูลหานกับพวกศิษย์พี่ใหญ่ขาจะขาดแล้ว แต่ก็ยังหาเบาะแสของหลิงเหยาไม่ได้สักนิด

เมืองหลวงใหญ่เกินไปจริงๆ สิบวันมานี้แค่ศูนย์กลางเมืองยังหาไม่ทั่วเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่อื่น

ลู่ฝานก็ออกตามหาทุกวัน แต่ก็ไม่ได้อะไรสักวัน

ไม่ใช่แค่หลิงเหยา อู่คงหลิงเขาก็หาไม่เจอเหมือนกัน สิ่งเดียวที่ปลอบใจลู่ฝานได้ตอนนี้คือข้อความที่อู่คงหลิงเขียนไว้ในมือเขาว่าหลิงเหยาปลอดภัย

วันนี้ลู่ฝานมาถึงสนามต่อสู้แปดทิศตั้งแต่เช้า ไม่ใช่เพราะเรื่องอะไร แต่เพราะจะเจอเสอหลิงเป็นอันดับแรก

ลู่ฝานมาพร้อมกับความอาฆาต นั่งอยู่ในสนามบู๊ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความดุร้ายน่ากลัว!

เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง ผู้ชมมากมายเริ่มทะลักเข้ามาในสนามต่อสู้แปดทิศ

พวกเขาไม่ได้มีเส้นทางพิเศษเข้ามาเหมือนลู่ฝาน ผู้ชมมากมายรออยู่ข้างนอกหลายวันแล้ว จึงสามารถเข้ามาได้ก่อน

เมื่อถึงรอบสี่คนสุดท้าย ที่นั่งในสนามบู๊ยิ่งมีราคาขึ้น

ให้ตายเถอะ ซื้อตั๋วแล้วก็ไม่แน่ว่าจะได้เข้ามาดู พุ่งเข้ามาก่อนคือทางเลือกที่ถูกต้อง ส่วนตั๋วน่ะเหรอ หึหึ ซื้อตั๋วเพิ่มเหรอ ไม่มีปัญหา! เพิ่มสิบเท่าก็เป็นแค่เรื่องเล็ก!

เมื่อประตูเปิด คนทะลักเข้าไปเหมือนเขื่อนแตกชัดๆ

นอกจากที่นั่งที่เหลือให้ตระกูลใหญ่ ที่นั่งอื่นแทบจะเต็มในชั่วพริบตา แม้แต่ที่ยืนก็ใกล้จะไม่เหลือแล้ว

ลู่ฝานยืนดูม่านน้ำสรวงสวรรค์อยู่ในห้องรับรอง

ไม่นาน คนที่มาถึงเป็นคนแรกคือหลินหย่า มองเห็นลู่ฝานทันที

หลินหย่าพูดเสียงเบาว่า “นายใจร้อนมากเหรอ”

ลู่ฝานพูดว่า “แน่นอน”

หลินหย่าพูดต่อ “ฉันได้ยินพี่รองกับพี่สามพูดว่านายกับหลิงเหยาเป็นคนรักกัน ดูท่าทางรีบร้อนของนาย ความรักของพวกนายคงลึกซึ้งมากสินะ! บอกฉันได้ไหมว่ารู้จักกันได้ยังไง”

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ขอโทษด้วย ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์พูดเรื่องพวกนี้”

หลินหย่าขมวดคิ้วเบาๆ นั่งลงอีกด้านแล้วพูดว่า “ถึงนายจะรีบร้อนยังไง คงหาหลิงเหยาไม่เจอเร็วๆ นี้หรอก สู้คุยกับฉันดีกว่า”

ลู่ฝานมองหลินหย่าแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันไม่มีอารมณ์คุยเรื่องนี้จริงๆ ช่างเถอะ หลินหย่า เราคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า อย่าบอกนะว่าศิษย์พี่ฉู่สิงกับศิษย์พี่ฉู่เทียนไม่ห้ามเธอมาแข่งวันนี้”

หลินหย่าพูดว่า “นายจะบอกว่าการแข่งขันวันนี้ฉันต้องแพ้แน่ใช่ไหม”

ลู่ฝานพูดว่า “ฉันรู้ว่าพูดแบบนี้จะทำร้ายคนอื่นมาก แต่ในความเป็นจริง ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเธอยังไม่หายดี จะสู้กับเทียนชิงหยางยังไง”

หลินหย่าพูดเสียงดังว่า “โอเค ลู่ฝาน นายอาจลืมไปแล้ว ฉันสู้จนมาถึงรอบสี่คนได้ ไม่มีใครอ่อนข้อให้ฉัน ไม่มีใครเล่นเส้นให้ฉัน ก่อนหน้านี้ฉันชนะได้ ตอนนี้ฉันก็ชนะได้เหมือนกัน เทียนชิงหยางในความคิดฉันก็แค่เท่านั้น ฉันชนะเขาได้ ถ้านายจะพูดเรื่องนี้กับฉัน สู้ไม่พูดดีกว่า”

พูดจบ หลินหย่านั่งไกลออกไปอีก

ลู่ฝานเห็นเธอดื้อดึงขนาดนี้ ก็ไม่พูดอะไรมากอีก

ศิษย์พี่ฉู่สิงกับศิษย์พี่ฉู่เทียนยังไม่ห้ามเธอ ลู่ฝานจะพูดอะไรได้ล่ะ

ทั้งสองนั่งและยืนรออย่างเงียบๆ

ไม่นาน ลู่ฝานเห็นผ่านม่านน้ำสรวงสวรรค์ว่าฉินซางต้าตี้และคนอื่นมากันแล้ว ส่วนบนที่นั่งผู้ชม คนของสิบตระกูลใหญ่ก็มากันครบแล้ว

ท่านแปดปรากฏตัวในสนามบู๊อีกครั้ง

วันนี้ในสนามบู๊ไม่ได้งดงามเหมือนครั้งที่แล้ว แต่กลับธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด

พื้นหินบลูสโตน รอบๆ ไม่มีปราณเกราะ เก้าอี้กิเลนที่วางอยู่ในสนามบู๊ก็เหลือแค่สี่ตัว วางอยู่สี่มุมของสนามบู๊