วังสวรรค์
ความเสียหายที่เกิดจากสงครามชะตากรรมเริ่มฟื้นตัวแล้ว
ห้องประชุม
ฉินติงหลิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลักและกวาดตามองเจตจํานงของผู้อมตะที่อยู่รอบๆ
สมาชิกส่วนใหญ่ของวังสวรรค์กลับไปจําศีลที่สุสานอมตะ มากกว่าครึ่งของสุสานอมตะถูกทําลายโดยฟางหยวน วังสวรรค์มีสมาชิกเหลืออยู่จํานวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามแม้ผู้อมตะของวังสวรรค์จะกลับไปจําศีล แต่ฉินติงหลิงกลับไม่ได้รับข้อความใดๆจากเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว
ราวกับว่าสงครามชะตากรรมทําให้เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวประสบความสูญเสียครั้งใหญ่
นี่ทําให้ฉินติงหลิงรู้สึกกังวลมาก เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวสามารถต่อต้านเจตจํานงสวรรค์แต่เจตจํานงสวรรค์ก็สามารถกลืนกินเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวเช่นกัน หากนางขาดการสนับสนุนที่เพียงพอนางจะถูกเจตจํานงสวรรค์กลืนกินจนหมดหากเรื่องนี้เกิดขึ้น มันจะกลายเป็นฝันร้ายของเผ่ามนุษย์และวังสวรรค์
แต่การประชุมครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว
“กระแสลมปราณกําลังอาละวาด กองกําลังของสองสวรรค์มีการเคลื่อนไหว อู่ส่วยนํากองกําลังพันธมิตรของสองสวรรค์บุกยึดฐานทัพใหญ่ของตระกูลเซียแห่งทะเลตะวันออก ตอนนี้ตระกูลเซี่ยขอความช่วยเหลือจากบรรพชนทะเลปราณทั้งสองฝ่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อกันพวกเจ้าคิดว่าพวกเราควรทําเช่นไรในสถานการณ์นี้”ฉินติงหลิงถาม
นางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งโชค นางไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาเหมือนเทพธิดาจื่อเว่ยดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องสําคัญนางจึงไม่สามารถตัดสินใจและต้องปรึกษาคนอื่นๆ
“กองกําลังพันธมิตรของสองสวรรค์เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ พวกมันเป็นศัตรูของวังสวรรค์เราต้องกําจัดพวกมัน!”
“ในแง่นี้ บรรพชนทะเลปราณถือว่ามีความรับผิดชอบในฐานะมนุษย์
“ตอนนี้ความขัดแย้งระหว่างคู่ส่วยกับบรรพชนทะเลปราณคล้ายกับความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กลายพันธุ์กับมนุษย์แต่ความจริงก็คือไม่ว่าฝ่ายใดจะได้รับชัยชนะสิ่งสําคัญที่สุดยังเป็นฟางหยวน!”
“แท้จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นอู่ส่วยหรือบรรพชนทะเลปราณ ทั้งสองต่างมีความเกี่ยวข้องกับฟางหยวนอิส่วยอ้างว่าเขาร่วมมือกับฟางหยวนเพื่อการฟื้นคืนชีพเท่านั้นความปรารถนาของเขามีเพียงการนําเผ่ามนุษย์มังกรกลับมาสําหรับบรรพชนทะเลปราณเขาเคยทําข้อตกลงกับฟางหยวนและต่อต้านวังสวรรค์แต่เขาเปลี่ยนใจภายหลังเมื่อราชันมังกรส่งมอบมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดให้เขาในสงครามชะตากรรมบรรพชนทะเลปราณไม่ปรากฏตัวทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าท่านราชันมังกรตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดแล้ว”
“ข้ามีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปบรรพชนทะเลปราณอาจเป็นร่างปลอมของฟางหยวนในอดีตเราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เพราะฟางหยวนมีการบ่มเพาะระดับเจ็ดเท่านั้นแต่ตอนนี้เรารู้ความลับของร่างทารกอมตะแล้วมีความเป็นไปได้ที่ฟางหยวนจะปลอมตัวเป็นบรรพชนทะเลปราณอย่าลือว่าในสงครามชะตากรรม างหยวนทําลายกําแพงปราณด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณ”
“วิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาเรียกว่าทะเลปราณไร้ขอบเขต มันเป็นวิธีเฉพาะตัวของฉีเซียงในอดีตแต่วิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณของบรรพชนทะเลปราณแตกต่างจากท่าไม้ตาย อมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตเป็นอย่างมากมีความเป็นไปได้น้อยที่ทั้งสองจะเป็นคนๆเดียวกัน”
“แต่เราไม่สามารถละทิ้งความเป็นไปได้นี้”
“กล่าวถึงอู่ส่วย เขายิ่งน่าสงสัยมากกว่าบรรพชนทะเลปราณ เขาอาจไม่ใช่ร่างปลอมของฟางหยวน แต่เขาอาจเป็นร่างแยกของฟาหงยวน ในฐานะผู้นํานิกายเงาฟางหยวนครอบครองรากฐานของมันหนึ่งในวิธีการเฉพาะตัวที่โดดเด่นของเทพปีศาจจิตวิญญาณคือการแยกวิญญาณนั้นคือวิธีที่เขาใช้สร้างนิกายเงา”
กลุ่มผู้อมตะพูดคุยกัน
ฉินติงหลิงลังเลและรู้สึกปวดหัวมาก
ผู้อมตะแต่ละคนมีมุมมองของตนเองที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีผู้ใดสามารถโน้มน้าวผู้อื่นแต่ในที่สุดฉินติงหลิงก็ต้องตัดสินใจ
นางคิดและถอนหายใจ “ทุกคน ฟังข้า ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเขาสามารถปลอมตัวเป็นผู้ใดก็ได้แม้เราจะระวังเรื่องนี้อยู่แล้วแต่เราก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้ต่างๆ อู่ส่วยอาจเป็นร่างแยกของฟางหยวนบรรพชนทะเลปราณอาจเป็นร่างปลอมของเขาทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น
“แต่ในเวลาเดียวกันมันก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับฟางหยวนเราไม่สามารถสร้างศัตรูไปทุกแห่งหนเพียงเพราะความสงสัยลืมอู่ส่วยไปก่อนสําหรับบรรพชนทะเลปราณเราไม่สามารถละทิ้งเขาเพียงเพราะความเป็นไปได้นี้บางทีเราอาจสามารถเป็นพันธมิตรกับเขา”
เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางเจ๋งเปิดปากถามด้วยความลังเล “ผู้อาวุโสฉันต้องการรับสมัครบรรพชนทะเลปราณเช่นนั้นหรือ?”
ฉินติงหลิงพยักหน้า “ท่านราชันมังกรจากไปแล้วขณะที่ฟงจิวเก้อทรยศ วังสวรรค์ของเราต้องการสมาชิกที่มีพลังการต่อสู้ระดับนี้ในอดีตท่านราชันมังกรใช้มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเขาแม้เขาจะไม่ตกลงเข้าร่วมกับพวกเรา แต่เขาก็ไม่ปรากฏตัวในสงครามชะตากรรมเช่นกัน”
ทุกคนเงียบ
แผนการปัจจุบันของฉันติงหลิงคือแผนเดิมของราชันมังกร
ในอดีต เพื่อฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม ราชันมังกรตัดสินใจผลักบรรพชนทะเลปราณออกไปจากความขัดแย้งแต่ตอนนี้วังสวรรค์กําลังต้องการบางคนที่มีพลังการต่อสู้ถึงระดับเก้ามาสนับสนุนพวกเขา
แม่โลกในปัจจุบันจะสงบสุข แต่กระแสลมปราณและร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์กําลังบังคับให้ผู้อมตะส่วนใหญ่พักฟื้นพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยง่าย
แต่เมื่อกระแสลมปราณสงบลงและฟางหยวนสามารถปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์สิ่งใดจะเกิดขึ้น?
เมื่อเวลานั้นมาถึง บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดของวังสวรรค์คือฉันติงหลิงแต่นางจะสามารถต่อต้านผู้อมตะของสี่ภูมิภาคได้อย่างไร?นางจะสามารถปิดกั้นจางเฉิงได้อย่างไร?นางจะสามารถ หยุดฟางหยวนได้อย่างไร?
วังสวรรค์ตระหนักถึงภัยคุกคามนี้มาตลอด ในอดีตพวกเขาจึงคัดเลือกผู้อมตะจากภูมิภาคเพื่อเข้าร่วม
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือหว่านซื้อหง ผู้อมตะหญิงผู้นี้เคยเป็นปีศาจอมตะของทะเลทรายตะวันตกมาก่อนแต่ตราบเท่าที่พวกเขายังเป็นมนุษย์วังสวรรค์ก็จะรับพวกเขาเข้าร่วม
“ข้าไม่มีปัญหาเรื่องการรับบรรพชนทะเลปราณเข้าร่วม แต่เราต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟางหยวนให้ชัดเจน!”
“เจ้าพูดถูก แต่ตอนนี้บรรพชนทะเลปราณอาจไม่แยแสวงสวรรค์ของเรา”
“ฮ่าฮ่า ข้าคิดว่าสิ่งที่สามารถดึงดูดใจเขามีเพียงมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิด”
ฟางเจิ้งเสนอตัว “ความขัดแย้งระหว่างบรรพชนทะเลปราณและอู่ส่วยเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของเรา เราสามารถตรวจสอบความจริงจากเรื่องนี้แน่นอนว่าไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเราก็ไม่สามารถมองข้ามผู้อมตะของสองสวรรค์เนื่องจากเรามีราชาหมาป่าราตรีสวรรค์เป็นสายลับดังนั้นข้ายินดีนํากองกําลังของเราไปยังทะเลตะวันออกเพื่อกําจัดผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้!”
ฟางเจิ้งเป็นเจ้าของหอพิพากษาปีศาจคนปัจจุบัน แม้เขาจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้เขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่
กระแสลมปราณทําให้ผู้อมตะของห้าภูมิภาคไม่สามารถเคลื่อนไหวแต่ผู้อมตะของวังสวรรค์แตกต่างออกไป
พวกเขาใช้มิติช่องว่างเทียมซึ่งไม่ถูกจํากัดด้วยสิ่งนี้
แม้วังสวรรค์จะพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรม แต่เจตจํานงในการปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเขายังแข็งแกร่ง
เฉินติงหลิงยิ้ม “เหตุใดเราต้องไปทะเลตะวันออก? อู่ส่วยอยู่ที่นั่นแล้ว เราสามารถใช้เขาเพื่อตรวจสอบบรรพชนทะเลปราณตอนนี้เราควรไปสวรรค์ทั้งสองและทําลายล้างถ้ำสวรรค์ของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์!เราจะทําลายรากฐานของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์และนํามันมาเป็นรากฐานของพวกเรา!”