เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1297
“อสูรเข้าสิง!”
ฉินซางต้าตี้ตะโกนออกมา
ไม่ใช่แค่เขา นักบู๊ในสิบตระกูลใหญ่จำนวนไม่น้อยก็ตะโกนออกมาเช่นกัน
บนโลกมีอสูรวิเศษไม่น้อย ไม่ต้องพูดถึงที่อื่น แค่ในเจดีย์ยาก็มีอสูรวิเศษเยอะแยะเต็มไปหมด
แต่ถ้าพูดถึงอสูรที่สิงร่างได้ ถือว่ามีน้อยจริงๆ
อย่างน้อยทั้งประเทศอู่อานก็เห็นได้น้อยมาก!
ไม่ใช่ต้องการแค่ร่างที่ให้อสูรวิเศษเข้าสิง เงื่อนไขของคนที่จะเป็นเจ้านายมันก็สูงมาก คนที่มีความรู้ด้านนี้ล้วนรู้ว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่อสูรสามารถสิงร่างได้
หลังสิงร่างพลังจะหลอมรวมกัน ถ้าเกิดการต่อต้านกัน จะตายทั้งคนและอสูรวิเศษ
ด้วยเหตุนี้ ถึงนักบู๊จำนวนมากได้อสูรวิเศษมา ก็ไม่กล้าลองสิงร่าง ถ้าผิดพลาดขึ้นมาจะถึงแก่ชีวิต
ตอนนั้นลู่ฝานไม่รู้อะไรเลย แค่ลองก็ทำได้ ถือว่าสำเร็จโดยบังเอิญ
บวกกับปราณชี่ของตัวเองสามารถหลอมรวมกับฟ้าดินได้ อสูรสิงร่างจึงทำได้อย่างราบรื่น
วันนี้เป็นบุญตาของผู้ชมในสนามทุกคน
ดูสิว่าอสูรสิงร่างในตำนานจะเป็นยังไงกันแน่
เปลวไฟดำปล่อยออกมาจากตัว ผิวบนตัวลู่ฝานโปร่งใส เห็นเปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่ใต้ผิวหนัง
ลู่ฝานรู้สึกเหมือนพลังแห่งโลกในตัวถูกกระตุ้น
ข้างในและข้างนอกตัวร้อนผ่าวไปหมด
จู่ๆ เสอหลิงรู้สึกว่าตัวเองเหยียบต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เปลวไฟที่ปล่อยออกจากตัวลู่ฝาน เผาไหม้อักษรยันต์ที่ฝ่าเท้าเขาจนหมด
ความร้อนอันน่ากลัว ทำให้หินบลูสโตนบนพื้นละลาย เสอหลิงรีบดึงเท้ากลับมา มองลู่ฝานอย่างตกตะลึง
ลู่ฝานค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น!
เกราะเกล็ดมังกรปกคลุมตัว ยกกระบี่หนักไร้คมขึ้น
ลู่ฝานเหมือนเทพเจ้าแห่งการต่อสู้ท่ามกลางเปลวไฟ คลื่นความร้อนอันน่ากลัว แม้แต่คนที่นั่งตรงมุมบนที่นั่งผู้ชมยังรู้สึกถึงลมร้อนปะทะเข้าหน้า อุณหภูมิทั้งสนามต่อสู้แปดทิศพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
เสอหลิงยิ้มเย็นชามองลู่ฝาน “ก็แค่อสูรสิงร่าง จะทำให้พละกำลังของนายเพิ่มขึ้นแค่ไหนกัน นายสามารถพลิกฟ้าได้เหรอ!”
เสอหลิงถีบไปทางลู่ฝาน
ลู่ฝานไม่หลบสักนิด เขาพุ่งเข้ามารับ ฝ่าเท้าถีบลงบนตัวลู่ฝาน
ตัวของลู่ฝานสั่นไปมาอย่างแรงแต่เขาก็ยันเอาไว้ เปลวไฟแผดเผาจนเสอหลิงไม่กล้าออกแรงอีก ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
ยกมือขึ้นมาจะใช้นิ้วทำลายฟ้าดินอีกครั้ง!
ความอาฆาตนัยน์ตาลู่ฝานพลุ่งพล่าน ปราณชี่ระเบิดออก
พลังฟ้าดินกระจายออก!
ทันใดนั้น ลู่ฝานปล่อยพลังปราณทั้งตัวออกมา ในรัศมีหลายร้อยเมตร ไม่ยอมให้พลังฟ้าดินเข้ามาแม้แต่น้อย โดนดันออกไปจนหมด!
เสอหลิงแตะนิ้วลงบนพื้นที่ว่างเปล่า เมื่อไม่มีพลังฟ้าดิน แน่นอนว่าจุดสำคัญก็หายไปด้วย
จะใช้พลังฟ้าดินกดดันลู่ฝาน แน่นอนว่าไม่สามารถใช้กระบวนท่านี้ได้!
แต่เปลวเพลิงบนตัวลู่ฝานยังคงอยู่ เพราะนี่ไม่ใช่เปลวเพลิงที่ก่อตัวจากพลังฟ้าดิน แต่เป็นเปลวไฟมังกรของเจ้าดำ!
ไม่ต้องให้ลู่ฝานสั่ง ตอนที่เจ้าดำสิงร่าง เจดีย์เสวียนเก้ามังกรที่อยู่ในตัวปล่อยมุกเทพมังกรทำลายล้างออกมา
ตอนนี้ในเส้นลมปราณของลู่ฝาน มุกเทพมังกรทำลายล้างกำลังปล่อยแสง ในตัวเขามีเสียงมังกรคำรามดังขึ้นเป็นระยะ บนตัวมีลวดลายมังกรกำลังเคลื่อนไหวอยู่
เสอหลิงมองลู่ฝานอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่าดรรชนีฟ้าดินของตัวเอง จะโดนลู่ฝานทำลายด้วยวิธีประหลาดแบบนี้
ไม่เคยได้ยินวิชากำจัดพลังฟ้าดินรอบตัวมาก่อนเลย
อย่าว่าแต่เขาเลย ขนาดสีหน้าพวกไอ้อ้วนตงที่อยู่บนที่นั่งผู้ชมยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง
นี่มันเคล็ดวิชาบู๊อะไรกัน
ตอนนี้อู่คงหลิงเก็บมีดกลับมาด้วยรอยยิ้ม เธอมองหลิงเหยาแล้วพูดว่า “ตกใจเหรอ”
หลิงเหยาพูดอย่างตกตะลึงว่า “ทำไมเธอถึงช่วยเรา เมื่อกี้เธอปลดผนึกให้เจ้าดำ เธอจงใจ!”
อู่คงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า “เธอไม่ได้ยินที่เสอหลิงพูดเมื่อกี้เหรอ ฉันก็เป็นคนสนิทของลู่ฝานเหมือนกัน!”
นัยน์ตาหลิงเหยามีประกายประหลาด จู่ๆ เธอหัวเราะขึ้นมา
อู่คงหลิงเห็นหลิงเหยาขำ กลับรู้สึกประหลาดใจ รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป เธอพูดอย่างสงสัยว่า “เธอไม่โกรธเหรอ ฉันนึกว่าเธอจะกระทืบเท้าด่าฉันว่าไร้ยางอายซะอีก”
หลิงเหยาส่ายหน้าพูดว่า “ทำไมฉันต้องด่าเธอด้วยล่ะ ผู้ชายแบบลู่ฝานมีผู้หญิงสักสองสามคนจะเป็นไรไป ตอนนั้นตาแก่หวังข้างบ้านเก่าฉัน แต่งเมียตั้งสามคนแน่ะ แค่ช่วยเหลือเขาได้ ถึงเขามีผู้หญิงแบบเธออีกสักสองสามคนจะเป็นไรไปล่ะ”
อู่คงหลิงเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “เธอนี่ใจกว้างจังเลยนะ ดูเหมือนฉันช่วยคนไม่ผิด! ลู่ฝานช่างโชคดีจริงๆ ที่มีผู้หญิงแบบเธอ”
หลิงเหยามองอู่คงหลิงอย่างประเมินแล้วพูดว่า “เธอก็เป็นผู้หญิงของเขาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
อู่คงหลิงยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร
อู่คงหลิงหันมาชี้ภาพในสนามบู๊แล้วพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้นอย่างแท้จริง!”
ในสนามลู่ฝานฟาดฟันกระบี่ออกมาเป็นสิบ
ประกายกระบี่พลุ่งพล่าน แต่ละกระบวนท่าถึงแก่ชีวิต
เขาไม่มีความคิดพูดไร้สาระกับเสอหลิง ตอนนี้เป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือฆ่าเสอหลิงที่อยู่ตรงหน้า
ตอนนี้เหมือนเสอหลิงไม่ค่อยชินกับการต่อสู้ที่ไม่มีพลังฟ้าดิน วิชากายดูลำบากลำบน ในบรรดากระบี่เหล่านั้น ลู่ฝานเกือบฟันโดนคอเสอหลิง!
ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าแล้ว ตอนนี้สีหน้าเสอหลิงดูโกรธเล็กน้อย