บทที่ 1963 ก็ฉันมียาถอนพิษไง
เมื่อเห็นคู่รักหนุ่มหล่อสาวสวยที่อยู่ตรงหน้า พ่อค้าก็อดไม่ได้ที่จะมองดูซ้ำๆ ไม่ต้องพูดถึงรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวเลย แม้แต่ชายหนุ่มที่ให้สวมหน้ากากอนามัย ก็ยังดูออกว่าหล่อเหลาเอาการ
อย่างไรก็ตาม การที่คู่รักนัดเดทกันที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ถ้าคู่รักตัวน้อยนี้ ไม่ใช่นายแห่งอาชูร่าแห่งกองกำลังอาชูร่ากับแบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ย…
พ่อค้ากล่าวอย่างกระตือรือร้น “ชิ้นละสิบหยวน ถูกมากๆ เลย หนุ่มหล่อ ซื้อให้แฟนสักชิ้นสิ!”
เมื่อได้ยินพ่อค้าพูดคำว่า ‘แฟน’ ซือเยี่ยหานก็ควักแบงก์ร้อยหยวนออกมา แล้วยื่นให้เขาพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่ต้องทอนครับ”
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเห็นซือเยี่ยหานจ่ายเงิน ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ตอนนั้นที่มาออกเดทกัน แม้แต่เงินสดเขาก็ยังไม่พกติดตัว แต่ตอนนี้เขาเรียนรู้แล้วว่ามาสถานที่แบบนี้ต้องพกเงินมาด้วย
เมื่อซื้อสายไหมเสร็จ ซือเยี่ยหานยังซื้อขนมถุงน้อยถุงใหญ่ให้หญิงสาวอีกตลอดทาง จนกระทั่งทั้งสองเดินมาจนถึงห้องอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง
“อยากกินอะไรล่ะ?” ซือเยี่ยหานถามเยี่ยหวันหวั่นขณะที่กำลังเปิดดูเมนู
เยี่ยหวันหวั่นกำลังกัดเค้กข้าวไปด้วย และพูดลอยๆ ไปด้วยว่า “ฉันอยากกิน…ช่างเถอะ พูดไปแล้วก็ไม่มีให้กินอยู่ดี!”
ซือเยี่ยหานเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบถามทันที “เธออยากกินอะไรล่ะ? ฉันจะไปหามาให้”
เยี่ยหวันหวั่นเบ้ปาก “ไม่ต้องหรอกค่ะ เป็นไปไม่ได้หรอก! มันหากินไม่ได้!”
ซือเยี่ยหานยังยืนกรานที่จะรู้ให้ได้ “แล้วมันคืออะไรล่ะ”
“ก็คุณไง…” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวออกมาในที่สุด
ซือเยี่ยหานพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นเอามือยันข้อศอกไว้บนโต๊ะและกะพริบตาปริบๆ “โอ๊ย ฉันหมายความว่า คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเราสองคนโดนกู่พิศวาส คุณแน่ใจนะว่าไม่อยากถอนพิษกับฉันน่ะ?”
แววตาของซือเยี่ยหานดูสงบนิ่ง เขารินน้ำชาพลางกล่าวว่า “เธอไม่ได้มียาถอนพิษหรอกเหรอ?”
“โอ้ย! แค่กๆๆ…คุณรู้ได้ยังไง…ใครบอกคุณว่าฉันมียาถอนพิษ?” ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นเบิกโพลงขึ้นมาทันที
เชี่ย! อย่าบอกนะว่าเป็น…เนี่ยอู๋หมิง?
“ไอ้สารเลวเนี่ยอู๋หมิงมันก็มาเสนอขายให้คุณด้วยเหรอคะ!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามอย่างโกรธเคือง หลังจากคิดๆ ดูแล้ว นี่คือความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
พอพูดจบ เธอถึงรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“เอ๊ะ ไม่ใช่ละ เนี่ยอู๋หมิงบอกฉันว่ายาถอนพิษจะมีประสิทธิภาพดีในผู้หญิงเท่านั้น แล้วเขาขายคุณยังไง? เป็นไปได้ไหมว่าคนตายได้พัฒนาสูตรยาที่ให้ผู้ชายกินแล้วถอนพิษได้?” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความสงสัย
“เปล่า” ซือเยี่ยหานชำเลืองมองเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นก็กล่าวว่า “เพราะถ้าฉันซื้อยาถอนพิษ ฉันก็จะหาวิธีให้เธอกินให้ได้ วิธีนี้พิษของฉันก็จะถูกถอนไปด้วย”
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไปครู่หนึ่งถึงจะตระหนักได้ว่า เนี่ยอู๋หมิงจะต้องมาหาซือเยี่ยหาน แล้วบอกเขาว่ายาถอนพิษนี้ ต้องให้ฝ่ายหญิงกินถึงจะถอนกู่พิศวาสได้ จากนั้นก็มาคะยั้นคะยอซือเยี่ยหานให้บังคับเธอกินยาถอนพิษก็พอ
“เนี่ยอู๋หมิง! ปู่นายสิ!” ภาพลักษณ์เยี่ยหวันหวั่นในลุคนางฟ้าตัวน้อยถูกเนี่ยอู๋หมิงทำลายไปจนหมดสิ้น
“คุณซื้อมาแล้วเหรอคะ?” จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็ปิดสองตาด้วยความรู้สึกกลัวอันตราย
ซือเยี่ยหานมองหญิงสาวที่สายตาของเธออ่านได้ว่า ‘ถ้าคุณกล้าบอกว่าซื้อแล้ว ฉันจะกัดคุณให้ตาย’ พลางกล่าวว่า “เปล่า”
จนในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็สงบลงเล็กน้อย “ฮึ่ม เขามาหาฉันแล้ว แต่ฉันไม่ได้ซื้อ คุณก็ห้ามซื้อของจากเขาเด็ดขาดเลยนะได้ยินไหม?”
“ทำไมเธอถึงไม่ซื้อยาถอนพิษล่ะ” ซือเยี่ยหานหยุดคิดไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม
“แล้วทำไมฉันต้องซื้อด้วยล่ะ ในเมื่อฉันเองก็มี!” เยี่ยหวันหวั่นยกมือของซือเยี่ยหานขึ้นมา แล้วงับไปที่มือของเขาด้วยฟันซี่เล็กๆ ของเธอ
อาการเจ็บๆ คันยิบๆ ที่มือเหมือนจะลามไปถึงหัวใจ…
ผลลัพธ์ของประโยคนี้ ไม่ได้น้อยไปกว่าคำสัญญาที่ว่าจะรักกันตลอดไป ตราบเท่าที่ขุนเขาและทะเลยังคงอยู่ เราสองคนรักกัน ฉันชอบแค่คุณ ฉันรักคุณ…
เยี่ยหวันหวั่นกำลังหยอกล้อเล่นกับเขาอย่างมีความสุข ทันใดนั้นดวงตาที่เฉียบแหลม ก็หันไปเห็นคนรู้จักเดินเข้ามา
“ฉิบหาย! ชิวสุ่ย?”
เยี่ยหวันหวั่นคิดไม่ถึงว่า จะมาเจอชิวสุ่ยที่ไม่ได้เจอกันมานานในสถานที่แบบนี้ และไม่รู้ว่าทำไม แค่เธอเห็นชิวสุ่ยก็รู้สึกได้ถึงลางไม่ดี…
——————————————————————————-
บทที่ 1964 ไปชอบใครเข้าอีก
เมื่อซือเยี่ยหานเห็นเยี่ยหวั่นหวั่นทำหน้าตาแปลกๆ ก็รีบเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตา พลางตอบด้วยเสียงเบาว่า “ผู้หญิงคนนั้น…เป็นหัวหน้าสาขาย่อยคนหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ย”
ซือเยี่ยหานมองตามสายตาของเยี่ยหวันหวั่น ก็พบเข้ากับเด็กสาวร่างสูงโปร่งในชุดสีม่วง กำลังเดินตรงมาที่พวกเขา
ดูเหมือนว่าชิวสุ่ยจะเห็นเยี่ยหวันหวั่นเข้าแล้ว เธอจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาเป็นประกาย และพุ่งตรงมาหาหญิงสาวทันที
บ้าจริง ทำไมเดินมาทางนี้ล่ะ!?
อย่าบอกนะว่าจำเธอได้? น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว?
“เสี่ยวเฟิง!”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้ตอบสนอง ชิวสุ่ยก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว พร้อมกล่าวด้วยความประหลาดใจอย่างสุดขีด “เสี่ยวเฟิง! ใช่เธอจริงๆ ด้วย!”
เยี่ยหวันหวั่นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองจริงๆ เธอชี้นิ้วมาที่ตัวเองแล้วถามออกมาว่า “ฉันแต่งตัวแบบนี้เธอยังมองออกเหรอว่าฉันเป็นใคร?”
ชิวสุ่ยหัวเราะพลางกล่าว “ฉันเห็นเธอมาครบทุกสภาพแล้วนะ? เธอจะไปหลอกใครก็หลอกไป แต่คิดว่าจะหลอกฉันได้งั้นเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
คิดไม่ถึงว่าความสัมพันธ์ของเธอกับชิวสุ่ยนั้น จะดีถึงขั้นถ้าโดนเผาจนเหลือแต่ขี้เถ้าก็ยังจำได้
ตอนนั้น เป่ยโต่วกับชีซิงต่างสลับกันมาทดสอบตัวตนของเธอ แต่ก็ไม่สามารถฟันธงได้ จนสุดท้ายชิวสุ่ยก็ออกโรง จึงจะสามารถยืนยันได้ว่าเธอคือไป๋เฟิง
จากนั้นก็กล่าวกันว่า ตอนนั้นที่ชิวสุ่ยสามารถยืนยันได้โดยดูจากปานบนร่างกายของเธอ…
จึงเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับชิวสุ่ยนั้นสนิทสนมกันมาก
การรับรู้ถึงสิ่งนี้ ทำให้เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกถึงวิกฤติที่รุนแรงขึ้นในทันใด
ชิวสุ่ยไม่ได้ออกไปนอกเมือง เพื่อตามหายาถอนกู่พิศวาสให้เธอหรอกเหรอ ทำไมถึงกลับมาในเวลานี้
“ชิวสุ่ย…เธอไม่ได้ไปนอกเมืองเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“อย่าพูดถึงมันอีก เรื่องไปตามหายาถอนพิษไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร อีกอย่างฉันก็เป็นห่วงเธอ เลยกลับมาก่อน ไม่คิดว่าผ่านร้านนี้จะเห็นเธออยู่ที่นี่ก็เลยตรงมาหา!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
จะพูดว่ายังไงดี? โชคของเธอดีถึงขนาดนี้! แม้แต่ที่นี่ก็ยังมาเจอกัน!
เยี่ยหวันหวั่นกำลังคิดหาวิธีกำจัดชิวสุ่ย แต่ชิวสุ่ยก็สังเกตุเห็นซือเยี่ยหาน ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเยี่ยหวันหวั่น เธอจึงนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างๆ เยี่ยหวันหวั่นทันที พร้อมกับกวาดสายตามองสำรวจซือเยี่ยหาน
เขาสวมหน้ากากอนามัย จึงมองไม่เห็นใบหน้า ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง
แต่การที่สามารถนัดเสี่ยวเฟิงออกมากินข้าวได้ แถมยังใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้า เขาต้องหน้าตาดีอย่างแน่นอน
ส่วนรูปร่าง ก็ไม่แย่…โอเคเลย จัดว่าผ่าน…
“คน…คนนี้คือ…” เยี่ยหวันหวั่นกำลังคิดว่าจะหาวิธีหลอกเธอยังไงดี
แต่ใครจะรู้ว่า เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันจะได้เปิดปากพูด ชิวสุ่ยก็ทำสีหน้าไม่แยแส จากนั้นก็โบกไม้โบกมือพลางกล่าวว่า “เอาละๆ ไม่ต้องแนะนำแล้ว ฉันไม่ได้สนใจแล้วว่าเธอจะไปชอบใครเข้าอีก ฉันเตือนเธอหลายรอบแล้วก็ไม่ฟังเลยนะ ฉันขี้เกียจจะเตือนเธออีกแล้ว!”
ฝั่งตรงข้าม ซือเยี่ยหานที่กำลังถือถ้วยน้ำชาก็ชะงักมือไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ
แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับมีเหงื่อเย็นซึมออกมา อะไรคือการบอกว่าเธอไปชอบใครเข้าอีกแล้ว…
เธอชอบคนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองซือเยี่ยหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความกลัว จากนั้นก็กระแอมไอเบาๆ พร้อมกล่าวว่า “ฉันไปชอบใครอะไรกัน! เธออย่ามาใส่ร้ายฉันนะ! ฉันรักเดียวใจเดียวต่างหากโอเคไหม!”
เมื่อชิวสุ่ยได้ยินดังนั้นก็พูดทีเล่นทีจริง “ใช่ๆๆ ฉันใส่ร้ายเธอจ้า! เธอตามจีบจี้ซิวหร่านมาสิบกว่าปี เพื่อเขาแล้วต่อให้เธอต้องปีนภูเขาดาบ ลงทะเลไฟก็ไม่กลัว รักเดียวใจเดียวจริงจริ๊ง!”
“พรวด…แค่กๆๆ…เธอว่าอะไรนะ…” เยี่ยหวันหวั่นสำลักจนพ่นน้ำชาในปากออกมา พร้อมกับไอโขลกไม่หยุด
………………………………….