เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1317
พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นชั่วขณะ ภายในร้านของไอ้อ้วนตง ทุกคนต่างก็สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนนี้อย่างชัดเจน
ถึงขนาดที่ว่า ไอ้อ้วนตงยังยิ้มและพูดว่า: “ดูเหมือนจะจบสิ้นลงแล้ว! ”
หลิงเหยายืนอยู่หน้าประตูด้วยความกังวล และสอดส่องมองไปข้างนอกอย่างไม่หยุด
ไอ้อ้วนตงยิ้มและพูดว่า: “ไม่ต้องมองดูแล้ว ลู่ฝานของเธอนั้น ไม่เป็นอะไรหรอก”
หลิงเหยาพูดขึ้นโดยที่ไม่หันหน้ากลับมา: “นายรู้ได้อย่างไร”
ไอ้อ้วนตงยิ้มและพูดว่า: “ฉันรู้ก็แล้วกัน”
ในซอยเล็ก ที่อลหม่านวุ่นวายไปหมด
อู่ชิงเฉิงนอนกองอยู่บนพื้น เลือดไหลออกมาจากร่างกายของเธอ
เส้นชีพจรและกระดูกในร่างกาย กว่าแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แตกละเอียดไปหมด แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอก็ยังไม่ยอมตายลง และไม่แม้แต่จะสลบ
เธอยังคงจ้องมองไปที่ใบหน้าของลู่ฝาน นั่นแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งแกร่งของนักบู๊ปราณฟ้า
ลู่ฝานเองก็กระเซอะกระเซิง เนื้อหนังทั่วร่างกาย ก็ไม่มีจุดไหนที่สมบูรณ์ ช่วงหน้าอกยิ่งชัดเจนว่ามีบาดแผลจากกระบี่ ซึ่งเขาถูกแทงทะลุไปถึงด้านหลังเลย
แต่เขาก็ไม่มีอะไรที่ผิดแปลกไป ราวกับว่าร่างกายไม่ใช่ของเขาเอง
กระบี่หนักไร้คมปักอยู่บนร่างของอู่ชิงเฉิง และพูดขึ้นว่า: “เธอไปตายได้แล้ว! ”
อู่ชิงเฉิงตะโกนเสียงดังอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่: “ลู่ฝาน นายฆ่าฉันเลยสิ ก็เท่ากับว่าเปิดศึกกับโลกจู๋หลงโดยสิ้นเชิง เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะมียอดฝีมือจำนวนมาก ที่ต้องการกำจัดชีวิตของนาย ฉันไม่มีความแค้นอะไรกับนาย นายจะฆ่าฉันทำไม ปล่อยฉันไป พวกเราก็จบสิ้นกันเพียงเท่านี้ ต่อไปก็จะไม่มายุ่มย่ามหาเรื่องซึ่งกันและกันอีก”
ลู่ฝานนั่งยองลง มองไปที่ดวงตาของอู่ชิงเฉิงและพูดว่า: “เธอคิดว่า ฉันยังเป็นเด็กที่เพิ่งออกมาพบเจอโลกภายนอกเหรอ? เธอพาคนมาลอบฆ่าฉันในยามค่ำคืน เรื่องนี้จะสามารถจบสิ้นลงไปได้ด้วยเหรอ เธอเห็นว่าฉันเป็นคนโง่เง่าอย่างนั้นใช่ไหม? ”
อู่ชิงเฉิงสายตาลุกลี้ลุกลนและพูดว่า: “ลู่ฝาน พวกเราไม่ได้จะฆ่านายสักหน่อย ก็แค่จะทำร้ายให้นายบาดเจ็บเท่านั้น คือตระกูลเทียน เจ้าบ้านตระกูลเทียนให้ผลประโยชน์กับพวกเรา บอกให้พวกเรามาทำร้ายให้นายบาดเจ็บ โดยเป้าหมายก็คือครึ่งเดือนหลังจากนี้ ให้ทางเทียนชิงหยางเป็นฝ่ายชนะอย่างง่ายดาย ผู้ร้ายที่แท้จริง คือพวกเขา ไม่ใช่พวกเรา ฉันยินดีที่จะนำผลประโยชน์ที่พวกเขาให้พวกเรามานั้น มอบให้กับนายทั้งหมด จากนั้นก็จะออกไปจากเมืองหลวงทันที และสาบานด้วยว่า จะไม่แก้แค้นตลอดไป! ทำไมนายจะต้องมาสร้างปัญหาความเดือดร้อนกับฉันคนที่ไม่มีความแค้นอะไรกับนายด้วยล่ะ”
ลู่ฝานก็พลันยิ้มขึ้น ท่ามกลางรอยยิ้ม ก็แฝงไปด้วยความสงสารอยู่บ้าง
เขามองไปที่อู่ชิงเฉิงและพูดว่า: “เธอพูดผิดแล้ว ฉันมีความแค้นกับเธอ และเป็นความแค้นที่ใหญ่มากด้วย”
ขณะที่พูด ลู่ฝานก็หยิบสิ่งของชิ้นหนึ่งออกมาจากเข็มขัด วางไว้ตรงหน้าของอู่ชิงเฉิง
สิ่งของชิ้นนี้ไม่ใช่อะไรอื่น ก็คือหม้อสือฟางที่เซียนสือฟางหลงเหลือไว้ให้เขา!
เมื่ออู่ชิงเฉิงมองเห็นหม้อสือฟางนั่นแล้ว ร่างกายก็แข็งทื่อไปหมด
สีเลือดบนใบหน้าของเธอ ลดลงไปอย่างรวดเร็ว ปากสั่นจนฟันกระทบกัน ดวงตาเป็นประกาย และพูดว่า: “นาย……นายรู้จักสือฟางด้วย! ”
ลู่ฝานขยับริมฝีปากเล็กน้อย และพูดว่า: “พูดตามจริง ฉันนั้นคือผู้สืบทอดของเซียนสือฟาง โดยตอนที่เขาถ่ายทอดพลังให้กับฉันนั้น ความปรารณาสุดท้ายของเขา ก็คือฆ่าเธอให้ตาย เมื่อตกปากรับคำกับเขาแล้วก็ต้องทำตามอย่างสัจจะที่ให้ไว้ ในเมื่อเธอมาหาถึงที่ ฉันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ฆ่าเธอ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอสองแม่ลูก ยังวางแผนที่จะลงมือฆ่าฉันก่อน ที่บอกว่าแค่ทำร้ายให้บาดเจ็บนั้น โกหกทั้งนั้น ลองถามจิตใจของตัวเองดูว่า จะทำร้ายให้บาดเจ็บแค่นั้นใช่ไหม? ต่อให้ฉันไม่ตาย หลิงเหยาที่อยู่ข้างกายฉันก็จะต้องตายลงไปไม่ใช่เหรอ หัวหน้าจอมโจรแห่งโลกจู๋หลง สมควรตายทุกคน! ”
อู่ชิงเฉิงตะโกนพูดด้วยเสียงที่โศกเศร้า: “สือฟาง ไม่นึกเลยว่าถึงนายจะตายไปแล้วก็ยังไม่ปล่อยฉันไปอีก เจ็บใจจริง ๆ ตอนนั้นฉันควรที่จะตามหาร่างศพของนายให้พบ แล้วสับหั่นให้แหลกละเอียด ผู้ชายไม่มีคนดีเลยสักคน ไม่มีเลยสักคน! ”
ขณะที่อู่ชิงเฉิงร้องตะโกนนั้น ก็พลันกระอักเลือดพ่นลงมาบนหม้อสือฟาง