บทที่ 847 มองพอหรือยัง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 847 มองพอหรือยัง?
ดูสง่างามอย่างมาก ยังมีรัศมีที่แผ่ออกมาทำให้คนรู้สึกว่าสูงศักดิ์

ชายหนุ่มคนนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน รัศมีความเปล่งประกายของเขานั้นปิดไม่อยู่

คืนนี้ ตอนที่ทั้งสองคนลงมาทานข้าว ไชยันต์มองเห็นแสนรักสวมใส่แบบนี้ลงมา ก็มองดูอยู่หลายครั้ง จนเขานั่งลงที่หน้าโต๊ะอาหาร

“คุณท่านคะ คุณแสนรักเหมือนกับว่าจะไม่ค่อยชอบเสื้อผ้าของตัวเอง ฉันคิดว่าพรุ่งนี้จะเปลี่ยนให้เขาใหม่ทั้งหมด”

เส้นหมี่มองเห็นเขามองมาที่เขาตลอด ก่อนที่จะนั่งลงจึงพูดเรื่องนี้ออกมาก่อนแล้ว

ไชยันต์ได้ยินแล้ว สายตาก็มองมาที่เธอ

“ไม่ชอบ? แล้วเมื่อก่อนก็สวมใส่อยู่ดีๆไม่ใช่เหรอ”

“เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยจะออกไปข้างนอก ป่วยอยู่ ที่สวมใส่ถ้าไม่ใช่ชุดผู้ป่วย ก็เป็นชุดนอนที่อยู่ที่บ้าน เสื้อผ้าเหล่านั้น เขาไม่เคยแตะต้องมาก่อน”

เส้นหมี่อธิบายกับตาแก่คนนี้อย่างใจเย็น

แต่ความจริงแล้ว เธอไม่มีทางบอกกับตาแก่คนนี้หรอก ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้ตอนนี้เขาเริ่มเลือกที่รักมักที่ชัง นั่นก็เพราะว่าเขากำลังฟื้นตัวแล้ว

ศาสตราจารย์ของญี่ปุ่นพูดว่า เมื่อบุคลิกเดิมของเขากำลังฟื้นฟู ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะค่อยๆออกมาจากสมองของเขา รวมถึงสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน และยังมีสิ่งที่เขาชื่นชอบ

เป็นธรรมชาติ การเลือกเสื้อผ้าของเขา ก็รวมอยู่ด้วย

ภายในใจของเส้นหมี่เต็มไปด้วยความหวังมองไปยังตาแก่คนนี้

ยังดี หลังจากที่เขาได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว ตาแก่คนนี้ก็เปิดปากพูดออกมาแล้ว:“เข้าใจแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

“ค่ะ”

เส้นหมี่ดีใจขึ้นมาอย่างมาก หยิบถ้วยขึ้นมาตักซุปให้กับชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง

เพียงแต่ว่า ในตอนที่เธอนำซุปยื่นไป ทันใดนั้น เธอสบตาเข้ากับสายตาคู่นั้น สายตาคู่นี้ไม่รู้ว่ามองมาที่เธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เวลานี้ เธอมองไปที่เขาอย่างรู้สึกดี เธอรู้สึกตื่นเต้น……

ต่างแสดงออกมาต่อหน้าของเขาแล้ว!

“คุณ……คุณแสนรัก ซุปค่ะ”

เส้นหมี่แข็งทื่อไป รีบเอาซุปในมือส่งไปที่ด้านหน้าของเขา กระวนกระวายเบนสายตากลับมา

ช่วงนี้เธอเริ่มไม่ระมัดระวังตัวแล้ว แม้แต่ในสถานที่แบบนี้เธอทำไมถึงได้ไม่รู้จักเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้?

เส้นหมี่ต้องคิดพิจารณาตัวเองแล้ว-

รุ่งเช้า

เพราะว่าจำได้ว่าต้องไปซื้อเสื้อผ้าให้กับชายหนุ่ม เส้นหมี่จึงตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าแล้ว

“รินจัง วันนี้เล่นอยู่ที่นี่กับพวกพี่ชายนะ วันนี้หม่ามี๊ต้องพาแด๊ดดี้ไปซื้อเสื้อผ้า”

“ได้ค่ะ งั้นหม่ามี๊จะซื้อให้รินจังด้วยไหมคะ”

เด็กหญิงตัวน้อยๆคลานลุกขึ้นมาจากเตียง หลังจากนั้นก็สวมใส่ชุดกระโปรงของตัวเอง ดวงตากลมโตใสๆมองมาที่หม่ามี๊อย่างจริงจัง

เส้นหมี่นิ่งไป :“หนูอยากซื้อเสื้อผ้าเหรอ”

รินจังพยักหน้า :“ไม่ใช่ค่ะ หนูอยากซื้อกิ๊บติดผม หลังจากนั้นเอาไข่มุกสองอันนี้วางไว้ข้างบน หม่ามี๊ พี่ชายคนสวยบอกว่า รินจังติดกิ๊บอันนี้แล้วสวยมาก ต่อไปนี้หนูอยากติดเอาไว้ตลอด”

เธอหยิบไข่มุกสีชมพูอมส้มออกมาจากกระเป๋าใบเล็กของตัวเอง

เส้นหมี่:“……”

หลายวินาที เธอก้มหน้าลงไปมองไข่มุกสองเม็ดที่อยู่ในมือเด็กน้อยคนนี้ ในลำคอของเธอเหมือนกับว่ามีอะไรดันขึ้นมา แม้แต่ประโยคเดียวก็พูดไม่ออก

เด็กน้อยคนนี้มีความห่วงหาถึงเรื่องนี้ เกินกว่าที่เธอคิดเอาไว้แล้ว

ที่ผ่านมาเธอนึกว่า เธอพึ่งจะหกขวบเรื่องแบบนี้ ผ่านไปสักพักก็น่าจะลืมแล้ว

แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เธอยังคงจำได้อยู่ตลอด อีกทั้งยังห่วงหาอยู่ตลอด

ในที่สุดเส้นหมี่ก็หยิบไข่มุกเม็ดเล็กนี้มาจากมือน้อยๆของเธอ:“ได้ หม่ามี๊จะช่วยหนูซื้อกิ๊บติดผมแสนสวยอันหนึ่งมา หลังจากนั้นนำเอาไข่มุกติดเอาไว้ด้านบน ดีไหม”

“ดีค่ะ”

เด็กน้อยถือว่าดีใจขึ้นมาอย่างมาก

แต่งตัวให้ลูกเสร็จแล้ว เส้นหมี่กำลังเตรียมตัวจะไปที่ชั้นสาม พ่อบ้านของเดอะวิวซีนี้มองมาที่เธอแล้วเดินมา

“หมอคิตตี้คุณท่านให้คุณไปพบ รบกวนคุณไปด้วยครับ”

“……ค่ะ”

เส้นหมี่จึงทำได้เพียงหยุดลง หลังจากนั้นก็เดินตามพ่อบ้านคนนี้ไป

หลังจากนั้นสิบนาที ก็มาถึงแอลดับบิวทาวน์ที่วิวทิวทัศน์สวยงามอย่างมาก เส้นหมี่มองไปยังตาแก่ผมขาวคนนี้ ที่กำลังมองไปที่ผืนน้ำทะเลยกลำตัวขึ้นมาถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสีทองกำลังรำกังฟูอยู่

ยังกำลังวังชาดีไม่เบา ตาแก่คนนี้ ถึงแม้ว่าจะแปดสิบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวหรือกระดูกร่างกายของเขา ยังกำลังดีอยู่มาก!

เหมือนกับคนหนุ่มยังไงอย่างงั้น

เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว ก็ไม่กล้ารบกวน จึงมองอยู่ที่ด้านข้างเงียบๆ

รออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เธอต้มชาเสร็จแล้ว ถือว่า ตาแก่คนนี้ก็ได้หยุดลง ลูบไปยังหน้าผากที่มีเม็ดเหงื่อผุดออกมาแล้ว

“คุณท่าน คุณอายุขนาดนี้แล้ว ร่างกายยังแข็งแรงอยู่มาก ไม่เสียชื่อท่านจอมพลผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียง”

เส้นหมี่รีบรินชาที่พึ่งจะต้มเสร็จให้เขาทันที ยังพูดยกยอเขาหนึ่งประโยค

ไชยันต์ไม่ได้พูดอะไร

นั่งลง ดื่มชาแก้วนั้น แล้วก็พักสักครู่ ถึงได้เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เส้นหมี่

“หมอคิตตี้มาที่บ้านของพวกเรานานเท่าไหร่แล้ว”

“หืม?”เส้นหมี่นิ่งไป “ท่านจอมพล……ถามถึงระยะเวลาที่ฉันอยู่ที่เดอะวิวซีหรือคะ”

“อืม”

ไชยันต์พยักหน้า ไม่ได้มีอารมณ์ใดแสดงออกมาแล้วดื่มชาอีกหนึ่งอึก

เส้นหมี่ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้ ยืนอยู่ที่นั่นคิดอย่างละเอียดรอบคอบ

“ถ้าหักเวลาที่ฉันไปรักษาตัวที่ญี่ปุ่นออก อยู่ที่นี่มาน่าจะประมาณสามเดือนค่ะ คุณท่าน ทำไมหรือคะ ทำไมท่านถึงได้ถามคำถามนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากจะถามคุณเท่านั้น เวลาตั้งนานแล้ว อาการของเขายังคงไม่ดีขึ้นมาเลย ถ้าหมอคิตตี้ไม่มีความสามารถด้านนี้ละก็ ผมจะพิจารณาเปลี่ยนหมอคนใหม่”