ตอนที่ 947: ควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 947: ควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

เจี้ยนเฉินและนูบิสเดินทางต่อไปด้านล่าง แต่ทางที่จะไปยังชั้นที่เจ็ดก็ถูกป้องกันอยู่จากประตูหินที่แข็งแกร่ง ประตูทำมาจากวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ที่คลังสมบัติในชั้นที่สองที่พวกเขาใช้เวลานานมากกว่าที่จะทำลายมันได้ภายใต้การโจมตีจากเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 หลายสิบคนพร้อมทั้งวิชาเซียนระดับเทียนมากกว่ายี่สิบอย่าง

“ข้าอยากรู้ว่าพวกเราจะสามารถผ่านประตูนี้ไปได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในตอนนี้ไหม” เจี้ยนเฉินพึมพำ เขาชักเอายุทธภัณฑ์ราชาออกมาจากแหวนมิติอย่างรวดเร็วและถ่ายพลังบรรพกาลลงไปในนั้น มันเริ่มที่จะเปล่งแสงสีดำออกมาในขณะที่ออร่าแห่งการทำลายล้างเติมเต็มไปทั่วทั้งโถง

ท่าทางของนูบิสเปลี่ยนไปเล็กน้อยในขณะที่เขาถอยไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว เขาตกใจเล็กน้อย เจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งกว่าเขามากแล้วในตอนที่ไม่มียุทธภัณฑ์ราชา แต่ด้วยยุทธภัณฑ์ราชาที่เขามีแต่ในตอนนี้ นูบิสรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างมากจากกลิ่นอายนั้น

นูบิสรู้สึกเหมือนว่าเจี้ยนเฉินเป็นอมตะในตอนนี้

“ในเวลาไม่กี่ปีนี้ เจี้ยนเฉินมาถึงระดับความแข็งแกร่งเดียวกับเขา ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เขาจะต้องเป็นเซียนจักรพรรดิในเวลาน้อยกว่าร้อยปีแน่แน่ หรืออาจจะน้อยกว่าไม่กี่ทศวรรษก็ได้” นูบิสคิด

ตาของเจี้ยนเฉินหรี่เล็กในขณะที่เขาเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ ยุทธภัณฑ์ราชาแทงออกไปที่ประตูหินด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

บู้ม !

พลังงานที่รุนแรงถูกปล่อยออกมาทันทีและทำลายล้างไปทั่วทั้งบริเวณ มันกระแทกไปที่กำแพงของโถงทำให้มันสั่นไหวเล็กน้อย

การโจมตีของเจี้ยนเฉินทรงพลังเท่ากับการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 แต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะทำลายประตูได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังขนาดนั้น ปลายกระบี่ที่แหลมคมฝังอยู่ในประตู ในขณะที่รอยแตกเล็ก ๆ ปรากฏไปทั่วทั้งพื้นผิวของประตู

เจี้ยนเฉินดึงยุทธภัณฑ์ราชาออกมาจากประตู ก่อนที่จะโจมตีกลับเข้าไปอีกครั้งด้วยพลังมหาศาล

ประตูสั่นไหวเบาเบา ในขณะที่รอยแตกกว้างขึ้นและลึกขึ้น

หลังจากนั้น การโจมตีครั้งที่สาม ที่สี่ และที่ห้าก็ตามไปติด ๆ ประตูถูกทำลายหลังจากการโจมตี 5 ครั้ง และเปลี่ยนกลายไปเป็นหินจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งแตกกระจายไปทุก ๆ ที่

เจี้ยนเฉินเก็บกระบี่และยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ถ้าเขามาเจอกับประตูนี้เมื่อหลายปีก่อน เขาคงไม่สามารถที่จะทำลายมันได้แน่ มันใช้เวลานานมากแม้ว่าเซียนผู้คุมกฎหลายสิบคนและวิชาเซียนระดับเทียนกว่ายี่สิบอย่างกระหน่ำเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

แต่ในตอนนี้ เขาสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดายด้วยการโจมตี 5 ครั้ง เขารู้สึกพอใจกับความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มาก

เจี้ยนเฉินและนูบิสลงมายังชั้นที่เจ็ด หลายปีก่อนหน้านี้ พวกเขาก้าวไปอย่างหวาดกลัวในทุกย่างก้าว แต่ในตอนนี้พวกเขาเดินอย่างห้าวหาญ พวกเขาไม่กลัวกับดักใดใดที่ซ่อนอยู่รอบ ๆ นี่เป็นเพราะกับดักไม่สามารถที่จะหยุดพวกเขาได้อีกต่อไป เจี้ยนเฉินสามารถทำลายมันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

เจี้ยนเฉินและนูบิสเดินลงมาที่ชั้น และตามหายุทธภัณฑ์จักรพรรดิทุกที่ พวกเขามาถึงชั้นที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะผ่านทางเข้าหลักของโถงไป

ม่านพลังรอบ ๆ โถงยังคงอยู่ ในขณะที่ศพของเผ่าพันธุ์ทะเลยังคงกลาดเกลื่อนอยู่ด้านนอก พวกเขาแห้งเหี่ยวไปนานแล้ว ในขณะที่กองสัตว์อสูรที่ดุร้ายทั้งหมดได้หายไปแล้ว

เจี้ยนเฉินและนูบิสโจมตีไปที่ม่านพลังอีกครั้งซึ่งทำให้เกิดรอยแยกที่พวกเขาสามารถเข้าไปได้

บู้ม! บู้ม! บู้ม! บู้ม…

พวกเขาได้ยินเสียงอื้ออึงทันทีที่พวกเขาออกมาจากม่านพลัง พร้อมทั้งคลื่นพลังงานที่ทรงพลังด้วย

ตาของเจี้ยนเฉินและนูบิสเบิกกว้างทันที พวกเขาเดาว่านั่นคงเป็นเสียงของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่กำลังทำอะไรอยู่ มันกำลังโจมตีไปที่ทางเข้าหลักของโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

“เหมือนที่ข้าคิดเลย ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกไปข้างนอกจริง ๆ ” ตาของเจี้ยนเฉินลุกโชนไปอย่างใจจดใจจ่อ เขาพุ่งไปยังทิศทางที่มีเสียงนั้นทันที

เพราะว่าโถงถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลัง มันตัดเสียงทั้งหมดจากภายนอกออกไป นี่เป็นเหตุที่ว่าทำไมพวกเขาทั้งสองถึงสัมผัสอะไรไม่ได้เลยจากด้านนอก ในตอนที่พวกเขาผ่านออกมาจากม่านพลังเท่านั้น พวกเขาจึงสามารถสัมผัสได้ถึงการรบกวนที่เกิดจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

เจี้ยนเฉินและนูบิสเคลื่อนที่ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่เขาพวกเขาเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่นกัน

ในไม่ช้า ทั้งสองก็มาถึงที่ประตูทางเข้าหลักของโถง ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิยาว 30 เมตรลอยอยู่ 10 เมตรเหนือพื้นและกำลังกระหน่ำเข้าไปที่ประตูอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สัตว์อสูรระดับ 8 ชั้นสวรรค์ที่ 5 และที่ 6 กำลังคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

ในขณะเดียวกัน สัตว์อสรทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยบาดแผลที่น่าหวาดกลัว เลือดของพวกมันย้อมพวกมันจนเป็นสีแดง เห็นได้ชัดว่าพวกมันได้รับบาดเจ็บจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าจนได้” เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความยินดี พลังบรรพกาลหมุนเวียนอยู่ในทุก ๆ ส่วนของเขา และเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาไปจนถึงขีดสุด หลังจากนั้น เขาก็ใช้ทักษะมายาพริบตาและกลายเป็นภาพติดตาพุ่งไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็สังเกตเห็นเจี้ยนเฉินเช่นกัน มันหยุดโจมตีประตูและหันหลังก่อนที่จะกลายเป็นภาพติดตา มันเริ่มที่จะหนีออกไปไกลด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ก่อนที่จะพุ่งทะลุม่านพลังของโถงและหายเข้าไปในนั้น

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะไปที่ไหนกัน ! ? ” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา เขาไล่ตามหลังมันไปเหมือนเป็นภาพลางลาง และเคลื่อนที่ไปได้หลายกิโลเมตรในพริบตาเดียว เขามาถึงที่ช่องว่างของม่านพลังที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทะลุผ่านไปและทำให้ช่องว่างกว้างขึ้นเพราะว่ามันกำลังจะปิดตัวลง จากนั้นเขาก็เข้าไปในช่องว่างนั้นด้วยเช่นกัน

เจี้ยนเฉินไล่ตามยุทธภัณฑ์จักรพรรดิจากชั้นที่หนึ่งไปจนถึงชั้นที่เก้า ทันทีที่เขาไปถึงที่นั้น มันก็หลบกรงเล็บของเจี้ยนเฉินก่อนที่จะพุ่งกลับไปที่ชั้นที่หนึ่ง และทะลุผ่านม่านพลังออกไปและกลับไปด้านนอกโถง

เจี้ยนเฉินพุ่งออกไปจากช่องว่างที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสร้างเอาไว้ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า แสงสีทองพุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเขาและตกไปที่มือของเขา เขาเอาวัตถุเซียนออกมา

เจี้ยนเฉินโยนวัตถุเซียนไว้กลางอากาศ “วัตถุจิตวิญญาณ ซ่อนอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิบินมาตรงนี้ ดูดมันเข้าไปในวัตถุเซียนทันที” เจี้ยนเฉินไม่สนใจในวัตถุเซียนและไล่ตามยุทธภัณฑ์จักรพรรดิต่อไป

วัตถุเซียนลอยอยู่กลางอากาศในขณะที่แสงสีทองของมันค่อย ๆ จางหายไป มันลดขนาดลงอย่างเร็ว ก่อนที่จะลดตัวลงที่พื้นกลายเป็นหอคอยขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ มันใช้ศพเพื่อซ่อนตัวเองเอาไว้

เจียนฉินและยุทธภัณฑ์จักรพรรดิคลั่งไปทุกที่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเขาใช้ทักษะมายาพริบตา จึงเหมือนมีเส้นของร่างของเขาจึงตามไปทุกที่ สัตว์อสูรระดับ 8 ทั้งหมดตามอยู่ด้านหลังและไม่ยอมที่จะปล่อยทั้งสองไป สัตว์อสูรกำลังคำรามอย่างโมโห

ในตอนที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิบินไปที่โถงอีกครั้ง วัตถุเซียนก็ออกมาในที่สุด มันเปลี่ยนเป็นหอคอยสูง 10 เมตรในพริบตาและเปล่งรัศมีไปด้วยแสงแสบตา ประตูหอคอยเปิดออกตามทางที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิกำลังมา และพยายามที่จะทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเข้าไปในนั้นด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามแผน ในช่วงเวลาที่สำคัญนั้น ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้บังคับให้ตัวเองหยุด ไม่ได้พุ่งเข้าไปในมิติของวัตถุเซียน เป็นได้ชัดว่า มันยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนได้

แต่เมื่อมันชะงักไปเล็กน้อย เจี้ยนเฉินก็ตามมันทันในที่สุด มือของเขาเคลือบไปด้วยชั้นของพลังบรรพกาลหนาในขณะที่เขาคว้าไปที่ด้ามหนาของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรง ชั้นของปราณกระบี่ที่ทรงพลังพุ่งออกมาและล้อมเจี้ยนเฉินเอาไว้ และโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินอย่างต่อเนื่อง

เสื้อของเจี้ยนเฉินขาดเป็นชิ้น ๆ ในตอนนั้น รอยขาวปรากฏไปทั่วร่างของเขาเนื่องจากปราณกระบี่ของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

ร่างบรรพกาลขั้นที่ 3 ทำให้เจี้ยนเฉินสามารถทนการโจมตีจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้ แม้ว่ายุทธภัณฑ์จักรพรรดิจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ยากที่จะทำให้เจี้ยนเฉินบาดเจ็บได้เมื่อไม่มีใครควบคุมมันอยู่

เจี้ยนเฉินคำรามออกมาและพลังบรรพกาลก็ไหลออกมาไม่หยุดเข้าไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ หลังจากที่ถ่ายพลังบรรพกาลเข้าไป ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิค่อย ๆ ถูกข่มและปราณกระบี่ของมันก็อ่อนแรงลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหายไปอย่างหมดสิ้น แสงบนตัวอาวุธค่อย ๆ หมองลงเรื่อย ๆ และถูกแทนที่ด้วยแสงสีดำที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างอย่างช้า ๆ

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสงบลงในที่สุดตอนนี้ มันอยู่ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของวิญญาณภายในยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ มันอ่อนแอมาก เหมือนกับว่ามันกำลังหลับไหลอยู่

“เหมือนจะเป็นเพราะวิญญาณนี้ถึงทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิถึงมีความเฉลียวฉลาดอยู่ในระดับนี้ มันน่าจะถูกทิ้งเอาไว้โดยเจ้าของคนก่อน” เจี้ยนเฉินเข้าใจในทันที และเขาก็ตระหนักว่าทำไมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิถึงทำพฤติกรรมแบบนั้นก่อนหน้านี้ มันเป็นเพราะสัญชาตญาณของวิญญาณ สัญชาตญาณที่จะหลีกเลี่ยงอันตราย การกระทำของมันไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร

“หดตัวลง ! ” เจียนตะโกนออกมา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิหดตัวลงอย่างเร็ว และเปลี่ยนเป็นดาบยาว 1.3 เมตร และมีความกว้าง 2 นิ้ว มันเปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลัง

“เจี้ยนเฉิน ในที่สุดเจ้าก็ได้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมา” นูบิสพูดอย่างยินดีในขณะที่เขาวิ่งมา โอกาสที่พวกเขาจะทำลายทางเข้าของศูนย์ควบคุมของโถงศักดิ์สิทธิ์ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยการมียุทธภัณฑ์จักรพรรดิในตอนนี้

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เต็มไปด้วยความยินดีด้วย เขาโบกมือ ปราณกระบี่ที่น่ากลัวก็พุ่งออกไปทันทีไปที่ม่านพลัง

ปราณกระบี่กับม่านพลังปะทะกัน และรูใหญ่ก็เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้น ปราณกระบี่ก็พุ่งต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าพลังจะลดลง

บู้ม ! ทั่วทั้งโถงสั่นไหวอย่างรุนแรง มันไม่ใช่แค่โถงนี้ แม้แต่ทั่วทั้งโถงศักดิ์สิทธิ์ยังได้รับผลกระทบ และแกว่งไปมาเบา ๆ

“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดินี้มีผลต่อม่านพลังโดยธรรมชาติ ดังนั้นม่านพลังจึงอ่อนแอลงไปมากต่อหน้าปราณกระบี่นี้” เจี้ยนเฉินยินดีและตกใจในขณะที่เขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น

“พระเจ้า เจี้ยนเฉิน การโจมตีนั้นเท่ากับชั้นสวรรค์ที่ 6 หรือที่ 7 เป็นอย่างน้อยเลยนะนั่น” นูบิสเต็มไปด้วยความตกใจ