บทที่ 849 หม่ามี๊ถูกรังแกอีกแล้ว แง๊~~

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

“หมอคิตตี้ ผมไว้หน้าคุณแล้วนะ!”

สุดท้ายพ่อบ้านวัยชราคนนี้ก็หมดความอดทนลง ใบหน้าเย็นชาพูดกับเส้นหมี่ออกมาด้วยประโยคนี้

อะไรที่เรียกว่าไม่มีสามี?

แม่งเอ๊ยสามีของเธอก็คือเขาคุณชายคนนั้นไงล่ะ?

เส้นหมี่ถูกไล่ออกมา โมโหจนภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสีดำ เธอนึกไม่ถึงว่าเรื่องราวที่ดำเนินเป็นไปได้ด้วยดี จู่ๆก็เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขนาดนี้

งั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี?

หรือว่าเธอก็ออกไปจากที่นี่แบบนี้แล้ว?

เธอมองไปยังลูกสาวที่อยู่ด้านข้างดวงตาสุกใสมองไปที่ลูกสาวของเธอ กัดฟันเอาไว้ หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความผ่านวีแชทออกไป

【คิตตี้:คุณแสนรัก คุณอยู่หรือเปล่า เมื่อกี้ฉัน……ถูกคุณท่านไล่ออกมาแล้ว เขาพูดว่าฉันรักษาคุณไม่หายตามกำหนด ความจริงแล้วไม่ใช่ คุณแสนรัก ฉันกำลังพยายามรักษาคุณ อีกทั้งคุณก็มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดี คุณสามารถทำให้ฉันกลับไปได้ไหม?】

เธอเพื่อที่จะได้กลับไป แม้แต่คำอ้อนวอนแบบนี้ก็พูดออกมาแล้ว

แต่ว่า หลังจากส่งข้อความวีแชทออกไป ไม่นาน ก็ตอบกลับมา ทำให้ภายในใจของเธอเย็นวาบ

【แสนรัก:เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม 】

【คิตตี้:คุณแสนรัก?!】

เธอประหลาดใจอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นี่เป็นข้อความที่เขาตอบกลับมา

เขาไร้ความรู้สึกขนาดนั้นเลยหรือ?

ช่วงเวลานี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีไม่น้อยเหรอ เขายังไปหาเธอที่ญี่ปุ่น แล้วพาเธอกลับมา ทำไมตอนนี้ถึงได้พูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึกแบบนี้?

เส้นหมี่ขอบตาแดงขึ้นมาแล้ว

เมื่อสักครู่ตอนที่อยู่ที่เดอะวิวซี พ่อบ้านวัยชราคนนั้นต่อว่าเธอไม่ดีอย่างมากมายไม่ได้เข้าหูสักนิด เธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

แต่ตอนนี้ เธอได้รับข้อความอันนี้ เธอโศกเศร้าเสียใจ และน้อยใจเป็นอย่างมาก

【คิตตี้:คุณแสนรัก ฉันเป็นหมอประจำบ้านของคุณ จะไม่เกี่ยวกับคุณได้อย่างไรล่ะ คุณสามารถตัดสินใจให้ฉันอยู่ต่อได้】

เธอส่งข้อความไปอีกครั้งทำให้ตัวเองดูต่ำต้อยที่สุดแล้ว

แต่ว่า ครั้งนี้ หลังจากที่เธอส่งไป ฝั่งตรงข้ามไม่ได้ตอบกลับมาอีกแล้ว

เหมือนกับปกติที่เวลาเธอพูดกับเขา เวลาที่เขาไม่อยากฟัง ก็จะชอบมองไปทางอื่นอย่างเย็นชา ทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็นเธอยังไงอย่างงั้น

ความหวังสุดท้ายของเส้นหมี่ก็ได้มอดดับลงแล้ว

เธอฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย ในที่สุดน้ำตาเม็ดใหญ่ๆก็ร่วงออกมาจากขอบตา

รินจังที่มองอยู่ด้านข้าง โมโหเป็นอย่างมาก

เธอคิดอยากจะติดต่อให้พวกพี่ชายมาช่วย แต่ว่า หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนได้อยู่ด้วยกันแล้ว พวกพี่ชายก็ไม่ให้เครื่องมือสื่อสารกับเธออีกแล้ว งั้นเธอจะติดต่อกับพวกพี่ชายอย่างไรล่ะ?

พี่ชาย หม่ามี๊ถูกรังแกอีกแล้ว พี่ชาย……

เด็กน้อยก็ร้องไห้ออกมาจนตาทั้งสองข้างแดง

แต่สิ่งที่แม่ลูกทั้งสองไม่รู้คือ ในตอนนี้ ความจริงแล้วแสนรักไม่ได้อยู่ที่เดอะวิวซี วันนี้ตอนเช้าฟ้ายังไม่ทันสาง ก็ถูกไชยันต์ส่งไปที่ค่ายทหารแล้ว

ไอ้คนแก่ไม่ตายคนนี้ หลังจากเห็นว่าเขาหายดีแล้ว เพื่อที่จะให้เขาได้ออกกำลังกายฟื้นฟูกำลัง จึงส่งเขาเข้ามาฝึกซ้อมทันที!

“อื้อ……”

รู้สึกจุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาถูกฟาดลงพื้นอย่างแรงอีกครั้ง

แวบเดียว เหงื่อเย็นๆก็ผุดขึ้นมาจากบริเวณหน้าผากของเขา

ผู้บัญชาการ:“รองผู้นำเดชา ทำแบบนี้กับคนที่ไม่เคยฝึกอย่างหนักมาก่อน หนักเกินไปหรือเปล่า ระวังว่าเขาจะรับไม่ไหว”

“ไม่เป็นไร คุณดูเอาเองก็แล้วกัน คุณท่านบอกว่า หลังจากที่เขาได้ป่วยหนักมาสองครั้ง ร่างกายไม่แข็งแรงอย่างมาก มาฝึกฝนที่นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุด”

รองผู้นำเดชาตอบกลับมาเบาๆด้วยประโยคนี้

แล้วก็มองดูแวบหนึ่งในมือของเขายังกำโทรศัพท์เครื่องหนึ่งเอาไว้แน่น กับกระเป๋าเดินทางง่ายๆใบหนึ่ง

ใจดวงนี้ของผู้บัญชาการจึงวางใจลงได้

“ถ้าเป็นท่านจอมพลเป็นคนพูดเอง งั้นก็ได้เลย งั้นพวกคุณเตรียมการส่งเขามานานเท่าไหร่”

“สามเดือนพอไหม”

“พอแล้ว!”

“……”

เวลานานขนาดนี้ นั่นเป็นการตัดสินใจว่าจะเอาชายหนุ่มคนนี้ขังเอาไว้ที่นี่ชั่วคราว

——

เส้นหมี่ไม่มีวิธีใดแล้ว สุดท้ายก็เลยมาหาม็อกโก

ที่เมืองหลวงแห่งนี้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว หลังจากตั้งแต่กาวินเสียไป ดลธีกับแสนรักทั้งสองได้พาเขากลับไปทำพิธีศพที่บ้าน ก็ไม่ได้มาอีกแล้ว

ทันใดได้ยินเรื่องแบบนี้ ม็อกโกที่รีบมา ก็แสดงความประหลาดใจออกมาอย่างมาก

“เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า ไล่คุณออกมา!”

“ไม่โทษเขาหรอก ตัวฉันเองที่ชะล่าใจเกินไป ไม่ได้ระมัดระวังกิริยาท่าทางของตัวเองให้ดี ตอนนี้ฉันไม่กังวลสิ่งอื่นใด เกรงว่าเขาอยู่ที่เดอะวิวซีจะไม่มีคนดูแล ไม่นานมานี้พึ่งจะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นฟู กลับถูกตีกลับให้ไปเป็นอย่างเดิม”

เส้นหมี่เก็บความโศกเศร้าเสียใจของตัวเองเอาไว้ เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเป็นกังวลมากที่สุดกับชายหนุ่มคนนี้ออกมา

ม็อกโกจะทำอะไรได้?

วิธีเดียวที่ทำได้ คือหาวิธีส่งเธอกลับเข้าไปในเดอะวิวซีอีกครั้ง

แต่ว่า พวกเขาทั้งสองต่างคิดไม่ถึง ในตอนที่พวกเขานัดเจอกัน คนที่กำลังจ้องมองม็อกโกอยู่ ได้พบพวกเขาทั้งสองเขาแล้ว

“หมอประจำบ้าน? นั่นเป็นใครกัน?”

ได้ยินว่าเป็นผู้หญิง ในบ้านหลังนั้น ผู้ชายที่อยู่หลังม่านเพราะว่าแผนการครั้งที่สองล้มเหลวจึงกำลังโมโหเดือดดาล จ้องมองไปบนกำแพงที่เต็มไปด้วยรูปภาพของบุคคลต่างๆจึงได้หยุดลงสักพัก

คนที่คุกเข่าอยู่ด้านนอกอธิบายออกมาทันที :“เป็นหมอประจำบ้านของแสนรักครับ คนที่พบว่าครั้งที่แล้วในขนมหวานมีสารพิษ ก็คือเธอ”

“คือเธอ?”

“ใช่ครับ!”

คนคนนี้ส่งรูปภาพมาอย่างสั่นๆ

วินาทีนี้ เมื่อคนที่อยู่หลังม่านรับรูปภาพมา มองดูหญิงสาวที่อยู่ในรูปอย่างชัดเจนแล้ว เขาหรี่ตาลง ทันใดนั้น เขาก็ยิ้มออกมา

“ที่แท้เป็นเธอนี่เอง”

“…….เจ้านาย คุณ…..รู้จัก?”คนที่อยู่ด้านนอกรู้สึกได้ถึงความต่าง ทันใด เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง

หลังจากนั้น คนที่อยู่หลังม่านคนนี้กลับไม่พูดอะไรออกมา

เขาหยิบรูปขึ้นมาด้านหน้ามองดูอีกครั้ง หลังจากนั้นก็วางเอาไว้บนโต๊ะ นัยน์ตาสีอำพันคู่นั้น ภายใต้แสงแดดที่สาดส่องมาจากนอกหน้าต่าง ก็ได้ยิ้มออกมาอย่างพอใจอีกครั้ง

รู้จัก จะไม่รู้จักได้อย่างไรล่ะ?

เขาคงจะยุ่งจนมึนไป กลับลืมคนที่สำคัญขนาดนี้ไปได้อย่างไร……