ตอนที่ 751 ทรมานจนตาย (1)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 751 ทรมานจนตาย (1)
การคอร์รัปชั่น เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่อดีตสหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย แม้กระทั่งล่มสลายแล้ว การคอร์รัปชั่นก็ยังคงดำเนินอยู่ แม้แต่ในกองทัพเองก็ยังได้รับผลกระทบ

กองทัพที่ไม่มีเงินจ่ายเบี้ยเลี้ยงเป็นเดือนๆ สุดท้ายอาวุธที่อยู่ในระดับลับสุดยอดบางอย่างก็ยังต้องขายออกไป รัสเซียในสมัยนั้น ไม่ต่างจากนายหน้าค้าอาวุธนานาชาติหลังสวนดอกไม้

ฟรุสดูแลกิจการมวยใต้ดิน ขณะเดียวกันเขาเป็นพ่อค้าอาวุธของอังกฤษด้วยเช่นกัน ตอนนั้นฟรุสรู้จักกับนายพลคนสำคัญของรัสเซียหลายคน บางคนสนิทกันจนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

ฉะนั้นตอนที่ได้ข่าวประธานาธิบดีโมโห ถึงแม้ฟรุสจะรู้สึกแปลกใจ แต่มันก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แม้ว่าตอนนี้จะถูกทหารล้อมรอบ เขาก็ไม่มีความกังวลอะไรเลย

เพราะครั้งนี้ผู้ที่นำกองกำลังมาคือผู้บัญชาการทหารลอฟสกี้จากตะวันออกไกล เคยซื้อขายเรือดำน้ำกับฟรุสมาก่อน และในบ้านของลอฟสกี้ ก็ยังมีงาช้างแกะสลักมูลค่ามหาศาลที่ฟรุสเป็นคนมอบให้อีกด้วย

ฟรุสรู้จักลอฟสกี้ดี อดีตแม่ทัพใหญ่ของกองเรือทะเลดำผู้นี้ เป็นนักฉวยโอกาสของจริง เข้าร่วมกองทัพตั้งแต่ก่อนอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย และไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน ช่วงที่ประธานาธิบดีคนเก่ากับคนปัจจุบันปะทะกัน ลอฟสกี้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเลือกคนหลัง หลังจากที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันขึ้นรับตำแหน่ง เขาก็ได้สร้างผลงานเอาไว้มากมาย

ด้วยเหตุนี้ลอฟสกี้จึงกลายเป็นนายทหารที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันไว้ใจมากที่สุด พูดได้เลยว่าเขาเป็นหนึ่งในนายทหารที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของรัสเซีย

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ฟรุสไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่ถ้าเป็นคน ๆ นี้เขามั่นใจว่าเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน

“คุณฟรุส ต่งต้าจ้วงรู้เรื่องไม่น้อยเลยนะ ถ้าเขามีชีวิตรอดกลับไป แล้วพูดเรื่องของพวกเราออกไป จะทำยังไง ? ”

อิโต ซากิทำหน้ามึนตึง ในสายตาของเขา การรักษาชีวิตของต่งต้าจ้วงเอาไว้แบบนี้ เป็นความล้มเหลวของการร่วมมือกัน เพราะไม่เพียงแต่หลอกล่อให้พวกกากเดนสมาคมหงเหมินออกมาไม่ได้ แล้วยังต้องติดอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยหิมะอีก

“ใครบอกว่าผมจะส่งคนเป็นออกไป ? ”

ฟรุสหัวเราะอย่างคนเจ้าเล่ห์ โบกมือและพูดว่า“แม้ว่าต้องส่งคนเป็นออกไป มันก็ต้องกลายเป็นคนตาย คุณอิโต ซากิ บางครั้งการเมืองมีผลมากกว่าการฆ่าฟันนะครับ ! ”

ถึงแม้ว่าตาแก่อิโต ซากิจะจัดการมือดีของสมาคมหงเหมินไปหลายคนด้วยตัวเขาเอง แต่ลึก ๆ แล้วฟรุสก็ไม่ชอบเขาอยู่ดี

สำหรับฟรุสแล้ว เยี่ยเทียนและพวกที่อยู่บนเรือสำราญ ล้วนแต่เป็นพวกมีสี่แขนสี่ขาที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ แต่คิดอะไรง่าย ๆ และขาดการพิจารณา

ฟรุสก็แค่ใช้ลีลาฝีปาก มวยใต้ดินของญี่ปุ่น ไทยและรัสเซีย ล้วนมีเขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเท่ากับว่าเขาได้รวบรวมองค์กรมวยใต้ดินทั้งหมดของเอเชียเอาไว้แล้ว

“โอเค งั้นผมขอฝากคุณไว้ด้วยก็แล้วกัน ! ”

คนเจ้าเล่ห์อย่างอิโต ซากิตัดสินใจง่ายมาก หลังจากได้ยินฟรุสพูดแบบนั้น เขาที่นั่งคุกเข่ากับพื้นลุกขึ้นโค้งคำนับให้กับฟรุส และมอบหมายเรื่องนี้ให้กับฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด

“ครับ แล้วผมจะรีบกลับมา ! ”

ฟรุสยิ้ม เดินออกไปด้านนอก มองเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่บนฟ้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออกไป

ห้านาทีผ่านไป ไฟที่ส่องมายังค่ายฝึกทหารเก่าก็ดับลงทั้งหมด ฟรุสขึ้นไปยังรถบัญชาการคันหนึ่ง โดยมีทหารรัสเซียเดินประกบข้างสองคน

รถบัญชาการที่มีการปรับแต่งใหม่ หากดูภายนอกจะเห็นว่าธรรมดามาก แต่ภายในนั้นตกแต่งหรูหราไปด้วยพรมบอสตันแผ่นหนา ตู้เหล้า ตู้เย็นและโทรทัศน์ดาวเทียมมีพร้อมทุกอย่าง

นายพลหัวล้านคนหนึ่งลุกขึ้นจากโซฟาและโผเข้ากอดทันทีที่ฟรุสเข้ามา จากนั้นเขาทำหน้าสงสัยและพูดไปว่า “เพื่อน… คุณมาอยู่ตรงนี้ได้ไง ? ”

“ท่านนายพล ดีใจมากครับที่ได้พบท่านอีก ! ”

ฟรุสแอบด่าในใจไอ้แก่ตัวแสบ นำกองกำลังล้อมรอบขนาดนี้ จะไม่รู้ได้ไงว่าเขาอยู่ในนั้น ถามทั้ง ๆ ที่รู้

“ท่านนายพล ท่านก็ทราบดีนะครับ ครั้งนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยของสนามมวยใต้ดินของพวกเรา ทำไมท่านถึงต้องออกโรงเองละครับ ? ”

ฟรุสไม่อ้อมค้อมกับคนตรงข้าม และพูดตรง ๆ ไปว่า “เราก็เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ผมหวังว่าท่านนายพลจะช่วยผมพูดเล็กน้อยเวลาอยู่ต่อหน้าท่านประธานาธิบดี ให้เรื่องนี้มันคลี่คลายลงไป”

“ฟรุส เรื่องนี้ไม่เล็กแล้วนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้หน้าคุณหรอกนะ แต่ครั้งนี้พวกคุณทำมากเกินไปจริง ๆ ท่านประธานาธิบดีโกรธมาก เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด”

ลอฟสกี้แสดงสีหน้าทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันออกมา เขาครุ่นคิดไปครู่หนึ่งและพูดต่อว่า “ให้คุณไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ปัญหา แต่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด ต้องส่งกลับไปสอบสวนที่มอสโควทั้งหมด ! ”

“บัดซบ นี่พูดก็เหมือนไม่ได้พูด ! ”

ฟรุสบ่นพึมพำในใจ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ช่วงนี้พระราชวงศ์ของประเทศไทยสร้างอาคารชุดหลายอาคารที่พัทยา มันดีมากเลย ผมเก็บไว้ให้ท่านห้องหนึ่งด้วยนะ”

ในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย ทุกตารางนิ้วของพัทยานั้นเหมือนทองคำ คฤหาสน์หลังหนึ่งมีมูลค่าอย่างน้อยก็สิบล้านดอลล่าร์ขึ้นไป เพราะฉะนั้นหลังจากที่ลอฟสกี้ได้ยินฟรุสพูดแบบนั้น เขาก็ยิ้ม

แต่เขาหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้วและพูดว่า “ขอบใจเพื่อนมาก แต่เรื่องนี้จัดการยากหน่อย ผมไม่รู้จะรายงานให้ท่านประธานาธิบดียังไง ! ”

“ท่านนายพล คฤหาสน์ที่อยู่ชานเมืองของลอนดอนหลังนั้นเป็นยังไงบ้าง ? ผมคิดว่านะ มันต้องโอนเป็นชื่อของท่านนายพลในเร็ว ๆ นี้แหละ ! ”

การเผชิญหน้าของลอฟสกี้ผู้ไม่เคยพอ ฟรุสทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เขารู้ว่าทหารรัสเซียชอบอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศมาก ฟรุสจึงจำเป็นต้องนำมันมาเป็นเหยื่อล่ออีกหนึ่งชิ้น

ตอนนี้ฟรุสก็เหมือนคนต้อนเป็ดขึ้นแท่น เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้ เพราะถ้าไม่สามารถให้ลอฟสกี้ปล่อยอิโต ซากิไป ความสัมพันธ์ของเขากับญี่ปุ่นและรูดอล์ฟต้องพังทลายลงเป็นแน่

ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากอิโต ซากิจากญี่ปุ่นและรูดอล์ฟจากตุรกี ฟรุสไม่สามารถรวบรวมสนามมวยใต้ดินทั้งสองแห่งเอาไว้ได้ นั่นหมายความว่า สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

“เพื่อนกันไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ! ”

ลอฟสกี้ยิ้มจนตาหยี หลังจากได้ยินฟรุสเสนอแบบนั้น “เพื่อน สิ่งที่เกิดขึ้นในรัสเซียมีผลกระทบในวงกว้างเกินไป ผมต้องรายงานให้ท่านประธานาธิบดี คุณเข้าใจหรือเปล่า ? ”

“เข้าใจครับท่านนายพล เรื่องนี้พวกคนชั่วชาวจีนเป็นคนทำ แล้วคนที่ทำก็อยู่ในมือของผมแล้ว ผมจะมอบให้ท่านเองครับ ! ”

ฟรุสเปลี่ยนประเด็น และพูดว่า “แต่คนพวกนี้เป็นพวกที่อันตรายมาก พวกเขาอาจจะต่อต้านการจับกุมของท่าน สุดท้ายถูกยิงตายหมด ผมคิดว่า คำตอบแบบนี้ท่านประธานาธิบดีน่าจะพึงพอใจนะครับ ? ”

“ฮ่า ๆ ถ้าผมพอใจ ท่านก็พอใจเหมือนกัน ! ”

ลอฟสกี้หัวเราะฮ่า ๆ เขายื่นมือไปหยิบวอดก้าแท้ออกจากมาจากตู้เหล้า และเทลงในแก้วสองใบ จากนั้นก็พูดว่า “แด่มิตรภาพของเรา แด่คนจีนที่สมควรตาย เชียร์ ! ”

“เชียร์ ! ”

ฟรุสยกแก้วขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดเนื้อ ที่ดินสองผืนที่เขาเสียไป เมื่อรวมราคาแล้วสูงถึงหลายสิบล้านดอลล่าร์

การแลกเปลี่ยนปากเปล่าของทั้งคู่สิ้นสุดลงแล้ว จากนั้นกองกำลังที่ล้อมรอบค่ายอยู่นั้นก็ได้รับคำสั่ง นอกจากกองกำลังพิเศษกองเล็กกองหนึ่งที่อยู่ต่อ ที่เหลือทั้งหมดให้ถอยกลับ

ผู้ฝึกเดิมทีพักอยู่ในค่าย หลังจากที่ฟรุสและคนอื่น ๆ มาถึงที่นี่ ทุกคนถูกครูฝึกพาไปรวมตัวอยู่ที่หุบเขาลึกทางทิศเหนือ และนั่นจะเป็นการเดินทางแห่งความตายอีกครั้ง

เวลานี้คนที่ยังคงอยู่ในค่าย นอกจากคนญี่ปุ่นยี่สิบกว่าคนแล้ว ที่เหลือเป็นลูกน้องสายตรงของฟรุสทั้งหมด ส่วนต่งต้าจ้วงและคนอื่น ๆ ถูกขังไว้ในห้องปิดตายที่เอาไว้ทำโทษผู้ฝึก

ห้องปิดตายแบบนี้ มีความสูงประมาณ 1.75 เมตร เป็นห้องสี่เหลี่ยมพื้นผ้า ขนาดไม่ถึง 1 ตารางเมตร ไม่ต่างจากโลงศพเท่าไหร่

และห้องปิดตายห้องนี้จะถูกปิดไว้ทั้งหมด นอกจากช่องระบายลมแล้ว แม้แต่หน้าต่างก็ไม่มี คนที่เข้ามาในห้องจะมีความรู้สึกไม่ต่างจากการถูกฝังไว้ใต้ดินและไม่ได้ยินเสียงภายนอกเลย

ไม่ว่าผู้ฝึกจะทะนงองอาจแค่ไหน หากถูกขังในห้องปิดตายสักสามวัน ก็ต้องยอมศิโรราบ และบางคนที่ทำความผิด จะยอมฆ่าตัวตายดีกว่าต้องถูกขังในห้องนี้

ถึงแม้ว่าต่งต้าจ้วงและคนอื่นๆจะถูกขังในห้องนั้นแค่หนึ่งวันกับอีกไม่กี่ชั่วโมง หลังจากออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าทุกคนมีสีหน้าที่ซีดขาว บางคนแทบจะเดินไม่ได้ จนต้องหามไปที่สนามของค่ายฝึก

“ต้าจ้วง ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ? ”

ชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าพอเห็นต่งต้าจ้วง ก็เริ่มดิ้นรนแต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่มีอาหารไปหล่อเลี้ยงสองวันเต็ม จึงไม่สามารถหลุดออกจากเงื้อมมือของฟรุสได้

“ลุงสอง ผมไม่เป็นอะไรครับ คุณปู่ไม่ปล่อยพวกระยำพวกนี้แน่ ๆ ! ”

ต่งต้าจ้วงถือว่าเป็นคนที่กล้าหาญมาก ถึงแม้ว่าเขามีชื่อว่าต้าจ้วง (บึกบึน) แต่กลับมีรูปร่างที่ผอม และในเวลานี้เขายังอ่อนแอกว่าชายวัยกลางคนคนนั้นอีก

“ต้าจ้วง แกพูดถูก ท่านต่งจะต้องแก้แค้นให้พวกเราแน่ ๆ ! ”

คนที่อยู่ข้าง ๆ ลุงสองกับต่งต้าจ้วงหัวเราะเสียงดังฮ่า ๆ จากนั้นก็มีคนถุยน้ำลายใส่หน้าอิโต ซากิที่อยู่ข้าง ๆ

“บัดซบ ! ”

ในฐานะผู้อาสุโสแห่งตระกูลอิโตเก่าแก่ อิโต ซากิเคยถูกดูหมิ่นแบบนี้ซะเมื่อไหร่ ? ด้วยความโกรธสุดขีด เขาพลิกข้อมือ มีแสงวูบวาบเส้นหนึ่งสว่างขึ้น เสียงหัวเราะของคน ๆ นั้นหยุดลงทันที กระโหลกของใครบางคนลอยขึ้นฟ้า

ความเลือดเย็นของอิโตทำให้ต่งต้าจ้วงตาแทบถลนออกมา น้ำตาที่ไหลรินมีเลือดปน เขาตะโกนเสียงดัง “ลุงเป่า ?! เลว ไอ้ผีระยำ เก่งจริงมาทำฉันสิ ! ”

“พวกแก ต้องตายทุกคน ! ”

อิโตหัวเราะเยาะเย้ย เขาพลิกข้อมือ เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง เอวกับสะโพกของคน ๆ หนึ่งแยกออกจากกันเป็นแนวทแยงมุม เสียชีวิตทันที