ตอนที่ 2,184 : อวดดี!!
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่…ตราบใดที่เจ้ากล้าสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าต่อหน้าทุกคนในที่นี้ ว่าในอดีตครั้งที่ข้ายังอยู่ในลัทธิบูชาไฟ เจ้าไม่เคยส่งคนให้มาจับตาดูข้าเพื่อหาโอกาสฆ่าข้าทิ้ง! วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตสุนัขของพวกเจ้าพ่อลูก!!”
วาจาดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหูต่งหยวนจิ้น
กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์?
ว่า…ในกาลก่อนตอนที่ต้วนหลิงเทียนยังอยู่ลัทธิบูชาไฟ มันไม่เคยสงใครไปเฝ้าจับตาดูเพื่อหาโอกาสฆ่าต้วนหลิงเทียน?
เรียกว่าทันทีที่ได้ยินวาจาประโยคนี้ของต้วนหลิงเทียน หน้าของต่งหยวนจิ้นพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำทันที
สาบานกับมารดาเจ้า!
หากมันกล่าวคำสาบานนั่นจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะถูกฟ้าผ่าตายทันทีรึไง?!
ต่อหน้าผู้ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องราว จะใช้วาจาพลิกลิ้นกลับดำเป็นขาวอย่างไรก็อาจกระทำได้…
แต่กับคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์นั้น…
ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!
ตอนนี้ต่งหยวนจิ้นได้รับทราบแล้ว ว่าการ ‘ทุ่มหินทับเท้า’ มันเจ็บปวดเพียงใด
ก่อนหน้านี้มันกล่าววาจาออกมาอย่างชอบธรรม เรียกร้องความเห็นใจให้ผู้คนสงสารเข้าข้าง…
ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนอาศัยคำพูดให้มันสาบานแค่ไม่กี่คำ ก็ทำให้มันต้องตกอยู่ในสถานะจนตรอก ยังต้องอับอายหนักข้อเพราะวาจาผายลมของตัวเอง!
“อะไร? รองจ้าวหอต่งไม่กล้ารึ?”
เมื่อเห็นหน้าต่งหยวนจิ้นเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะปล่อยไปง่ายๆ เร่งกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “หรือว่า…รองจ้าวหอต่งกลัวความผิด?”
เผชิญกับวาจาจี้ถามของต้วนหลิงเทียน ต่งหยวนจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับได้เป็นธรรมดา
มันยังจะตอบอะไรได้อีก
หากพูดไปไม่ใช่ว่ายอมรับว่าทั้งหมดที่มันพูด…เป็นเพียงวาจาผายลม ที่คิดใส่ร้ายต้วนหลิงเทียนหรือไร!
ขณะเดียวกัน ต่งหยวนจิ้นก็ตระหนักได้ชัดเจนในใจ
ต้วนหลิงเทียนมาที่นี่วันนี้เพื่อสะสางความแค้นในอดีตจริงๆ น่าเสียดายที่ในอดีตมันไม่ได้พยายามฆ่าต้วนหลิงเทียนให้มากพอ จนเป็นดั่งเขวี้ยงงูไม่พ้นคอตัวเองแบบนี้…
“ไฉนรองจ้าวหอต่งไม่ยอมสาบานตามคำที่ต้วนหลิงเทียนบอกเล่า?”
หลายคนที่รอดูชมเรื่องราวอยู่อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความผิดหวังเล็กน้อยที่เห็นต่งหยวนจิ้นเงียบไปไม่พูดไม่จา
“ไม่ใช่ว่ามันพูดเองหรือไรว่าความบาดหมางระหว่างต้วนหลิงเทียนกับลูกชายมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ และมันไม่เคยยุ่งวุ่นวายอะไร…แล้วไฉนในเวลาสำคัญเช่นนี้ มันกลับไม่กล้าเอ่ยคำสาบานออกมาเล่า?”
เริ่มมีคนสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
“พวกเจ้ายังมองไม่ออกเหรอ ว่าทั้งหมดล้วนเป็นวาจาผายลมคิดเอาตัวรอดของมันทั้งสิ้น…ทั้งหมดเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง เรียกร้องความเห็นใจจากพวกเรา ให้พวกเราหันไปอยู่ข้างมันและรุมประนามต้วนหลิงเทียน….”
บางคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ ก็รู้ได้ทันทีตั้งแต่วินาทีแรกที่ต่งหยวนจิ้นยึกยัก
“ที่แท้เป็นเช่นนี้! บัดซบ! ข้าอุตส่าหลงเชื่อคำของมันเพราะความตำแหน่งรองจ้าวหอคุมกฏอันมีเกียรติ…แต่สุดท้ายมันแค่ปั้นน้ำเป็นตัวคิดหลอกใช้พวกเรา!”
“รองจ้าวหอต่งนับว่าไร้ขีดจำกัดล่างยิ่ง…”
“เหอะๆ ที่แท้เป็นรองจ้าวหอต่งส่งคนไปเฝ้าจับตาดูต้วนหลิงเทียนเพื่อหาโอกาสฆ่าคนนี่เอง…ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงบุกกมายังเขตหวงห้ามของหอคุมกฏเราหลังมีพลังฝีมือสูงส่ง แถมยังข่มขู่ว่าจะไม่ละเว้นรองจ้าวหอต่ง!”
“หากข้าเป็นต้วนหลิงเทียนข้าเองก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน! มารดามันเถอะ…คิดฆ่าผู้อื่นเขาก่อนแท้ๆยังกล้าทำเป็นพูดเรียกร้องขอความเห็นใจ!!”
…
เมื่อเห็นว่าต่งหยวนจิ้นไม่กล้ากล่าวคำสาบานตามที่ต้วนหลิงเทียนพูดเสนอออกมา ทุกคนก็เสมือนได้รู้เช่นเห็นชาติต่งหยวนจิ้นทันที ยังตระหนักได้ว่าพวกมันถูกต่งหยวนจิ้นหลอกเข้าเสียแล้ว!
เสียอะไรเสียได้ แต่เสียหน้าไม่ได้! ทั้งหมดกลายเป็นโกรธแค้นต่งหยวนจิ้นและหันไปเข้าข้างต้วนหลิงเทียนกันหมดทันที!!
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้สนใจแต่แรกว่าคนเหล่านี้จะอยู่ข้างเขาหรือไม่
ที่เขาให้ต่งหยวนจิ้นมีโอกาสกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ เพราะเขารู้สึกขัดใจพฤติกรรมของต่งหยวนจิ้น ที่ทำเป็นพูดยกอ้างความชอบธรรมเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นต่อหน้าผู้คนที่มามุงชม
“เฮอะ! ต้วนหลิงเทียน เจ้ามันนับเป็นตัวอะไร คู่ควรให้บิดาของข้าลดตัวลงไปกล่าวคำสาบานตามเจ้าพูดด้วย?”
ในขณะที่ต่งหยวนจิ้นอับจนสิ้นทาง ต่งหลิน พลันก้าวออกมามองจ้องต้วนหลิงเทียนอย่างถือดี โพล่งคำออกมาอย่างหยิ่งผยอง!
เรียกว่าการกระทำนี้ของต่งหลิน เสมือนตัวโง่งมที่ไม่ได้ดูสถานการณ์แม้แต่น้อย!
“หลินเอ๋อ!”
เมื่อต่งหลินก้าวออกมากล่าวคำ สีหน้าต่งหยวนจิ้นเปลี่ยนไปมหันต์ มันรีบกล่าวเพื่อหยุดลูกชายตัวเองทันที อนิจจายังสายเกินไป…
จังหวะนี้อยู่ๆใจของมันก็บังเกิดความรู้สึกหวิวๆขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
เพราะตั้งแต่วินาทีที่ต้วนหลิงเทียนเสนอเรื่องให้มันเอ่ยคำสาบาน มันก็สัมผัสได้ถึงการหมดความอดทนที่แฝงเร้นอยู่ในน้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนได้อย่างชัดเจน
ราวกับต้วนหลิงเทียนหมดความอดทนกับพวกมันแล้ว…
“เหอะ!”
แทบจะเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ต่งหลินกล่าวจบคำ เสียงเย็นหนึ่งพลันแค่นสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
และพร้อมกันกับที่เสียงไม่สบอารมณ์นั่นดังขึ้น มือขวาต้วนหลิงเทียนที่ไม่ทราบยกขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่พลันสะบัดโบกออกไปตามอำเภอใจคล้ายปัดแมลงวัน…
ทว่าพริบตานั้นเอง มวลพลังเซียนสุริยันอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลของต้วนหลิงเทียน พลันปะทุระเบิดออกไปดั่ง มังกรพิโรธ อันเกรี้ยวกราด! ถล่มโถมเข้าใส่ต่งหลินด้วยความเร็วเหนือล้ำ!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
……
มังกรพิโรธทะยานผ่านไปที่ใด เสียงแตกระเบิดของอากาศพลันดังสนั่นออกมาที่นั่น
แล้วในเวลาเพียงชั่วพริบตาดุจอัสนีวาบจ้า มังกรพิโรธดังกล่าวก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต่งหลิน! มันยังทำราวกับอ้าปากกระหายเลือดออกกว้างขย้ำไปที่ต่งหลิน!!
“ไม่!!”
ต่งหยวนจิ้นที่ดึงสติกลับมา ร่ำร้องออกเสียงหลงด้วยความเสียใจ ร่างปะทุพลังชั่วชีวิตโจนทะยานออกไปหมายช่วยเหลือลูกชายตัวเอง
อนิจจาร่างมันเพียงโจนทะยานมาได้ถึงครึ่งทาง มังกรพิโรธ ดังกล่าวก็กลืนต่งหลินไปเรียบร้อย
ปงงงง!!
เสียงหนึ่งดังสนั่นลั่นฟ้า ก่อนที่กลิ่นสนิมเหล็กคาวคลุ้งพร้อมหมอกโลหิตจะกระจายออกไปในบรรยากาศ ส่วนมังกรพิโรธเมื่อครู่…ทำราวกับรับประทานมากเกินไปจนท้องแตกตาย หายไปในความว่างเปล่าอย่างไร้ร่องรอย…
ต่งหลิน ร่างแหลกสลายไม่เหลือซาก!
ราวกับในโลกนี้ ไม่เคยมีมันอยู่แต่แรก
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
…
หลังจากฉากเรื่องราวเหนือฟ้ากลายเป็นเงียบงันได้พักหนึ่ง เสียงสูดลมหายใจเข้าด้วยความเสียขวัญก็ดังขึ้น
เมื่อเสียงแรกดังขึ้น เสียงต่อๆมาก็ดังขึ้นตามๆกัน
เพียงโบกมือตามอำเภอใจ ก็ลบผู้คนให้หายไปได้แล้ว?
ยามเมื่อผู้ชมโดรอบมองมาที่ต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง นอกจากความหวาดกลัวแล้วในแววตาของพวกมันยังฉายชัดถึงความตื่นตระหนก!
“โชคดีที่มันไม่คิดฆ่าข้า…”
เจียงฉินที่ลอยร่างอยู่ไม่ไกลพอเห็นต้วนหลิงเทียนฆ่าต่งหลินทิ้งอย่างไม่ยี่หระ กอปรกับหลังได้ทราบว่าต้วนหลิงเทียนฆ่า ‘ผู้เฒ่าหยาง’ ข้ารับใช้ของต่งหยวนจิ้นในหมัดเดียวจากลูกศิษย์ที่ในเหตุการณ์มันก็ตระหนักได้ทันทีว่าตัวมันโชคดีแค่ไหน…
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ดั่งเทพสังหารก็ไม่ปาน ฆ่าคนเยี่ยงมดปลวก!
“ต้วน! หลิง! เทียน!!”
เมื่อเห็นลูกชายตัวเองถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าทิ้งต่อหน้าต่อตา ต่งหยวนจิ้นก็คำรามออกมาราวกับสัตว์ร้ายคุ้มคลั่ง!
ลูกตาของมันกลายเป็นสีแดงฉาน จิตสังหารปะทุออกท่วมร่างอย่างไม่ติดจะกักเก็บ!
เสียงคำรามของมันยังเยียบเย็นชวนให้ผู้คนหนาวสะท้านนัก
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนหันไปเหลือบมองต่งหยวนจิ้นด้วยสายตาเยียบเย็น และคิดจะส่งเคราะห์บิดาให้ลงนรกตามลูกชายไปนั้น…
วูววว! ซัววว!!
…
พลันปรากฏสายลมกรรโชกพัดผ่านมาอย่างแรงทำให้ทุกคนที่ลอยร่างอยู่สัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งกำลังมา! ทั้งสายลมนี้คล้ายจะพัดมาจากส่วนลึกสุดของเขตหวงห้าม! ชุดเสื้อคลุมของพวกมันโบกสะบัดตามแรงลมดังพั่บๆ!!
ขณะเดียวกันกลิ่นอายพลังอันน่าเกรงขามทั้งยิ่งใหญ่สุดไพศาลขุมหนึ่ง ก็เริ่มแผ่มากดดันไปทั่วบรรยากาศ
ที่สำคัญก็คือกลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่สุดไพศาลและน่าเกรงขามดังกล่าว ไม่ใช่กลิ่นอายพลังแปลกปลอมอะไรสำหรับทุกคน!
“เป็นใต้เท้าจ้าวหอ!”
ลูกตาหลายๆคนส่องแสงจ้าขึ้นมาทันที
“ใต้เท้าจ้าวหอ…แต่กลิ่นอายพลังระดับนี้มัน ใต้เท้าจ้าวหอทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนแล้วหรือ!?”
นอกจากจะเป็นรองจ้าวหอคุมกฏแล้ว เจียงฉิน จะอย่างไรก็เป็นผู้ที่ทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน มันย่อมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายพลังจ้าวหอคุมกฏที่มันเคยรู้จัก…
กลิ่นอายพลังของ ‘เหลิ่งอิง’ จ้าวหอคุมกฏนั้น ได้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับ!
และเหลิ่งอิงแต่เดิมก็เป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน! การที่กลิ่นอายพลังของมันยกระดับขึ้นมาอีกขั้น ย่อมหมายความว่ามันสามารถทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้สำเร็จ!!
เจียงฉินสามารถตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ยังนับประสาอะไรกับต่งหยวนจิ้นที่มีพลังฝีมือเหนือมันเล็กน้อย ย่อมตระหนักได้ทันทีเช่นกัน!
“ใต้เท้าจ้าวหอ!”
ต่งหยวนจิ้นสงบอารมณ์กล่าวคำทักทายออกไปทันทีแม้คนจะยังมาไม่ทันถึงก็ตาม ตอนนี้มันระงับโทสะในใจเอาไว้ชั่วคราว
‘ด้วยความแข็งแกร่งของข้าคิดจัดการต้วนหลิงเทียนย่อมเป็นไปไม่ได้เลย…หากคิดจะแก้แค้นมันข้ามีแต่ต้องพึ่งจ้าวหอคุมกฏเท่านั้น!’
ต่งหยวนจิ้นลอบกล่าวในใจ
หลังตระหนักได้ว่าเหลิ่งอิงทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้สำเร็จแล้ว ต่งหยวนจิ้น ก็รู้สึกเสมือนเอื้อมมือไปคว้าจับฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายได้สำเร็จ มันเร่งอ้าปากกล่าววาจาออกมาเสียงดังทันทีด้วยกลัวว่าหากชักช้าจะไม่มีโอกาสสืบไป
“เรียนใต้เท้าจ้าวหอ! ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไม่เพียงแต่บุกรุกเข้ามาเขตหวงห้ามของหอคุมกฏเราอย่างอุกอาจ! ยังไร้สัมมาคารวะไม่เห็นผู้อาวุโสอยู่ในสายตา ลงมือทำร้ายคนของหอคุมกฏของพวกเรา!กระทั่งยังฆ่าคนของหอคุมกฏของพวกเราอย่างไร้ปราณี! ขอให้ใต้เท้าจ้าวหอออกหน้าเพื่อรักษาเกียรติของหอคุมกฏพวกเราด้วย!!”
เสียงตะโกนนี้ของต่งหยวนจิ้น ยังผสานไปด้วยพลังเซียนต้นกำเนิดชั่วชีวิต ทำให้เสียงของมันขจรขจายไปไกลนัก!
เรียกว่าเสียงของมันไม่ใช่แค่ดังไปทั่วเขตหวงห้ามของหอคุมกฏ แต่ยังก้องไปทั่วอาณาเขตของหอคุมกฏ
“อะไรนะ!? ต้วนหลิงเทียนบุกรุกเข้ามาในเขตหอคุมกฏเราเรอะ!!”
“ไม่เพียงแต่บุกรุกเข้ามาในเขตหอคุมกฏ แต่ถึงกับบุกรุกเข้าไปในเขตหวงห้ามของหอคุมกฏเราด้วย!แถมไม่ใช่แค่ทำร้ายคนเฉยๆ ยังสังหารอาวุโสของหอคุมกฏเรา!?”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะไม่ก่อการอุกอาจเกินไปหน่อยหรือ!?”
“เสียงนี้ฟังแล้วคุ้นหูยิ่ง…สมควรเป็นเสียงของรองจ้าวหอต่งใช่หรือไม่!?”
…
ทั่วทั้งหอคุมกฏตกอยู่ในความวุ่นวายทันที
ถึงแม้จะมีมากมายหลายคนที่คิดไปชมดูเรื่องราวที่เขตหวงห้ามของหอคุมกฏ แต่ทว่าด้วยกฏเกณฑ์ข้อบังคับอันเข้มงวด แม้พวกมันจะอยากไปดูแค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าล่วงล้ำเข้าไปให้เป็นการฝ่าฝืนกฏ!
“ช้าก่อน…ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น คงไม่ใช่คิดจะทำกับหอคุมกฏเราเหมือนที่มันทำกับแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวหรอกนะ?”
“มันคงไม่คิดใช่หรือไม่…ว่าใต้เท้าจ้าวหอคุมกฏของพวกเรา อ่อนแอทั้งเปราะบางเหมือนจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาว?”
“เรื่องนี้ ก็ไม่แน่…”
“ฮึ่ม! มันไม่รู้หรือไรว่าใต้เท้าจ้าวหอของพวกเรามิใช่อันใดที่คนอย่างจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวจะเทียบได้เลย! หากใต้เท้าจ้าวหอพวกกเราต้องการ คิดจะสยบจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวในหนึ่งฝ่ามือก็นับเป็นเรื่องราวอันง่ายดายนัก!!”
…
วาจาทำนองเดียวกันนี้เริ่มดังไปทั่วเขตของหอคุมกฏ
กล่าวได้ว่าเหล่าอาวุโสของหอคุมกฏทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เชื่อมั่นในพลังฝีมือของจ้าวหอคุมกฏ เหลิ่งอิง ถึงที่สุด!
ณ น่านฟ้าเขตหวงห้ามของหอคุมกฏ
“เจ้าคิดว่า…หากจ้าวหอคุมกฏ เหลิ่งอิง ของเจ้ามาถึงแล้ว จะสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้งั้นหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนมองต่งหยวนจิ้นด้วยสายตาเย้นหยันกล่าวประชดมันออกมาว่า “เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า…ข้าจะฆ่าเจ้าหลังจากจ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิงมาถึง ให้เจ้าได้ตายต่อหน้าคนที่เจ้าคิดว่าจะมีปัญญาช่วยเจ้าได้”
เขาอยากให้ต่งหยวนจิ้นได้รับทราบ…
ว่ารสชาติของความ ‘สิ้นหวัง’ เป็นอย่างไร!
ได้ยินวาจาของต้วนหลิงเทียน ใจต่งหยวนจิ้นถึงกับสั่นไหวไปทันที
และในขณะที่คำพูดของต้วนหลิงเทียนกำลังทำให้ต่งหยวนจิ้นรู้สึกไม่สบายใจนั้นเอง
“อวดดี!!”
เสียงตะโกนดังลั่นอันแฝงเร้นไว้ด้วยโทสะหนึ่ง พลันดังขึ้นมาจากส่วนลึกของเขตหวงห้ามหอคุมกฏ!