เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1329
“ฉันก่อน! ”
ทันใดนั้น ก็มีคนที่อดใจไม่ไหวกระโดดขึ้นมาบนสังเวียนก่อนแล้ว
คนผู้นี้ก็เป็นที่รู้จักของคนไม่น้อย ซึ่งก็คือว่านกั๋วที่พ่ายแพ้ให้กับเทียนชิงหยาง ในการต่อสู้รอบที่สามหรือรอบสิบหกคนสุดท้ายของการประลองคัดเลือก
“ฮ่าฮ่า ว่านกั๋วขึ้นมาบนสังเวียนแล้ว ดูเหมือนว่าการประลองคัดเลือกในช่วงก่อนหน้านี้ ที่พ่ายแพ้ให้กับเทียนชิงหยางนั้น จิตใจยังคงมีความโกรธแค้นอยู่ วันนี้ ไม่นึกว่าจะมาสร้างความยากลำบากให้กับธิดาเทพเป็นคนแรกเลย! ”
“สามารถเข้าถึงรอบสิบหกคนสุดท้ายได้ วิชาความสามารถที่มี ก็ถือว่าไม่เลว วันนี้มาดูกันว่า เขาจะสามารถแสดงความเก่งกาจของอู่อานออกมาให้เห็นกันได้หรือไม่”
“ฉันกลัวว่าเขาจะพลิกเอาชนะได้โดยไม่ตั้งใจ แล้วก็กลายเป็นลูกเขยของประเทศเป่ยเสินไปเลย! ”
……
เสียงโห่ร้องเกรียวกราว ดังขึ้นไม่หยุด
นักบู๊ ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบโห่ร้องมากที่สุด ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน พวกเขาต่างก็จะแสดงบทบาทที่สร้างความโกลาหลวุ่นวายไปทั่วในทุกครั้ง
ว่านกั๋วขึ้นมาบนเวทีแล้ว โดยได้กำหมัดแสดงความเคารพต่อธิดาเทพและพูดว่า: “ว่านกั๋ว จากเขตปิ้ง เชิญธิดาเทพลงมือได้เลย! ”
ธิดาเทพมองไปที่เขาอย่างเฉยชา แล้วก็พยักหน้าเบา ๆ
ว่านกั๋วยืนตัวตรง พร้อมกับถืออาวุธเอาไว้ในมือ
“ธิดาเทพ เชิญ! ”
ธิดาเทพตอบกลับอย่างสงบนิ่งว่า: “เชิญ! ”
ว่านกั๋วพลันปลดปล่อยพลังปราณในร่างกายออกมา ซึ่งพลังอานุภาพเป็นที่น่าตกใจอย่างมาก!
ครั้งก่อนยังไม่ทันได้แสดงกระบวนท่าอะไรเลย ก็พ่ายแพ้ให้กับเทียนชิงหยาง ทำให้เขาอับอายขายหน้าเป็นที่สุด วันนี้เมื่อต่อสู้กับธิดาเทพ ว่านกั๋วก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่า จะต้องแสดงฝีมือต่อสู้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ไม่พูดถึงผลแพ้ชนะก่อนว่าเป็นอย่างไร ที่สำคัญจะต้องนำวิชาที่ตนเองเป็นทั้งหมดนั้น แสดงออกมาให้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะฝึกฝนกี่กระบวนท่าที่สวยงาม และทักษะวิชาบู๊ที่เก่งกาจจนสำเร็จ เดิมทีตั้งใจที่จะแสดงในการประลองคัดเลือก เพื่อให้ทุกคนประจักษ์กับความยอดเยี่ยมของตนเอง
แต่คาดคิดไม่ถึงว่า กว่าที่จะมาถึงรอบสิบหกคนสุดท้าย และเตรียมแสดงให้ทุกคนในใต้หล้าได้เห็นเป็นประจักษ์นั้น กลับกลายเป็นว่าถูกกระบวนท่าวิชาของเทียนชิงหยาง จนต้องพ่ายแพ้ตกรอบไป
ความคับแค้นอัดอั้นในจิตใจของว่านกั๋ว ผู้ใดจะรับรู้เข้าใจได้
ตอนที่คนอื่นพ่ายแพ้ อย่างน้อยก็ยังได้ต่อสู้ติดต่อกันหลายรอบ ได้แสดงกระบวนท่าออกมาทั้งหมด ต่อให้พ่ายแพ้ก็ยังถือว่ามีเกียรติ
หลังจากที่พ่ายแพ้แล้ว ก็ยังมีหญิงสาวจำนวนมากมายไล่ตามเพื่อขอลายเซ็นต์
ส่วนตัวเขาล่ะ ตอนนี้คนในเมืองหลวง ต่างก็ขนานนามเขาว่าหินฝึกซ้อมวิชา ว่านกั๋ว
เพราะว่ามีเพียงแต่หินฝึกซ้อมวิชาเท่านั้นที่ไม่ตอบโต้คืน ปล่อยให้คนอื่นลงมือได้ตามอำเภอใจ
สิบหกคนสุดท้ายเหมือนกัน เข้าร่วมการประลองยุทธเหมือนกัน แต่ทำไมถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้
ในใจของว่านกั๋วทั้งโกรธแค้น และไม่ยอม
วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เขาจะสามารถทวงเกียรติและความอับอายกลับคืนมา การต่อสู้ครั้งนี้ จะต้องเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วทั้งใต้หล้าอย่างแน่นอน
ยกอาวุธขึ้น ว่านกั๋วเตรียมจะลงมือแล้ว!
แต่ทันใดนั้น ทุกคนก็มองเห็นพลังปราณในตัวของว่านกั๋ว เริ่มที่จะแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ส่วนร่างกายของว่านกั๋วเอง ก็ขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ ใบหน้าแสดงอาการเจ็บปวด เหมือนกำลังดิ้นรนอยู่ แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย!
ชี่ความเย็นอันรุนแรง ไม่รู้ว่าเมื่อไร ได้พุ่งเข้าไปสู่ในร่างกายของเขาแล้ว
เวลานี้ ทุกคนเพิ่งจะมองเห็นว่าที่ใต้ฝ่าเท้าของว่านกั๋ว มีเส้นน้ำค้างแข็งที่เบาบางเส้นหนึ่ง ที่เชื่อมต่อไปยังมือของธิดาเทพ
ธิดาเทพไม่เคลื่อนไหว เพียงแค่ยิ้มและมองไปที่ว่านกั๋ว
ไม่นานนักว่านกั๋ว ก็ถูกน้ำแข็งผนึกลงอย่างสิ้นเชิง แม้แต่พลังปราณในร่างกาย ก็ถูกแข็งตัวกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไปด้วยเช่นกัน
จุดแสงกระพริบ ผลึกน้ำแข็งโปร่งใส
ว่านกั๋วอ้าปากค้าง อยากร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตา และอยากที่จะตะโกนเสียงดังว่า: “อย่างน้อยก็ให้ฉันแสดงสักหนึ่งกระบวนท่าอ่า! ”
แต่น่าเสียดายที่ สภาพความจริงมันช่างโหดร้ายนัก
ว่านกั๋วถูกแข็งตัวอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ก้อนน้ำแข็งที่แฝงไปด้วยชี่ความเย็นลอยล่องไปตามสายลมทั่วบริเวณโดยรอบ
ขณะนั้น นักบู๊จำนวนไม่น้อย ก็ถึงกับตะลึงและสั่นไหวไปทั้งหมด!
“ยอดพลังน้ำแข็ง! ”
ศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ด้านข้างของลู่ฝาน ได้พูดพึมพำขึ้น
ลู่ฝานมองอย่างละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่จริงแล้วเขาเคยต้านทานพลังฝ่ามือของธิดาเทพมาก่อน ยิ่งรู้ดีถึงพลังของธิดาเทพ ซึ่งไม่ใช่ยอดพลังน้ำแข็งที่ง่ายดายขนาดนั้น
พลังของธิดาเทพ เป็นชี่ความเย็นที่น่ากลัวที่สามารถทำให้เส้นเลือดของคนแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็งได้