บทที่ 2017 ไปหนิงปิงปะทะไหลั่วหลัน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ภาคกลางยอดเขาไร้นาม

สี่ผู้อมตะมาที่นี่ด้วยการปกปิดตัวตน

“ไห่ลั่วหลันอยู่บนภูเขาลูกนี้” อิงอู่เซี่ยกล่าว

ด้านข้างเขาคือเทพธิดาจอเว่ย เฒ่าเพิ่งหยวน และไปหนิงปิง

หลังจากเทพธิดาจื่อเว่ยและเฒ่าเพิ่งหยวนบังคับให้ไปหนิงปิงยอมจํานนพวกเขาก็พบอิงเซีย

ในสงครามชะตากรรม อิงอู่เซียไม่ได้เข้าไปในวังสวรรค์ เขาไม่สามารถช่วยร่างหลัก นี่ทําให้เขารู้สึกขุ่นเคืองฟางหยวน

หลังจากเทพธิดาจอเว่ยแสดงหลักฐานบางอย่าง อิงอู่เซียจึงได้เรียนรู้ว่าร่างหลักของเขาได้รับอิสระแล้ว

อิงอู่เซียมีความสุขมาก เขาละทิ้งฟางหยวนและเข้าร่วมกับกลุ่มของเทพธิดาจอเว่ยทันที

อิงอู่เซียกล่าวเบาๆ “ไห่ลั่วหลันเป็นตัวตนที่น่าเกรงขาม แม้การบ่มเพาะของนางจะต่ําแต่นางเป็นอัจฉริยะที่มีความทะเยอทะยานและไม่สามารถดูแคลน”

อิงอู่เซียไม่สงสัยในความสามารถของไหลั่วหลัน สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือไหลั่วหลันจะเข้าร่วมกับพวกเขาและทรยศฟางหยวนหรือไม่

ในแง่นี้เทพธิดาจอเว่ยมั่นใจ นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ามั่นใจมากในการทําให้ไหลั่วหลันยอมจํานนนางมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับฟางหยวน นางต้องการฆ่าพ่อของนางเพื่อแก้แค้นนี่คือความปรารถนาสูงสุดของนาง ฟางหยวนจับตัวไห่เจิ้งเอาไว้ด้วยเหตุนี้ไหลั่วหลันจึงถูกควบคุมเราสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อทําให้นางยอมจํานน

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้

เทพธิดาจ๋อเว่ยเคยตรวจสอบทุกสิ่งเกี่ยวกับฟางหยวนและลูกน้องของเขามาอย่างละเอียดแล้ว

ดังนั้นมันจึงเป็นที่มาในความมั่นใจของนาง

เทพธิดาจอเว่ยลงมือทันที “ครั้งนี้ให้ไปหนิงปิงจัดการ เจ้าจงบอกไห่ลั่วหลันว่าเจ้าได้รับข่าวจากองอู่เซียและมาเยี่ยมเมื่อเจ้าเข้าใกล้นางจงลอบโจมตีและผนึกนางไว้ในน้ําแข็งหลังจากนั้นข้าจะเกลี้ยกล่อมนาง”

“ข้าจะไปกับนาง” อิงอู่เซี่ยรู้สึกไม่มั่นใจ

ไปหนิงปิงช่าเลืองมองอิงอู่เซี่ยก่อนจะบินจากไปเพียงลําพัง

อิงอู่เซี่ยมองเทพธิดาจอเว่ยแต่ฝ่ายหลังส่ายศีรษะ “เราจะเฝ้ามองจากที่นี่”

ไปหนิงปิงบินขึ้นไปบนยอดเขาและตะโกน “ไห่ลั่วหลัน เจ้าอยู่ที่นี่หรือไม่?”

หลังจากชั่วครูไห่ลั่วหลันก็ออกมาจากถ้ำและขมวดคิ้วเล็กน้อย “เหตุดใดเจ้าจึงมาที่นี่?”

ไปหนิงปิงหัวเราะและชี้นิ้วไปที่ไหลั่วหลัน “ข้าเข้าร่วมกับเทพปีศาจจิตวิญญาณแล้วข้ามาที่นี่เพื่อจับเจ้า หากเข้าฉลาดก็ยอมจํานนซะ”
ดวงตาของไร่ลั่วหลันเบิกกว้างขึ้น “เจ้าพูดจริงหรือ?”

ห่างออกไป อิงอเซี่ยกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ข้ารู้ว่าไปหนิงปิงจะทําเสียเรื่อง! นางเป็นคนแปลก นางทําทุกสิ่งเพราะความสนุก นางตั้งใจทําเช่นนี้เพราะรู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้นมากกว่า!”

ไปหนิงปิงหัวเราะ “แน่นอนว่าข้ากล่าวเรื่องจริง”

หลังกล่าวจบคํานางก็กลายเป็นลําแสงสีขาวพุ่งเข้าหาไร่ลั่วหลัน

ไหลั่วหลันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว นางยกมือขึ้นและส่งเปลวไฟออกไปตอบโต้ล่าแสงสีขาว

ไปหนิงปิงถูกผลักดันให้บินกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า

แต่นางรู้สึกตื่นเต้นมาก “วิธีบนเส้นทางแห่งไฟ เจ้าเปลี่ยนมาบ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้จริงๆ ฮ่าฮ่าน่าสนใจข้าอยากต่อสู้กับเจ้า แต่เจ้าจะต่อต้านข้าได้นานเท่าใด?”

ท่าไม้ตายอมตะไปเซียง!

ไปหนึ่งปิงใช้ไพ่ตายของนางออกมาทันที

ไหลั่วหลันเข้าไปในถ้ำขณะที่ไปหนิงปิงไล่ล่าโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

ทั้งสองต่อสู้กันในถ้ำและทําให้ภูเขาถล่ม

หลังจากชั่วครู่สถานการณ์ของไหลั่วหลันก็กลายเป็นเลวร้าย

ไหลั่วหลันมีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่แต่นางโชคไม่ดีที่พบฟางหยวนเร็วเกินไป นี่ส่งผลต่อการบ่มเพาะของนาง

หลังสงครามชะตากรรม ฟางหยวนไม่ได้เรียกไห่ลั่วหลันกลับไปขณะที่ฝ่ายหลังก็ต้องการอิสระ

ไหลัวหลันครอบครองมรดกของนางมารผลาญสวรรค์ หลังจากไตร่ตรอง นางตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการบ่มเพาะ

แต่น่าเสียดายก่อนที่นางจะมีความก้าวหน้า นางกลับถูกค้นพบโดยเทพธิดาจ๋อเว่ย

ไหลั่วหลันรู้สึกขมขื่น นางต้องการหนี้แต่ไปหนิงปิงยังไล่ล่านางอย่างไม่หยุดยั้ง

เมื่อไห่ลั่วหลันเริ่มหมดแรง แสงสีขาวกลับพุ่งข้ามขอบฟ้าเข้ามาและโจมตีไปหนิงปิงอย่างกะทันหัน

“ไหลั่วหลันมีกําลังเสริมงั้นหรือ?” อิงอู่เซียตกตะลึง

“มันควรเป็นสมาชิกของถ้ำสวรรค์นิรันดร” เทพธิดาจอเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อิงเซี่ยตระหนักได้ทันทีว่าเทพธิดาจื่อเว่ยคาดเดาสิ่งนี้ไว้แล้ว เป้ามมายที่แท้จริงของนางคือการใช้ไปหนิงปิงเป็นเหยื่อล่อให้สมาชิกของถ้ำสวรรค์นิรันดรปรากฏตัวเหตุผลที่นางไม่ส่งอิงเซี่ยออกไปเพราะนางต้องการปกป้องร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ฟางหยวนงั้นหรือ?” ไหลั่วหลันมองไปที่ขอบฟ้า

แทบจะในทันทีที่แท่นบูชาแห่งโชคปรากฏขึ้น

แม้ท่าไม้ตายอมตะไปเซียงจะยอดเยี่ยมแต่ไปหนิงปิงจะตายอย่างแน่นอนหากนางถูกแท่นบูชาแห่งโชคโจมตีโดยตรง

เทพธิดาจอเว่ยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นางยิงลําแสงสีม่วงเข้าปะทะลําแสงสีขาวเพื่อปกป้องไปหนิงปิง

“แท้จริงแล้วมันก็คือผู้นําวงสวรรค์ที่พ่ายแพ้” เสียงของปังช่ายฉวนดังออกมาจากแท่นบูชาแห่งโชค

เทพธิดาจอเว่ยส่ายศีรษะและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเฒ่าเพิ่งหยวน“เราเข้าร่วมกับท่านเทพปีศาจจิตวิญญาณแล้ว เราไม่ได้เป็นสมาชิกของวังสวรรค์อีกต่อไป”

ปิงช่ายฉวนเย้ยหยัน “คิดว่าข้าสนใจว่าพวกเจ้าอยู่ฝ่ายใดนั้นหรือ? ไหลั่วหลันเป็นลูกหลานตระกูลฮวงจินนางเป็นสมาชิกของภาคเหนือและถ้ำสวรรค์นิรันดรอย่าคิดว่าจะสามารถทําร้ายนาง!”

เทพธิดาจอเว่ยตอบโต้ “ห้าภูมิภาครวมเป็นหนึ่ง กําแพงภูมิภาคหายไปแล้ว เจ้าจะตัดสินว่าไห่ลั่วหลันเป็นคนที่ใดได้อย่างไร?”

ปิงช่ายฉวนไม่พูดมาก เขานําแท่นบูชาแห่งโชคพุ่งชนเทพธิดาจอเว่ยโดยตรง

การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้น

ไหลั่วหลันและไปหนิงปิงไม่สามารถขยับเขยื้อน

ใบหน้าของไร่ลั่วหลันกลายเป็นซีดเผือด นางเข้าใจดีว่าไม่ว่าจะเป็นถ้ำสวรรค์นิรันดรหรือวังสวรรค์พวกเขาต่างต้องการใช้งานเพื่อค้นหาเบาะแสของฟางหยวน

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตัวนางโดยไม่มีฝ่ายใดถามความสมัครใจของนาง

หลังจากชั่วครู่เทพธิดาจอเว่ยก็เปิดปากกล่าว “ไม่จําเป็นต้องต่อสู้อีกต่อไป มันไม่เสียหายที่จะมอบไหลั่วหลันให้พวกเจ้า”

ปิงช่ายฉวนมีแท่นบูชาแห่งโชคขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยไม่มีกระดานหมากรุกกลุ่มดาว นางเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เหตุผลที่นางโจมตีเพราะนางต้องการกระตุ้นกระแสลมปราณและใช้มันเพื่อให้ได้รับชัยชนะ

แต่ปิงช่ายฉวนตระหนักถึงแผนการของนางและตัดสินใจใช้พลังทั้งหมดออกมาทันที เทพธิดา จ่อเว่ยเห็นสถานการณ์ไม่ดีดังนั้นนางจึงเลือกที่จะหยุด

“เรามีเป้าหมายร่วมกันไม่ว่าไร่ลั่วหลันจะจบลงที่ใด ตอนนี้ฟางหยวนอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด หากเราพลาดโอกาสที่หายากนี้และให้เวลาเขาฟื้นตัว มันจะสายเกินไป เราสามารถทํางานร่วมกัน ซึ่งช่ายฉวนเจ้าคิดอย่างไร?” เทพธิดาจ่อเว่ยยื่นข้อเสนอ

จากนั้นนางก็แสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ฝ่ายปัจจุบันของนาง

“ผู้ใดจะคิดว่าจะมีวันที่เราร่วมมือกัน!” ปิงช่ายฉวนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ

ทั้งสองฝ่ายต่างมีเทพสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พวกเขาต้องการกําจัดฟางหยวน พวกเขามีคุณสมบัติที่จะสร้างความร่วมมือและมีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้นการทํางานร่วมกันจึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด