ผู้ที่ปรากฏตัวมาผู้นี้ได้ถูกหมอกควันสีดำห่อหุ้มร่างเอาไว้
คนผู้นี้ไม่มีคลื่นพลังชีวิตหรือพลังวิญญาณใด ๆ อยู่เลย แต่พลังอันยิ่งใหญ่นั้นกลับทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
ดูเหมือนว่าชิงอิ่งจะรู้สึกได้ถึงอันตรายจึงรีบกลับมาอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี
ปัง ปัง ปัง! ผู้อาวุโสสูงสุดชุดคลุมสีขาวและเจียงขุยเจ้าสำนักหุ่นปีศาจต่างรีบคุกเข่าลงทันที
“นายท่าน! เป็นเพราะพวกข้าที่ไร้ความสามารถ รับมือกับพวกคนเหล่านี้ของตำหนักตงจี๋ไม่ได้ รบกวนนายท่านแล้ว”
สีหน้าของเฟิงอวิ๋นซิวเคร่งขรึมลงทันที พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักหุ่นปีศาจจะมีคนเช่นนี้อยู่ด้วย
คนชุดคลุมยาวสีดำผู้นี้โบกมือพลางกล่าว “ไม่เป็นไร ครั้งนี้ข้าได้พบของดีอย่างหนึ่งแล้วล่ะ!”
มุมปากของคนชุดคลุมยาวสีดำยกยิ้มขึ้นอย่างแปลกประหลาด สายตาจ้องมองไปที่ชิงอิ่งอย่างชั่วร้าย
“ข้านึกว่าบนโลกใบนี้จะมีเพียงข้าแค่ผู้เดียวที่เป็นหุ่นเชิดวิเศษ นึกไม่ถึงว่ายังมีอีกคน บนร่างของเจ้ามีพลังแห่งชีวิตที่ข้าต้องการอยู่ ช่างทำให้แปลกใจยิ่งนัก”
“มาอยู่ข้างกายข้าเถอะ! ข้าต่างหากล่ะที่เป็นหุ่นเชิดประเภทเดียวกันกับเจ้า มนุษย์ก็เห็นเจ้าเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น การที่เจ้าได้อยู่กับหุ่นเชิดประเภทเดียวกันต่างหากล่ะ เจ้าถึงจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง”
คนชุดคลุมยาวสีดำกวักมือเรียกชิงอิ่ง
ดวงตาของชิงอิ่งไร้ซึ่งความสั่นคลอนใด ๆ สำหรับเจ้าคนอันตรายที่กล่าววาจาเหลวไหลเช่นนี้ เขาอยากจะช่วยเฉียนกำจัดไปให้สิ้นซากจริง ๆ
เขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่คนประเภทเดียวกันกับเฉียน แต่เฉียนก็ไม่เคยเห็นเขาเป็นเครื่องมือ
หุ่นเชิดประเภทเดียวกันคือสิ่งใด เขาไม่ได้สนใจและใส่ใจเลย คนที่เขาสนใจและใส่ใจนั้นมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
ในขณะที่ชิงอิ่งจะลงมือกับคนชุดคลุมยาวสีดำผู้นั้น มู่เฉียนซีกลับห้ามชิงอิ่งเอาไว้
“ชิงอิ่ง ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งกาจเพียงใด แต่เจ้าหมอนี่เองก็แปลกประหลาดมากเหมือนกัน เจ้าอย่าได้วู่วาม”
ชิงอิ่งพยักหน้าและเฝ้าอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีอย่างนิ่ง ๆ
สำหรับผู้เป็นนายของชิงอิ่ง ก็เป็นเพียงแค่สาวน้อยผู้หนึ่ง แน่นอนว่าคนชุดคลุมยาวสีดำไม่ได้สนใจเลย
เขามองไปที่เฟิงอวิ๋นซิว “เจ้าคือนายน้อยอวิ๋นซิว นายน้อยแห่งตำหนักตงจี๋ใช่หรือไม่?”
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวด้วยความเย็นชาว่า “เจ้าเป็นใคร?”
คนชุดคลุมยาวดำกล่าว “ข้าคือราชาหุ่น ราชาแห่งหุ่นเชิด เป็นหุ่นเชิดที่แข็งแกร่งที่สุด”
เขากล่าวต่อว่า “เจ้าก็เห็นแล้วนี่ ว่าข้าไม่เหมือนกับหุ่นเชิดที่ไร้ความรู้สึกพวกนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์อย่างพวกเจ้าแล้ว ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าใด!”
เห็น ๆ กันอยู่ว่าจะคนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิง แต่กลับอวดดีคิดว่าตัวเองเก่งได้ถึงเพียงนี้
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “เจ้าต้องการจะเป็นศัตรูกับตำหนักตงจี๋ของข้าอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่ ๆ ๆ! ตอนนี้ข้ายังไม่อยากลงมือกับตำหนักตงจี๋ ตราบใดที่เจ้ามอบหุ่นเชิดผู้นั้นมาให้ข้า วันนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป เป็นเช่นไร?”
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “ไม่มีทาง!”
ถึงแม้ว่าชิงอิ่งจะเป็นหุ่นเชิด แต่เฟิงอวิ๋นซิวนั้นรู้ดีว่าเขามีความสำคัญต่อเฉียนมากเพียงใด!
เฉียนซีที่ตอนนั้นพลังไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนดั่งตอนนี้ได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชิงอิ่ง มาวันนี้จะมอบเขาไปให้คนอื่นอย่างง่าย ๆ ได้อย่างไรล่ะ
ถูกปฏิเสธเช่นนี้ ราชาหุ่นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง!
“นายน้อยอวิ๋นซิว ข้าว่าเจ้าคงยังไม่รู้ว่าข้านั้นแข็งแกร่งและน่ากลัวเพียงใด ถึงได้กล่าวปฏิเสธข้า เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของข้า!”
เงาร่างสีดำปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้อาวุโสสูงสุดภายในชั่วพริบตาเดียว
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ระวัง!”
ปัง! ผู้อาวุโสสูงสุดผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าถูกมือข้างหนึ่งแทงหน้าอก
เลือดสีแดงสดพุ่งทะลักออกมา และในตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดก็พยายามที่จะโจมตีราชาหุ่นอย่างสุดชีวิต!
ทันใดนั้นราชาหุ่นก็หลบหลีกได้ ส่วนร่างของผู้อาวุโสสูงสุดก็ล้มลงไปนอนจมกองเลือด
ดวงตาของมู่เฉียนซีหดตัวลง ถึงอย่างไรผู้อาวุโสสูงสุดก็เป็นถึงยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า ในวินาทีสุดท้ายเขาหลบหลีกไม่ให้โดนหัวใจเขาได้
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีรีบเอาเข็มยาออกมาปักเข้าที่ร่างของผู้อาวุโสสูงสุด
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “อวิ๋นซิว รีบหนีไปให้เร็วที่สุด! หุ่นเชิดนี้แข็งแกร่งมาก ทั่วทั้งแดนตะวันออก เกรงว่าจะมีเพียงแค่หัวหน้าตำหนักที่สามารถรับมือได้ รีบไปเร็วเข้า!”
ตุบ! เมื่อสิ้นคำพูดนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดก็สิ้นลมหายใจไป
คนของตำหนักตงจี๋อุทานขึ้นด้วยความตกใจว่า “ท่านผู้อาวุโสสูงสุดสิ้นชีพแล้ว!”
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดผู้มีพลังธาตุอัคคีที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งตำหนักตงจี๋สิ้นชีพลงแล้ว”
“……”
มู่เฉียนซีกล่าว “อวิ๋นซิว ท่านผู้อาวุโสสูงสุดก็แค่ตายปลอมเท่านั้น รอให้พวกเราล่าถอยออกไปได้ก่อน ข้าจะช่วยรักษาให้”
หุ่นเชิดผู้น่ากลัวผู้หนึ่งสามารถโจมตีให้ผู้อาวุโสสูงสุดพ่ายแพ้ไปได้ภายในชั่วพริบตาเดียว ตอนนี้การที่พวกเขาคิดจะทำลายล้างสำนักหุ่นปีศาจนี้ เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายดายแล้ว!
ภารกิจของพวกเขาในตอนนี้ก็คือต้องรีบล่าถอยออกไป!
ราชาหุ่นยิ้มพลางกล่าวว่า “หึ หึ หึ! พวกเจ้าคิดจะหนีไปต่อหน้าต่อตาข้าอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ! ส่งตัวชุดเชิดชุดเขียวนั่นมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า มิเช่นนั้นละก็…”
ชิงอิ่งกล่าวเสียงขรึมว่า “เฉียน หนีไปก่อน!”
ชั่วครู่หนึ่ง ชิงอิ่งก็ได้ต่อสู้กับคนชุดคลุมยาวสีดำผู้นั้น
มู่เฉียนซีกล่าว “เฟิงอวิ๋นซิว รีบพาท่านผู้อาวุโสสูงสุดหนีไปเร็วเข้า!”
“ซวนอี พาพวกเขาหนีไป!” เฟิงอวิ๋นซิวตะโกนเสียงขรึม
“นายน้อย!” หน้าซวนอีเคร่งเครียดลง
“เฟิงอวิ๋นซิว!” น้ำเสียงของมู่เฉียนซีเย็นชาขึ้น
เฟิงอวิ๋นซิวเดินมาตรงหน้ามู่เฉียนซีพลางกล่าว “เฉียนซี ข้าจะปกป้องเจ้า!”
มู่เฉียนซีเงยหน้ามองเขาและกล่าวว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าปกป้องข้า แต่สายตาคู่นี้ที่เจ้ามองข้ามันไม่ใช่ข้า”
“เฟิงอวิ๋นซิว เจ้ามีสติหน่อย! คนที่เจ้าจะเสี่ยงชีวิตช่วยนั้นมันไม่ใช่ข้า มู่เฉียนซี” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “เฉียนซี ข้ามีสติดี ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าเป็นอะไรไป ข้ารู้ว่าเจ้าคือมู่เฉียนซี ไม่ใช่คนอื่น”
ตูม! พลังอันน่าสะพรึงกลัวของทั้งสองระเบิดขึ้นกลางอากาศ
ผู้ที่ได้ชื่อว่าราชาหุ่นผู้นั้นตะลึงขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! หุ่นเชิดที่มีพลังแห่งชีวิตแข็งแกร่งเช่นนี้นี่เอง นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีหุ่นเชิดเช่นนี้อยู่ หากได้เจ้ามา ข้าก็จะมีพลังแห่งชีวิตอันแข็งแกร่ง และจะไม่ต้องน้อยหน้าพวกมนุษย์แล้ว”
เมื่อได้รู้ถึงความพิเศษของชิงอิ่ง ราชาหุ่นก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
เจียงขุยยิ้มอย่างดุร้ายพลางกล่าว “ลงมือ ขวางคนของตำหนักตงจี๋เอาไว้ให้ได้ ในเมื่อมาแล้วก็อย่าได้คิดที่จะหนี!”
มีท่านราชาหุ่นคอยสนับสนุนเช่นนี้ เจียงขุยมีความมั่นใจมาก
“เพลิงเมฆาสะท้านสวรรค์!” ดวงตาของเฟิงอวิ๋นซิวยิ่งเย็นยะเยือกลงเรื่อย ๆ พลางพุ่งเข้าไปลงมือกับพวกเขา
“ทักษะโยวหลัว!” มู่เฉียนซีเองก็ลงมือตอบโต้ทันที
ความแข็งแกร่งของชิงอิ่งกับราชาหุ่นนั้นสูสีกันมาก และเกินความคาดหมายของทุกคน
ราชาหุ่นกล่าวอย่างเย็นชาว่า “สมกับที่เป็นหุ่นวิเศษที่สุด ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปแล้ว”
เขาก้มมองดูหุ่นเชิดที่ถูกโจมตีพ่ายแพ้เหล่านั้นและยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย
“ใช้ประโยชน์จากพวกสวะเหล่านี้สักหน่อยก็แล้วกัน!”
ทันทีที่เขาง้างมือขึ้น หมอกควันสีดำก็ได้ห่อหุ้มหุ่นเชิดเหล่านี้ไว้ ไม่นานนักดวงวิญญาณที่ถูกปิดผนึกอยู่ในร่างหุ่นเชิดก็ถูกดึงออกมา
ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้รวมตัวเข้าด้วยกันและเริ่มเข้ามาพัวพันกับชิงอิ่ง!
“ชิงอิ่ง ระวัง!”
เสียงกรีดร้องอันโหยหวนของดวงวิญญาณเหล่านี้ก็ดังก้องขึ้น ที่แท้สำนักหุ่นปีศาจก็ได้ฆ่าผู้คนเพื่อมาทำเป็นหุ่นเชิด และได้นำดวงวิญญาณมาปิดผนึกเอาไว้ในร่างหุ่นเชิดนี่เอง
ถึงแม้ว่าร่างของหุ่นเชิดจะแตกสลายไป แต่ก็ยังสามารถใช้ดวงวิญญาณเหล่านี้มารับมือกับศัตรูได้
เพียงแต่ว่า ทักษะความชำนาญเช่นนี้ คาดว่ามีเพียงแค่ราชาหุ่นผู้เดียวเท่านั้นที่จะทำได้
เพราะหากเจียงขุยและพวกสามารถทำเช่นนี้ได้ พวกเขาก็คงจะใช้วิธีนี้ไปตั้งแต่แรกแล้ว
ราชาหุ่นกล่าว “เจ้าหนู เจ้าช่างวิเศษและแข็งแกร่งมาก เพียงแต่ว่า เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า และข้า จะทำให้เจ้ากลายมาเป็นสมบัติของข้า!”
.