ตอนที่ 2949 ผู้คุ้มกันปราสาทศักดิ์สิทธิ์

Super God Gene

เมื่อมือของหานเซิ่นไปสัมผัสกับหัวของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ก็ละลายกลายเป็นแสงและเข้าไปในมือของหานเซิ่น มันไหลไปตามแขนและเข้าไปอยู่ในจิตของเขา

 

“คุณได้รับสปิริตศักดิ์สิทธิ์กิเลนศักดิ์สิทธิ์”

 

เกือบจะในเวลาเดียวกันที่เสียงประกาศดังขึ้น หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวโกรธ “หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นอสูรตัวสีแดงที่กำลังตรงเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางอาฆาต มันพ่นแสงสีแดงออกมาใส่เขา แสงสีแดงนั้นไม่ใช่เปลวเพลิง แต่มันเป็นเหมือนกับแสงเลเซอร์ มันมาถึงตรงหน้าหานเซิ่นในพริบตา

 

“เรดโกสต์ เจ้ายังมีชีวิตอยู่…” ไนน์เทาซันด์คิงรู้สึกแปลกใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รีบเทเลพอร์เข้ามาตรงหน้าหานเซิ่น ดวงตาบนชุดเกราะของเขาเปิดออก และเขาก็ปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมาปะทะกับแสงสีแดงของเรดโกสต์ ขณะที่ตะโกนขึ้นว่า “เรดโกสต์ เจ้าห้ามทำร้ายมิสเตอร์หาน!”

 

เรดโกสต์มองไปที่ไนน์เทาซันด์คิงและถาม

“นึกว่าใครซะอีก ที่แท้เจ้าก็คือคนรับใช้เทาซันด์อาย? นี่คนรับใช้อย่างเจ้าไม่ใช่แค่ยังไม่ตาย แต่เจ้ายังได้เจ้านายคนใหม่อีกอย่างนั้นหรอ?” โทนเสียงของเรดโกสต์เต็มไปด้วยความดูถูก

 

“หุบปาก! ท่านผู้นำสั่งให้ข้าปกป้องมิสเตอร์หาน เจ้าอย่าได้พยายามทำอะไร”

ไนน์เทาซันด์คิงพูดด้วยความโกรธ แต่ผู้คนสามารถบอกได้ว่าเขานั้นเกรงกลัวเรดโกสต์

 

เรดโกสต์หัวเราะ “เทาซันด์อาย เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไร เขาอายุเท่าไหร่กัน ในตอนที่ท่านผู้นำยังอยู่ที่นี่ หลานของท่านผู้นำยังไม่กำเนิดขึ้นมาด้วยซ้ำ เจ้าจะบอกว่าท่านผู้นำขอให้เจ้าปกป้องเขาเนี่ยนะ? จะพูดเพ้อเจ้ออะไรก็ให้มันมีขีดจำกัดหน่อย”

 

ไนน์เทาซันด์คิงต้องการจะอธิบาย แต่เรดโกสต์พูดขึ้นอย่างเกรี้ยวโกรธ

“หยุดพูดจาไร้สาระ ข้าไม่สนว่าคนรับใช้อย่างเจ้าจะไปหาเจ้านายคนใหม่นี้มาจากที่ไหน บอกให้เจ้านายของเจ้าส่งสปิริตศักดิ์สิทธิ์มา ไม่อย่างนั้นเจ้าและเจ้านายของเจ้าก็เตรียมตัวตายไปพร้อมๆกัน”

 

หลังจากนั้นเรดโกสต์ก็พ่นแสงสีแดงออกไปทางหานเซิ่น แต่ไนน์เทาซันด์คิงยืนขวางมันเอาไว้

 

“เรดโกสต์ เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าอย่างนั้นหรอ?”

ไนน์เทาซันด์คิงกัดฟันและไม่ถอยออกไป ร่างกายของเขาปลดปล่อยแสงสีเขียวที่เหมือนกับเงาผีออกมา เขาใช้วิชาหนึ่งวินาทีคือหนึ่งฟันปี แต่ถึงอย่างนั้นไนน์เทาซันด์คิงก็แทบจะป้องกันแสงสีแดงเอาไว้ไม่ได้

 

“หนึ่งวินาทีคือหนึ่งฟันปี และหนึ่งพันปีคือหนึ่งวินาที” เรดโกสต์พูด

“เจ้ายินดีจะใช้อายุขัยหลายปีของตัวเองเพื่อเจ้านายคนนี้อย่างนั้นหรอ? ถ้าแบบนั้นก็มาดูกันว่าเจ้าจะทนได้นานสักแค่ไหน”

 

แสงสีเขียวบนร่างกายของไนน์เทาซันด์คิงได้รับพลังสนับสนุนจากวิชาหนึ่งวินาทีคือหนึ่งพันปี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำได้แค่ป้องกันการโจมตีที่เข้ามา ใบหน้าของเขาดูแก่ลงไปเรื่อยๆและเส้นผมของเขาก็ขาวยิ่งกว่าเดิม

 

ไนน์เทาซันด์คิงป้องกันแสงสีแดงลูกต่อไปขณะที่ตะโกนขึ้นว่า “มิสเตอร์หานรีบหนีไป!”

 

หานเซิ่นประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าไนน์เทาซันด์คิงจะทำเพื่อเขาถึงขนาดนี้

 

หานเซิ่นต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นบางสิ่งออกมาจากก้อนเมฆสีดำบนท้องฟ้า

“หนีไป? เจ้าจะหนีไปไหนได้? ถ้าเจ้าไม่ส่งสปิริตศักดิ์สิทธิ์มาให้กับพวกเรา เจ้าก็อย่าหวังว่าจะหนีรอดไปได้”

 

“พิชเบิร์ด? เจ้าเองก็ยังมีชีวิตอยู่!” ใบหน้าของไนน์เทาซันด์คิงดูแย่ยิ่งกว่าเดิม

 

“ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ยังคงมีชีวิตอยู่” เสียงผู้หญิงที่เย็นชาดังมาจากในความมืด หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่งเดินออกมา

 

อีกด้านหนึ่งก็มีอสูรที่ไร้ดวงตาคลานออกมาจากความมืดเช่นกัน มันมาขวางทางราชครูกู่เยวียนและคนอื่นๆที่กำลังจะหนีไปเอาไว้

 

“โนอาย…เดม่อนเกิร์ล… พวกเจ้าก็ยังอยู่ที่นี่…” ไนน์เทาซันด์คิงพูด ขณะที่มองไปยังสิ่งมีชีวิตทั้งสี่

 

“พวกเรารับหน้าที่ปกป้องปราสาทศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่อปราสาทศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ พวกเราจะตายได้ยังไง?”

เดม่อนเกิร์ลกรอกตา เธอมองไปที่หานเซิ่นและพูด “เจ้าเป็นแค่คนรับใช้คนหนึ่ง แต่เจ้ากลับยังมีชีวิตอยู่ และดูเหมือนว่าเจ้าจะได้เจ้านายคนใหม่มาอีกด้วย นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ”

 

ไนน์เทาซันด์คิงพยายามต้านแสงสีแดงของเรดโกสต์เอาไว้ขณะที่ตะโกนขึ้นมา

“ข้าไม่ได้ทรยศท่านผู้นำ! ท่านผู้นำสั่งให้ข้าคอยปกป้องมิสเตอร์หาน”

 

“เจ้ายังกล้าพูดจาแบบนี้อีกอย่างนั้นหรอ? ข้าจะฆ่าคนรับใช้อย่างเจ้าก่อนเป็นคนแรก หลังจากนั้นข้าค่อยไปจัดการเจ้าเด็กที่กล้ามาขโมยสปิริตศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา” อีแร้งแก่พูด หลังจากนั้นมันก็พ่นควันสีดำบางอย่างออกมา

 

ควันสีดำนั้นไม่ได้รุนแรงอะไร แต่มันแปลกประหลาด มันเป็นเหมือนกับงูพิษสีดำที่ตรงเข้าไปหาไนน์เทาซันด์คิง

 

ไนน์เทาซันด์คิงใช้พลังทั้งหมดไปกับการป้องกันการโจมตีของเรดโกสต์ เขาไม่มีพลังเหลือพอจะมาใช้ป้องกันควันสีดำที่กำลังเข้ามา ใบหน้าของเขาดูหวาดกลัว มันไม่มีหนทางที่เขาจะป้องกันควันสีดำนั้นได้

 

แต่ทันใดนั้นไนน์เทาซันด์คิงก็รู้สึกราวกับว่าเขาถูกดึงไปด้านหลังโดยพลังบางอย่าง มันช่วยเขาหลบจากควันสีดำและออกจากระยะการโจมตีของแสงสีแดง

 

เมื่อเขารู้สึกตัวอีกที เขาก็เห็นว่าหานเซิ่นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา และตอนนี้แสงสีแดงกับควันสีดำก็ตรงเข้ามาหาหานเซิ่นแทน

 

“มิสเตอร์หานระวัง!” ไนน์เทาซันด์คิงแปลกใจ เขาต้องการจะเข้าไปช่วยหานเซิ่น แต่เขารู้สึกราวกับว่ามิติอวกาศรอบๆตัวเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น แสงสีแดงและควันสีดำนั้นช้าลงไปอย่างมาก พวกมันไม่สามารถเข้ามาใกล้ตัวหานเซิ่นได้

 

“อาณาเขตกาลเวลาของไทม์โกสต์!” เรดโกสต์และฟิชเบิร์ดแปลกใจ พวกเขาดึงพลังของตัวเองกลับและหยุดโจมตี

 

“อาณาเขตกาลเวลานี้ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น” ฟิชเบิร์ดกระพือปีกและเตรียมตัวจะบินตรงเข้าไปหาหานเซิ่น

 

“แร้งเฒ่าหยุดก่อน” เดม่อนเกิร์ลอาเหมยพูดขึ้นมา เธอหยุดอีแร้งแก่จากการเข้าไปโจมตีหานเซิ่น

 

ฟิชเบิร์ดกรอกตาและหันมาถามอาเหมย “มีอะไร?”

 

“จัดการคนอื่นที่อาจจะขัดจังหวะพวกเราก่อน หลังจากนั้นพวกเราค่อยจัดการกับเขา” อาเหมยพูด

 

“เอางั้นก็ได้” ฟิชเบิร์ดพ่นควันสีดำออกมา มันตรงเข้าไปหาราชครูกู่เยวียนและเอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าทั้งสามคน

 

ขณะเดียวกันอสูรยักษ์ไร้ดวงตาที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็กลิ้งเข้าไปหาผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภา

 

ราชครูกู่เยวียนพยายามรวบรวมพลัง แต่เขาต้านควันสีดำของอีแร้งแก่เอาไว้ไม่ได้ เขาถอยออกไปด้านหลังเรื่อยๆขณะที่ตะโกนขึ้นว่า

“ได้โปรดหยุดก่อน! ข้ามีบางสิ่งจะพูด!”

 

ส่วนทางด้านเอ็กซ์ตรีมระดับเทพเจ้าทั้งสามนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างราชครูกู่เยวียน ทันทีที่สัมผัสกับควันสีดำ พวกเขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้นราวกับว่าวิญญาณของพวกเขาหลุดออกจากร่าง

 

“ถ้าเจ้ามีบางสิ่งจะพูด ก็ไปพูดมันในนรกแล้วกัน” อีแร้งแก่พูดก่อนที่จะกระพือปีกและบินตรงเข้าไปหาราชครูกู่เยวียน

 

อสูรไร้ดวงตาตัวใหญ่กลิ้งตรงเข้าไปหาผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภา แต่ทันใดนั้นมันก็เห็นผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาประสานฝ่ามือ หลังจากนั้นทิศทางที่อสูรยักษ์ไร้ดวงตากำลังกลิ้งไปก็เกิดเปลี่ยนแปลง มันหันไปร้อยแปดสิบองศาและกำลังกลิ้งเข้าไปในความมืด

 

“ข้าคือผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภา พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อล่วงเกินใคร ทุกท่านได้โปรดฟังที่พวกเราจะพูดได้หรือไม่?”

ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภานั้นแข็งแกร่งมากๆ แต่เขาไม่กล้าจะเสี่ยงในสถานการณ์แบบนี้ เขาเลือกจะพูดอย่างมีมารยาท

 

แต่ไม่มีใครสนใจที่ผู้อาวุโสหนึ่งพูด อสูรยักษ์ไร้ดวงตากลิ้งกลับออกมาจากความมืดและตรงเข้าไปหาผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาอีกครั้ง