เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1341
เสียงดังก้องกังวานในท้องฟ้า โดยเสียงนี้ เกรงว่าในเมืองหลวงคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก นี่ก็คือเสียงขององค์ชายรองฉินฝานนั่นเอง!
รถพระที่นั่งขององค์ชายปรากฏขึ้นในอากาศ โดยองค์ชายรองฉินฝานยืนอยู่บนรถม้า มองไปยังทุกคนอย่างยิ้มแย้ม พร้อมกับกำหมัดแสดงความเคารพต่อหานอู๋ซวง เทียนหลิงและพูดขึ้นว่า: “ผู้อาวุโสหาน เจ้าบ้านเทียน อย่าได้โมโหและทะเลาะกันเลย มีเรื่องอะไร ไม่สามารถพูดคุยแก้ไขปัญหากันได้เหรอทำไมถึงต้องลงมือปะทะกันด้วยล่ะ”
องครักษ์เกราะทองปรากฏตัวขึ้นจากรถพระที่นั่งราวกับตั๊กแตน แล้วโอบล้อมกลุ่มคนในสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ซึ่งลำแสงสีทองอร่าม ได้ปกคลุมแสงสว่างของดวงอาทิตย์ เอาไว้ทั้งหมด
เมื่อเห็นองครักษ์จำนวนมากมายขนาดนี้ หานอู๋ซวงกับเทียนหลิงต่างก็ใจเย็นสงบนิ่งลงได้แล้ว
ขบวนองครักษ์เกราะทองลอยตัวลงมาที่พื้น แล้วแบ่งแยกคนของตระกูลหานกับลูกหลานตระกูลเทียนออกจากกัน โดยฉินฝานมองไปที่สองคนนั้นอย่างยิ้มแย้ม และพูดขึ้นว่า: “หรือว่า แม้แต่หน้าของฉันทั้งสองท่านก็จะไม่ให้เกียรติกันเลยอย่างนั้นเหรอ”
เทียนหลิงนำผู้อาวุโสตระกูลเทียน ถอยหลังลงอย่างช้า ๆ และพูดว่า: “เกียรติและหน้าขององค์ชายรองนั้น ฉันมิบังอาจที่จะไม่ให้เกียรติ! ”
หานอู๋ซวงยิ้มและพูดขึ้นว่า: “องค์ชายรอง ท่านมาได้ตรงเวลาพอดีเลย หากช้าไปเพียงเล็กน้อย ท่านก็คงจะได้เห็นตระกูลเทียนที่นองไปด้วยเลือดแล้ว! ”
เมื่อพูดจบ ก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาได้ผิดเวลาเสียจริง! ”
เสียงที่ดังขึ้นตามมานั้น มาจากรถม้าอีกหลายคันในอากาศธาตุ
หลู่เฉิงเซี่ยงกับหลู่ยิน
เจ้าบ้านถานไถกับถานไถเก๋อ
เจ้าบ้านตระกูลสุ่ยกับสุ่ยสือฉวน สุ่ยเชียนโหรว
เจ้าบ้านตระกูลสือกับสือเฉิน
เจ้าบ้านตระกูลหลิ่วกับหลิ่วเจิน
คิดไม่ถึงว่าหลายตระกูลนี้จะมาถึงกันโดยพร้อมเพรียง!
มีพวกคนเหล่านี้อยู่ หานอู๋ซวงเองก็ไม่สามารถที่จะลงมือแล้ว จึงลอยตัวถอยร่นลงไป
หานอู๋ซวงเอามือกอดอก และพูดขึ้นว่า: “พวกนายมากันอย่างพร้อมเพรียงเลยทีเดียวนะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นวันนี้พวกเราก็จะไม่ปะทะลงมือกันแล้ว พวกเรามาพูดคุยกันด้วยเหตุผลจะดีกว่า พวกเราตระกูลหานนั้น พูดคุยกันด้วยเหตุผลมาโดยตลอด! ”
เมื่อพูดคำนี้จบ ก็ทำให้หลู่เฉิงเซี่ยงและคนอื่น ๆ มีสีหน้าที่บูดเบี้ยวไปตาม ๆ กัน
ตระกูลหานเป็นผู้มีเหตุผลอย่างที่สุด อืม พูดคำนี้ให้กับเด็กน้อยในเมืองหลวงฟัง พวกเขาก็คงไม่เชื่อ
องค์ชายรองหัวเราะ และพูดขึ้นว่า: “มีเหตุมีผลก็ดีแล้ว การมีเหตุมีผลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เดิมที เรื่องนี้ ฉันก็ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวหรอก แต่พี่ชายของฉันนั้น ไปเฝ้ารับใช้ป้ายบรรพบุรุษแล้ว ถ้าอย่างนั้นในวันนี้ ฉันจะเป็นผู้มารับฟังเหตุผลในเรื่องดังกล่าวเอง ดีไหมล่ะ”
เทียนหลิงพูดขึ้นว่า: “องค์ชายรองมาเป็นผู้ตัดสิน เป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน ในเมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผล ก็ดีเลย หานอู๋ซวง ฉันขอถามนายว่า นายพาผู้คนมาทะเลาะหาเรื่องกับตระกูลเทียน เนื่องด้วยเหตุผลอะไร! หรือว่าเมืองหลวงนี้ ไม่มีกฏหมายแล้วอย่างนั้นเหรอ”
หานอู๋ซวงยิ้มและพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “กฏหมาย นายคู่ควรที่จะพูดคำว่ากฏหมายด้วยเหรอ ทำไมนายไม่พูดว่า เพราะเหตุใดฉันถึงพาผู้คนมาทะเลาะหาเรื่องกับนายล่ะ”
เทียนหลิงพูดเสียงดังขึ้นว่า: “เรื่องนี้ยังต้องการเหตุผลด้วยเหรอ ทั้งเมืองหลวงใครบ้างล่ะที่ไม่รู้ว่า หานหยวนหนิงของพวกนายตระกูลหาน ประลองฝีมืออย่างยุติธรรม แล้วเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับเทียนชิงหยางของพวกเราตระกูลเทียน และยังถูกทำลายวิทยายุทธจนหมดสิ้น พวกนายตระกูลหานโกรธแค้นอยู่ในใจมานานแล้ว โดยได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า จนวันนี้ถึงจะลงมือ”
หานอู๋ซวงพูดเสียงดังขึ้นว่า: “แม่งสิมั่วชะมัด ใครบอกกับนายว่า วันนี้ที่พวกเรามานั้น เป็นเพราะเรื่องของหานหยวนหนิง ฉันจะบอกกับนายว่า วันนี้ที่พวกเรามาที่นี่ ก็เพราะศิษย์น้องของหานเฟิงลูกชายฉัน ลู่ฝาน! พวกนายตระกูลเทียน จับตัวลู่ฝานไปทำไม”
เทียนหลิงกัดฟันพูดขึ้นว่า: “ลู่ฝานลู่ฝานมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราตระกูลเทียนด้วย เขาหายตัวไปหรือว่าถูกคนลอบฆ่าแล้วพวกนายมีเหตุผลอะไรที่ต้องมาใส่ร้ายใส่ความพวกเราตระกูลเทียนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกกี่คนด้านล่างนั้น ที่มาถึงแล้วก็พังทำลายประตูใหญ่ของตระกูลเทียน และบุกรุกเข้ามาในคฤหาสน์ของผู้อื่น! ลำพังแค่เรื่องนี้ พวกเขาก็สมควรที่จะไปลงนรกแล้ว ที่ลูกหลานตระกูลเทียนของพวกเราลงมือตอบโต้กลับนั้น ก็ถือว่าเป็นการป้องกันตนเอง! ”
ทันใดนั้น ด้านล่าง หานเฟิงก็พูดขึ้นว่า: “ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย ไอ้แก่ นายพูดอีกครั้งสิว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย ลู่ฝานศิษย์น้องของฉัน เมื่อไม่กี่วันก่อนยังถูกนักฆ่าที่นายส่งมาไล่ล่าสังหารอยู่เลย โชคดีที่ยังหลบหนีเอาตัวรอดมาได้ วันนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร หายตัวไปในเมืองหลวงอย่างไร้ร่องรอย ถ้าหากเป็นคน ใช้ทวารคิดก็รู้ว่าพวกนายตระกูลเทียนเป็นคนกระทำ หากวันนี้พวกนายมอบคนกลับคืนมา ก็จะจบกันเพียงเท่านี้ หากไม่มอบคนกลับคืนมา ก็จะทำให้พวกนายตระกูลเทียนนองไปด้วยเลือด! ”