อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1067 เอาตัวไป
เจ้าบ้านไป๋หลี่ไม่อยากล่วงเกินเย่จิ่งหาน

แต่คำพูดเช่นนี้ของเย่จิ่งหานทำให้เขาเสียหน้าโดยสมบูรณ์

เขาโกรธจนสีหน้าเขียวแดงเปลี่ยนเป็นสีม่วง ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก

ประมุขพรรคฉางซาเห็นเจ้าบ้านไป๋หลี่อดกลั้นต่อความโกรธ อีกทั้งเห็นว่าพวกเขามีแรงกำลังคนอยู่มาก รู้สึกทนไม่ไหวจึงได้รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขึ้นอย่างห้าวหาญว่า “กลัวอะไร แม้ว่าวิทยายุทธของเขาจะสูงเพียงใด แต่พวกเรามีคนมากมายขนาดนี้ยังจะต้องกลัวเขาอีกงั้นหรือ? ทุกคนลุยเข้าไปพร้อมกัน ฆ่าพวกเดียวกับนังปีศาจไปด้วยกันซะเลย”

“ฆ่า……”

เกือบร้อยกว่าคนทยอยพุ่งสังหารเข้าไปทางเย่จิ่งหาน

ริมฝีปากบางๆของเย่จิ่งหานยกขึ้น ในดวงตาอันลึกล้ำเผยความเหยียดหยามออกมา ซึ่งไม่ได้เห็นว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร คนที่พุ่งสังหารเข้ามาเหล่านั้นก็กระเด็นกลับออกไปทีละคน ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสกระอักเลือดไม่หยุด กระทั่งมีบางคนที่สลบไปตรงนั้นทันที ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ฟื้ด…….

เสียงสูดหายใจด้วยความตกใจดังขึ้นทั้งสนามอีกครั้ง

การสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่งโจมตีประมุขพรรคไห่เทียนให้ถอยไปก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงแล้ว

ครั้งนี้เขาไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไร ก็ทำให้คนเกือบร้อยได้รับบาดเจ็บสาหัส ยิ่งทำให้คนที่ได้เห็นเกิดความหวาดกลัวขึ้นไปอีก พวกเขาไม่กล้าจินตนาการว่าชายหนุ่มผู้นี้มีความน่ากลัวถึงระดับใดกันแน่

ซ่างกวนชิงลุกพรวดขึ้นมา สีหน้าไม่น่าดูเป็นที่สุด “ท่านเจ้าบ้าน ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใคร หรือว่าเขาจะเป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นลึกลับที่เจ้าบ้านไป๋หลี่เชิญมาขอรับ?”

สีหน้าของเจ้าบ้านซ่างกวนสงบนิ่ง ราวกับไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด แต่หากมองให้ละเอียดก็จะเห็นได้ว่า มือทั้งสองข้างของเขากำหมัดไว้แน่น ร่างกายก็สั่นสะท้านหลายรอบ

เป็นใคร?

เขาก็อยากรู้ว่าเป็นใคร

“แต่ในเมื่อเขาเป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นที่ตระกูลไป๋หลี่เชิญมา ทำไมถึงได้ต้องการช่วยผู้หญิงคนนั้น?”

ไม่มีผู้ใดตอบซ่างกวนชิง

เพราะว่าในใจของพวกเขาก็มีความสงสัยอยู่นับหมื่นเช่นกัน

การปรากฏตัวของเขา ทำลายความสมดุลของแคว้นปิง ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องอะไรออกมาอีกกันแน่

ในที่นั่งของเจ้าบ้านเวิน

ผู้อาวุโสหลิวเห็นเย่จิ่งหาน ในตาก็เกิดเป็นแรงสังหารแวบผ่านไป

“ท่านเจ้าบ้าน จะจัดการเย่จิ่งหานหรือไม่ขอรับ?”

“รีบร้อนอะไร ละครสนุกเพิ่งจะเริ่ม”

“แต่ว่า….”

“วางใจเถอะ ที่นี่ไม่ใช่แคว้นเย่ เขาหนีไม่พ้น”

“ขอรับ ตามแต่คำสั่งของท่านเจ้าบ้านขอรับ”

เจ้าบ้านไป๋หลี่กล่าวต่อเย่จิ่งหาน “คุณชายเย่ จะเห็นแก่หน้าข้าสักครั้งได้หรือไม่ ผู้หญิงคนนี้…..”

“ไม่ได้ วันนี้ใครกล้าแตะต้องนาง ข้าจะสังหารผู้นั้น”

เย่จิ่งหานโบกมือ ชิงเฟิงเข้าใจได้ทันที เข็นรถเข็นจากไปช้าๆ

ในใจของเจี่ยงเสวียเข้าใจดี ประคองกู้ชูหน่วนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เดินตามหลังไปติดๆ

คนที่รุมล้อมพวกเขาไว้เมื่อเห็นเย่จิ่งหาน ต่างก็พากันถอยหลัง ไม่กล้าขัดขวางไว้ เพียงแค่เขาสะบัดแขนเสื้อ ก็เอาชีวิตพวกเขาไปได้โดยตรงแล้ว

ก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่กล้าขวาง

ในสี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลเวิน ตระกูลซ่างกวน ตระกูลไป๋หลี่ล้วนไม่กล้าออกหน้า พวกเขาจะกล้าออกหน้าได้อย่างไร

แม้ว่าจะตัดใจจากดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ไม่ลง อีกทั้งกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะมาล้าแค้นในภายหลัง แต่เพราะว่าทุกพรรคไม่ได้รวมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สี่ตระกูลใหญ่ก็นิ่งดูดาย ต่างไม่มีทีท่าว่าจะเป็นผู้นำในการหาเรื่อง

ดังนั้นจึง…..

จึงทำได้เพียงมองดูชายหนุ่มผู้นั้นนำตัวกู้ชูหน่วนออกไปอย่างผ่าเผยแล้ว

“ท่านเจ้าบ้าน พวกเราจะปล่อยเขาไปเช่นนี้หรือ?” ซ่างกวนชิงไม่ยอม

“ชายหนุ่มผู้นั้นเป็นถึงระดับหก หากว่าล่วงเกินเขา แล้วเขามาแก้แค้นตระกูลซ่างกวนของพวกเรา เกรงว่าตระกูลซ่างกวนก็อาจจะโดนเขาทำลายล้างได้”

“นี่ก็ช่างอัดอั้นใจเกินไปแล้ว”

“สายตาของพวกเขาอยู่บนตัวของเจ้าบ้านเวินมาโดยตลอด เจ้าส่งคนไปตรวจสอบตระกูลเวินให้ดีๆอีกครั้ง โดยเฉพาะศักยภาพที่แท้จริงของเจ้าบ้านเวิน”

“แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าบ้านแล้วจะอย่างไรขอรับ อายุน้อยขนาดนั้น จะคุกคามอะไรได้”

“เขาก็อายุน้อยเหมือนกันไม่ใช่หรือ ศักยภาพก็ถึงขั้นระดับหกเช่นกันนี่”

ร่างกายของซ่างกวนชิงกระตุก ราวกับตระหนักได้ว่าเจ้าบ้านเวินก็อาจจะไม่ธรรมดาเช่นกัน จึงรีบรับคำสั่งแล้วไปตรวจสอบตัวตนของเวินเส้าหยีทันที