บทที่ 766 ลูกที่ถูกทอดทิ้ง

The king of War

ไม่มีใครนึกถึงว่า หยางเฉินจะกล้าลงมือกับหลงเถิงเช่นนี้

ตอนนี้ เมื่อมองเห็นหลงเถิงถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าของหยางเฉิน บรรดาตระกูลเศรษฐีที่ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับตระกูลหลง ต่างรู้สึกเหมือนฝันไป

หลงเถิงถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า บนอกที่มีแรงมหาศาลกดทับ ทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออกแทบจะขาดอากาศหายใจ

เดิมทีเขาเป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของผู้แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้กลับไม่มีแรงที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย

“ไอ้หนุ่ม แกกล้าทำร้ายฉันงั้นหรอ?”

หลงเถิงจ้องตาเขม็ง แล้วกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว“แกรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร?แกทำร้ายฉัน ก็เท่ากับตบหน้าของคนของตระกูลหลงแห่งราชวงศ์”

“ฉันขอสั่งแก ให้ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นก็คุกเข่าขอร้องอ้อนวอนฉันซะ”

“ไม่อย่างนั้น ตระกูลหลงแห่งราชวงศ์ไม่มีทางปล่อยแกไปแน่ กล้าล่วงเกินคนของราชวงศ์ ถึงแกจะต่อสู้เก่งแค่ไหน ก็ต้องตายสถานเดียว!”

นี่เป็นครั้งแรกที่หยางเฉินพบเจอคนที่คิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ ทั้งๆที่เขาถูกหยางเฉินเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า แต่กลับทำเหมือนว่าหยางเฉินถูกเขาเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้ายังไงอย่างนั้น

“ดูท่า คุณยังไม่ยอมแพ้สินะ”

หยางเฉินหรี่ตาลง“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่าโทษว่าผมรังแกคนแก่ก็แล้วกัน”

“ไอ้หนุ่ม แกจะทำอะไร?”

จู่ๆหลงเถิงก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล แล้วถามด้วยความโกรธ

คนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับหลงเถิง แต่ละคนสีหน้าประหม่า โดยเฉพาะเมื่อได้เห็น หยางเฉินตบหน้าหลงเถิงกับตาตัวเอง และยังเหยียบหลงเถิงอยู่ใต้ฝ่าเท้าอีก

เดิมทีพวกเขาคิดว่าหลงเถิงปรากฏตัวขึ้น จะสามารถจัดการหยางเฉินได้อย่างง่ายดาย แต่คิดไม่ถึงว่า แม้แต่หลงเถิงก็ทำอะไรหยางเฉินไม่ได้

ขอแค่หลงเถิงพ่ายแพ้ พวกเขาทั้งเจ็ดตระกูลที่ร่วมมือกัน ก็จะกลายเป็นตัวตลก

“หยางเฉิน แกกล้าเหยียบย่ำเจ้าบ้านหลงแบบนี้ แกมันรนหาที่ตายชัดๆ!”

สายตาของอวี๋เหวินปิงมีแสงแวบผ่าน เขาชี้หน้าด่าหยางเฉินด้วยความโกรธ“เจ้าบ้านตระกูลหลงเป็นคนของตระกูลหลงแห่งราชวงศ์ ถ้าแกกล้าทำอะไรเขา ตระกูลหลงไม่มีวันปล่อยแกไปแน่”

พูดจบ อวี๋เหวินปิงก็พูดกับหลงเถิงว่า“เจ้าบ้านหลงครับ ไอ้หมอนี่อันที่จริงเป็นแค่ลูกที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้ง เพียงแต่เคยไปร่วมรบมาก่อน ถึงได้มีพละกำลังเหมือนอย่างตอนนี้”

“ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลอวี๋เหวินสงสารเขา แล้วมอบเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้เขา ตอนนี้เขา คงจะยังเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง!”

“เขากล้าแตะต้องคุณ มันเป็นสิ่งที่ผิดครรลองครองธรรม คุณอย่ารั้งรออะไรอยู่อีกเลย รีบส่งผู้กล้าที่คุณซ่อนไว้ออกมาเถอะครับ แล้วฆ่ามันซะ!”

หยางเฉินหรี่ตาลง แล้วมองอวี๋เหวินปิงด้วยสีหน้าชั่วร้าย

เดิมที เขาคิดว่าอวี๋เหวินปิงถูกตัวเองข่มขู่จนกลัวไปแล้ว แถมยังเสียตำแหน่งทายาทสืบทอดตระกูลอวี๋เหวินไปอีก คงไม่กล้ารนหาที่ตายกับตัวเองอีกแล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่า จนถึงตอนนี้ เขายังอยากคงคิดร้ายกับตนเองอยู่

เห็นได้ชัดว่า เขากำลังทำให้คนอื่นแตกหักกัน จงใจบอกกับหลงเถิงว่าตนไม่มีภูมิหลังใดๆทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ฆ่าได้อย่างสบายใจได้เลย

ซุนซวี่ครุ่นคิด แล้วพูดต่อว่า“เจ้าบ้านหลง สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงครับ แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูของเราต่างรู้ดี เขาเป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลอวี๋เหวิน ไม่มีภูมิหลังอะไร มีแค่พละกำลังเท่านั้น”

“ใช่แล้วๆๆ สิบปีก่อนเขาก็แค่ ลูกที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลอวี๋เหวิน นอกจากพละกำลังแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรเลย”

“เจ้าบ้านหลง คุณอย่ารั้งรออะไรอยู่อีกเลย ถ้าไม่ฆ่าเขา จากนี้เขาจะต้องขึ้นไปขี้บนหัวของคุณแน่ๆ”

“เจ้าบ้านหลง ฆ่าเขาซะเถอะ!”

ทันใดนั้น ซ่งชิงซานและเจ้าบ้านคนอื่นๆในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็ต่างพากันพูดโน้มน้าวเขา

“ใครบอกว่าคุณหยางมีแค่พละกำลัง?”

หวงเจิ้งรีบก้าวออกมา แล้วพูดอย่างโกรธเคือง“คุณหยางยังมีตระกูลหวงของเรา!”

“ยังมีตระกูลเฉินของเรา!”

“นับตระกูลหานของเราด้วย!”

“อย่าลืมว่ายังมีตระกูลกวนของเราด้วยสิ!”

“เพิ่มตระกูลหงของเราด้วย!”

บรรดาเจ้าบ้านที่เป็นรองจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ต่างพาก้าวออกมา

หยางเฉินใช้เพียงไม่กี่กระบวนท่าก็สามารถจัดการยอดฝีมือของตระกูลหลงสำเร็จ สิ่งนี้ทำให้คนของฝ่ายหยางเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจ

พวกเขารู้ดี วันนี้เป็นการพนันของบรรดาเศรษฐี ถ้าพนันชนะ จากนี้ไปเยี่ยนตู พวกเขาจะถือว่าเป็นใหญ่ แต่ถ้าพนันแพ้ พวกเขาก็จะต้องไสหัวออกไป กระทั่งอาจจะต้องทิ้งชีวิตไว้ในเยี่ยนตู

หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร เขาให้เศรษฐีสองฝ่ายประจันหน้ากัน เพียงแต่สายตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เหมือนกับกำลังดูละครอยู่

“ตระกูลของพวกแกน่ะ นอกจากตระกูลหวงแล้ว ตระกูลอื่นๆ เป็นใครแล้วนับประสาอะไรกัน ?”

อวี๋เหวินหัวเอย่างเย้ยหยัน แล้วพูดส่อเสียดว่า“เจ็ดตระกูลในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูร่วมมือกัน ยังต้องกลัวพวกหัวมังกุท้ายมังกรอย่างพวกแกอีกงั้นหรอ?”

“พวกหัวมังกุท้ายมังกรงั้นหรอ?”

จู่ๆหยางเฉินก็หัวเราะขึ้นมา เพียงแต่รอยยิ้มดูมืดมนเล็กน้อย

อวี๋เหวินปิงถึงกับตัวสั่น เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าข้างๆยังมีคนของตระกูลอื่นๆ เขาก็พูดเหมือนตัวเองถูกต้อง“ทำไม?บอกว่าพวกแกเป็นพวกหัวมังกุท้ายมังกร แล้วแกยังไม่ยอมรับอีกงั้นหรอ?”

“ตอนนี้ คนที่ไม่มีภูมิหลังอะไรอย่างผม ก็ทำให้พวกคุณสงบได้ พวกคุณไม่กล้าแตะต้องผมด้วยซ้ำ”

หยางเฉินพูดอย่างยิ้มๆว่า“ผมอยากถามพวกคุณจริงๆ ตกลงใครกันแน่ที่เป็นพวกหัวมังกุท้ายมังกร?”

อวี๋เหวินปิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก ได้เพียงแต่พูดอย่างทั้งอายและโกรธว่า“แกจองหองต่อไปเถอะ เจ้าบ้านหลงไม่ปล่อยแกไว้แน่ ล่วงเกินราชวงศ์ แกมันรนหาที่ตายชัดๆ!”

หยางเฉินไม่ได้สนใจอวี๋เหวินปิงอีก แต่หัวเราะหึๆแล้วมองไปที่หลงเถิงที่เขากำลังเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า“คุณมันน่าเศร้าจริงๆ มาวันนี้ถูกผมเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า พวกตระกูลที่เข้ามาพึ่งพาตระกูลของคุณ คุณแค่ถูกพวกเขายุยงปลุกปั่นให้ต่อกรกับผม แต่พวกเขากลับไม่กล้าแตะต้องผม พวกเขาก็แค่พวกบ้าน้ำลาย”

“เจ้าบ้านหลง คุณว่า ถ้าตอนนี้ผมฆ่าคุณซะ พวกเขาจะแก้แค้นให้คุณไหมนะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน หลงเถิงถึงกับตัวสั่น

ในตอนนี้เอง จู่ๆหยางเฉินก็ปล่อยเท้าของตัวเอง หลงเถิงพลิกตัวกลับมา แล้วลุกขึ้นยืน

เขาออกคำสั่งกับเจ็ดตระกูลเศรษฐีที่อยู่ฝ่ายเดียวกับตนว่า“ผมขอสั่งพวกคุณ ให้ฆ่าไอ้หมอนี่ตอนนี้ซะ ไม่อย่างนั้นจากนี้พวกคุณก็จะเป็นศัตรูของตระกูลหลง!”

ไม่มีใครคาดคิดว่า หยางเฉินจะปล่อยหลงเถิงไป

ยอดฝีมือที่หลงเถิงพามาด้วยทั้งสองคน ถูกหยางเฉินจัดการด้วยตัวคนเดียว

มาวันนี้ มีเพียงการที่คนของทุกตระกูลร่วมมือกันต่อกรกับหยางเฉิน

เพียงแต่ว่า เมื่อสักครู่หยางเฉินแข็งแกร่งมาก มันทำให้ทุกคนตกตะลึง

แม้แต่สุดยอดฝีมือของตระกูลหลง ยังถูกโจมตีภายในครั้งเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับหยางเฉิน นับประสาอะไรกับผู้กล้าในตระกูลอื่นๆล่ะ?

ชั่วขณะหนึ่ง คนของทั้งเจ็ดตระกูล ต่างพากันมองหน้าซึ่งกันและกันไปมา ไม่มีตระกูลไหนยอมออกมาลงมือจัดการกับหยางเฉินเป็นคนแรก

ในทางกลับกัน หวงเจิ้งพาผู้กล้าร้อยกว่าคน มายืนข้างหยางเฉิน

ตระกูลเฉิน ตระกูลหาน ตระกูลกวน ตระกูลหงทั้งสี่ตระกูล ต่างพากันยืนขนาบข้างหยางเฉินทั้งซ้ายและขวา

“ใครกล้าลงมือกับคุณหยาง ตระกูลหวงเราจะเอามันให้ตาย!”

หวงเจิ้งขวางอยู่ข้างหน้าของหยางเฉินอย่างตรงไปตรงมาไม่กลัวใครหน้าไหน แล้วใช้สายตาโกรธเคืองมองไปที่คนของฝ่ายหลงเถิง

“ใครกล้าแตะต้องคุณหยาง ตระกูลเฉินของเราไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่!”

“ใครกล้าแตะต้องคุณหยาง ตระกูลกวนของเราก็จะไม่ปล่อยมันไปเหมือนกัน!”

“ใครกล้าแตะต้องคุณหยาง ถึงตระกูลหานจะต้องสู้จนเหลือคนสุดท้าย ก็จะสู้กับมันจนถึงที่สุด!”

“ถ้าอยากแตะต้องคุณหยาง ก็ให้ข้ามศพของหงซิงผมไปก่อนเถอะ!”