ตอนที่ 1098 การข่มขู่ของอาถิง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่บนเวทีการแข่งขันนั้นก็ได้ปรุงยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

มีส่วนน้อยที่ล้มเหลวและตัดสินใจที่จะยอมแพ้ไป แต่มู่เฉียนซียังคงพยายามปรุงยาเพื่อชัยชนะ

เมื่อเห็นว่าเวลาสิ้นสุดใกล้เข้ามา รอยยิ้มบนใบหน้าของปรมาจารย์จางก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

“เปล่าประโยชน์! มันไม่ทันแล้ว!”

ตุม ตุม ตุม! เมื่อเสียงกลองดังขึ้น ปรมาจารย์จางแทบรอไม่ไหวที่จะขึ้นไปบนเวทีประลองเพื่อประกาศตำแหน่งของบุคคลที่พ่ายแพ้ในการปรุงยา

แต่เขายังไม่ทันได้กล่าวอะไร ก็มีกลิ่นยากระจายออกมาจากในหม้อยาของมู่เฉียนซี จนอบอวลไปทั่วสถานที่แข่งขันหรือแม้กระทั่งกระจายออกไปนอกสถานที่แห่งนี้

เมื่อพวกเขาได้กลิ่นหอมของยานี้ ทุกคนต่างก็ตะลึงงัน

พร้อมกันนั้นพวกเขาก็รู้สึกได้ว่าตนเองนั้นผ่อนคลายลง ความแข็งแกร่งทางพลังจิตวิญญาณก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย

“การรวมกันของวิญญาณสมุนไพร การผสมผสานของวิญญาณสวรรค์ ปาฏิหาริย์ในตำนาน เป็นเรื่องจริง”

“จริงด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นปาฏิหาริย์เช่นนี้”

“สาวน้อยผู้นี้เป็นผู้มีพรสวรรค์พิเศษ”

นักปรุงยาที่หยิ่งยโสมาโดยตลอด แต่ตอนนี้แม้แต่ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเหล่านั้นที่มีชีวิตอยู่มาหลายพันปี เวลานี้ก็ยังต้องชื่นชมหญิงสาวที่สวมชุดสีม่วงผู้นั้นจากก้นบึ้งของหัวใจ

ในขณะที่ทุกคนประหลาดใจ นิรันดร์ยิ้มและกล่าวว่า “ที่รักยังขาดความชำนาญเล็กน้อย! แต่อย่างไรในช่วงเวลาสั้น ๆ สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ข้าก็พอใจมากแล้ว ข้าให้รางวัลดี ๆ กับเจ้าสักหน่อยเอาไหม!”

มู่เฉียนซีปฏิเสธทันทีว่า “ช่างมันเถอะ! ข้าได้รับรางวัลที่ดีที่สุดแล้ว”

นิรันดร์รู้สึกคับข้องใจ “ที่รัก หรือว่าร่างกายของข้ายังคงเทียบไม่ได้กับคำแนะนำการปรุงยา”

“ในเมื่อรู้ ก็อย่าพูดมันออกมาทำให้เจ้าเสียใจเลย!”

นิรันดร์ยิ่งรู้สึกอกหัก “ข้าเจ็บปวดมาก!”

ปรมาจารย์จางดึงสติกลับมาเช่นกัน แม้ว่าเขาเองก็ได้รับประโยชน์เล็กน้อย

แต่บุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เขายอมปล่อยศัตรูอย่างมู่เฉียนซีไปได้

ปรมาจารย์จางกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้ว ผู้ที่พ่ายแพ้ในการปรุงยาเชิญออกจากแท่นปรุงยา”

คนอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนออกไป แต่มู่เฉียนซีกลับไม่ไป

ในขณะที่เวลากำลังจะสิ้นสุดลงนั้น เม็ดยาของนางก็หลอมออกมาสำเร็จแล้วและไม่ได้เกินเวลา

ปรมาจารย์จางกลับจ้องมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “มู่เฉียนซี ทำไมเจ้ายังไม่ไป?”

ทุกคนมองไปที่ปรมาจารย์จางอย่างสงสัย ทำไมต้องให้นางไป?

นางปรุงยาสำเร็จไม่ใช่เหรอ? อีกทั้งยังมีปาฏิหาริย์ที่น่าทึ่งเกิดขึ้นด้วย

มู่เฉียนซีตอบกลับว่า “ข้าไม่ได้เกินเวลา ยาเม็ดของข้าเสร็จตรงเวลา ทำไมข้าต้องไป”

“เห็น ๆ อยู่ว่าหลังจากเวลาหมดแล้ว เจ้าพึ่งจะหลอมยาสำเร็จ”

“ปรมาจารย์จางเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าปรุงยาสำเร็จก่อนหมดเวลาอย่างแน่นอน”

ในขณะที่กลิ่นหอมกระจายออกมานั้น ทำให้ทุกคนสูญเสียสติ และไม่สามารถที่จะตัดสินได้ ในเวลานี้ผู้เฒ่าท่านหนึ่งกล่าวว่า “ปรมาจารย์จาง เจ้าก็อายุมากขนาดนี้แล้วยังใจแคบอีก แม้ว่ามันจะเกินเวลาเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นไร สาวน้อยผู้นี้มีพรสวรรค์ในการปรุงยาเช่นนี้ ถ้านางถูกกำจัดไปในรอบแรก นั่นก็คงน่าเสียดายนัก”

“ใช่! ใช่แล้ว! สามารถเข้าถึงขอบเขตการรวมกันของวิญญาณสมุนไพรได้ ข้านั้นตั้งหน้าตั้งตารอการแสดงต่อไปของนางมาก”

“……”

ผู้เฒ่าเหล่านี้มีตำแหน่งสำคัญในโลกของการปรุงยา

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ชอบอำนาจ หัวหน้านักปรุงยาของตำหนักตงจี๋คงมาไม่ถึงปรมาจารย์จางอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นผู้คนมากมายช่วยพูดให้มู่เฉียนซี ใบหน้าของปรมาจารย์จางก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ

“ความสามารถของมู่เฉียนซีนั้นดีมาก แต่ก็ไม่สามารถแหกกฎได้เพียงเพราะนางมีความสามารถที่ดี เช่นนี้มันไม่ยุติธรรมต่อนักปรุงยาคนอื่น ๆ!”

สิ่งที่เขาพูดมานั้นสมเหตุสมผล แต่นักปรุงยาเหล่านั้นที่แข่งขันกับมู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “มู่เฉียนซีปรุงยาเม็ดเสร็จทันเวลาซึ่งไม่ถือว่าเกินเวลา คู่ต่อสู้เช่นนี้หากต้องพ่ายแพ้ไปในรอบแรก ข้าเองก็คงเสียดายมากเช่นกัน”

“ข้าตั้งตารอที่จะได้เจอกับยอดฝีมือเช่นนี้ในศึกรอบที่สอง”

“……”

แม้ว่าในนี้จะยังมีคนที่หวังให้มู่เฉียนซีซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามออกไปจากการแข่งขันโดยเร็ว แต่ก็กลับมีหลายคนที่ตั้งตารอให้มู่เฉียนซีแข่งขันต่อไป

อย่างไรเสีย พวกเขาก็ยังอยากเห็นขอบเขตการวมกันของวิญญาณสมุนไพรอีกครั้ง

อันดับที่พวกเขาจะได้รับในการแข่งขันนี้มีความสำคัญน้อยกว่าการทำให้การปรุงยาของพวกเขาไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

เพื่อนฝูงและผู้คนมากมายต่างชื่นชมและช่วยมู่เฉียนซีพูดทำให้ใบหน้าของปรมาจารย์จางนั้นมีสีสันเสียยิ่งกว่าจานสีเสียอีก มู่เฉียนซีผู้นี้มีความสามารถนัก

ปรมาจารย์จางมองไปที่ไป๋อู๋ห่าย เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ไป๋อู๋ห่ายเองก็ทำอะไรไม่ได้

ในตอนนี้เอง เฟิงอวิ๋นซิวก็กล่าวว่า “ข้าเฝ้าดูการปรุงยาของเฉียนซีอยู่ตลอด ยาของนางสำเร็จในเวลาเดียวกันกับเสียงกลองสิ้นสุดและนางก็ไม่ได้เกินเวลา”

ปรมาจารย์จางกล่าวว่า “นายน้อยอวิ๋นซิว เจ้าจะช่วยมู่เฉียนซีเพียงเพราะมู่เฉียนซีเป็นเพื่อนของเจ้าไม่ได้”

ในตอนนี้เอง อาถิงก็ยืนขึ้นและดวงตาสีเขียวอ่อนของเขาก็ได้ฉายแววอันตรายขึ้นมา

“ถ้าเจ้ายังพูดพล่อย ๆ ต่อ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะส่งเจ้าไปจากที่นี่ และเปลี่ยนให้กรรมการคนอื่นขึ้นมาคุมการแข่งขันแทน”

ปรมาจารย์จางกล่าวว่า “เจ้าข่มขู่ข้าในที่สาธารณะหรือ?”

“หรือข้าไม่สามารถข่มขู่เจ้าอย่างนั้นรึ?”

พลันนั้นอาถิงก็ได้ใช้พลังจิตวิญญาณอันมหาศาลข่มขู่ปรมาจารย์จาง ทำให้ใบหน้าของปรมาจารย์จางเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดทันที

ตราบใดที่เด็กหนุ่มผู้นี้ต้องการทำร้ายเขาจริง ๆ การใช้พลังวิญญาณก็สามารถทำให้เขาโง่เขลาได้

หมอปีศาจผู้นี้ ช่างน่ากลัวนัก!

ปรมาจารย์จางรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ถ้าเขาลงมือ นายน้อยก็คงไม่สามารถช่วยเขาได้

ปรมาจารย์จางกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะผิดพลาดไป มู่เฉียนซีปรุงยาเสร็จตรงเวลาและไม่จำเป็นต้องออกไป ต่อไปจะเป็นการตรวจสอบเม็ดยา”

เขาไม่เชื่อว่านางจะสามารถปรุงเม็ดยาหลงหลิงออกมาได้จริง

สาวน้อยระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หกสามารถปรุงยาระดับปฐพีขั้นสูงได้ ใครจะเชื่อ?

เมื่อตรวจสอบไปทีละคน ก็มีบางคนผ่าน และก็มีบางคนที่ไม่ได้ปรุงยาตามกำหนดและต้องออกจากการแข่งขันไปทันที

อีกไม่นานก็ถึงตาของมู่เฉียนซีแล้ว

ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาที่ตรวจสอบเม็ดยามองไปที่เม็ดยาของมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ยาหลงหลิง สาวน้อยอย่างเจ้าได้ปรุงยาหลงหลิงจริง ๆ หรือ?”

“เอาเม็ดยามาให้ข้าดูเสียหน่อย!”

หลังจากการตรวจสอบเขาก็เบิกตากว้างและเริ่มประกาศผล!

“มู่เฉียนซีได้หลอมยาเม็ดระดับปฐพีขั้นสูงซึ่งเป็นยาหลงหลิง ด้วยความบริสุทธิ์ หนึ่งร้อยส่วนและมีคุณภาพสมบูรณ์แบบ”

เมื่อประกาศนี้ออกมาก็ทำให้ทั้งสนามการแข่งขันตกอยู่ในความโกลาหล!

“ระดับปฐพีขั้นสูง นางถึงกับหลอมยาระดับปฐพีขั้นสูง ข้าได้ระดับปฐพีขั้นที่เจ็ดก็คิดว่าโชคร้ายมากแล้ว นาง…นางกลับได้อันที่ยากขนาดนี้

“ระดับปฐพีขั้นสูง ความแข็งแกร่งของนางไม่ใช่ว่าเพียงระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หกเท่านั้นหรือ? กลับสามารถปรุงยาระดับปฐพีขั้นสูงได้ นางไม่ใช่มนุษย์แล้วกระมัง!”

“นอกจากนี้นางยังไม่ใช่จอมภูตธาตุไฟอีกด้วย นางทำได้อย่างไร?”

พวกเขาไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีทำได้อย่างไร อาจเป็นเพราะถึงขอบเขตการรวมกันของวิญญาณสมุนไพร ดังนั้นจึงสามารถก้าวข้ามระดับใหญ่ในการปรุงยาเช่นนี้ได้

ปรมาจารย์จางตกใจที่ได้ยินสิ่งนี้และกล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ นางจะประสบความสำเร็จในการปรุงยาได้อย่างไร ข้าไม่เชื่อ เอามาให้ข้าดูสิ!”

เขารีบพุ่งเข้าไปคว้ายาในในมือของยอดปรมาจารย์นักปรุงยาผู้นั้น เพียงตรวจสอบเล็กน้อยก็รู้แล้ว เขาเองก็เป็นนักปรุงยาที่เชี่ยวชาญย่อมรู้ดี

มันเป็นเรื่องจริง…ในตอนนี้ เขาแทบอยากที่จะบดขยี้ยาเม็ดระดับปฐพีขั้นสูงที่ล้ำค่าเม็ดนี้ให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ!

.

.