มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 893
“ไอ้เวร!”

เจ้ายุทธจักรสองคนจากค่ายสว่างถูกสังหาร ซึ่งทำให้ผู้แข็งแกร่งหลายคนในค่ายสว่างโกรธทันที

“บัดซบ กล้าดียังไงมาลอบโจมตีข้า?” บาเค่อตอบโต้และคำรามเมื่อเจ้าใจสถานการณ์ “พวกเจ้ากำลังหาตาย!”

ทันทีที่บาเค่อพูด เหล่าผู้แข็งแกร่งจำนวนมากที่อยู่ด้านค่ายสว่างก็เงียบไปในทันที ก่อนหน้านี้ เขาได้แสดงนักยุทธ์เทพมารทำลายล้างเจ้ายุทธจักรที่ไม่มีใครเทียบได้ในทันที หลายคนยังจำได้อย่างชัดเจน

“อย่าคิดว่ามีเพียงเจ้าคนเดียวที่มีนักยุทธ์เทพมาร”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนต่างมองตามเสียงนั้น เห็นเพียงร่างที่ปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองปรากฏขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์บนร่างกายของเขาราวกับดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ส่องแสงสว่างโลก ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง

“เทพบุตรสุริยา!”

“เทพบุตรมาแล้ว ได้ยินมาว่าเขามีนักยุทธ์เทพมารของเชิ่งถิงด้วย!”

ด้านค่ายสว่างเริ่มปิติยินดีขึ้นมา ความกลัวในใจที่เกี่ยวกับกระบี่เทวมืดก็หายไปในทันที

ร่างของเทพบุตรสุริยาถูกปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์และมองใบหน้าของเขาได้ไม่ชัดเชน เขาถือไฟเทวสีทองไว้ในมือซึ่งเต็มไปด้วยรัศมีของกฎดั้งเดิม

“วูม”

เมื่อได้รับผลกระทบจากออร่าของไฟเทว กระบี่เทวมืดในมือบาเค่อก็บินออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ เต็มไปด้วยออร่ากฎมืดดั้งเดิม ซึ่งต่อสู้กับไฟเทวที่สว่างไสว

“บาเค่อ แม้ว่าเจ้าจะเชี่ยวชาญกระบี่เทวมืด แต่เป็นเพียงเพราะท่านพ่อของเจ้าเป็นเจ้าแห่งตำหนักเทวมืด พูดถึงด้านของความสามารถและความแข็งแกร่ง ในตำหนักเทวมืดมีคนมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า” เทพบุตรสุริยากล่าวอย่างเย็นชา

แม้ว่าจะมีนักยุทธ์เทพมารเหมือนกัน แต่ถ้าต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ บาเค่อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพบุตรสุริยาแน่นอน

แม้ว่าผลการฝึกตนของบาเค่อจะอยู่ที่เจ้ายุทธจักรขั้น 8 เทพบุตรสุริยาเพิ่งอยู่ที่เจ้ายุทธจักรขั้น 7 เท่านั้น แต่ออร่าของเขากลับแข็งแกร่งกว่า บาเค่อหลายเท่า จะเห็นได้ถึงความแข็งแกร่งของเทพบุตรสุริยาคนนี้ สมกับเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกเชิ่งถิง

จะเห็นได้ว่า เทพบุตรสุริยาเป็นผู้แข็งแกร่งที่กดขี่ผู้อื่นอย่างรุนแรงและสมควรได้รับชื่อเสียงของอัจฉริยะอันดับหนึ่งในโลกเชิ่งถิง

สายตาของเทพบุตรสุริยามองไปที่หลัวซิว “เจ้าคือคนที่ฆ่าคู่หมั้นของข้าเหรอ?”

“แล้วไง?” หลัวซิวพูดอย่างราบเรียบ

“ไม่แล้วไง หวังว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดไปได้” เทพบุตรสุริยายิ้มเล็กน้อยโดยไม่โกรธแม้แต่น้อย

เขาโบกมือ เรียกผู้แข็งแกร่งจำนวนมากจากค่ายสว่างมารวมตัวกันรอบๆ ตัวเขา ปกป้องทุกคนด้วยพลังของไฟเทวสว่างแล้วเข้าไปในหลุมดำ

ไม่มีใครคิดว่าเทพบุตรสุริยาจะประพฤติเฉยเมยต่อหน้าฆาตกรที่ฆ่าคู่หมั้นของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจิตใจของเขาไม่ธรรมดามาก

แสงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมร่างกายของเขา เทพบุตรสุริยาเป็นเหมือนที่พำนักของเทพที่ปรากฏมาสู่โลก ผู้แข็งแกร่งหลายคนจากค่ายสว่างรวมตัวกันรอบตัวเขา ภายใต้การคุ้มครองของไฟเทวสว่าง พวกเขาเข้าไปในหลุมดำเพื่อสำรวจซากปรักหักพังโบราณเมืองเทพ

วาโยสะท้านกระดูกเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง แม้แต่เจ้ายุทธจักรที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ไม่กล้าที่จะทะลุผ่านได้ง่ายๆ และผู้แข็งแกร่งหลายคนในด้านค่ายมืดก็มองไปยังบาเค่อ

เพราะในค่ายมืดมีเพียงบาเค่อเท่านั้นที่มีนักยุทธ์เทพมาร-กระบี่เทวมืดอยู่ในมือ

“บาเค่อ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเอริค ดังนั้นข้าคิดว่าเจ้าควรปล่อยสิทธิ์การครอบครองกระบี่เทวมืดออกมาพลังของกระบี่เทวมืด”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ผู้พูดเป็นชายในชุดรัดรูปสีดำที่มีสร้อยคอโครงกระดูกสีขาวห้อยอยู่ที่คอของเขา

“เลิร์น เจ้าหมายความว่ายังไง?” สีหน้าบาเค่อขรึมลง

“ความหมายของข้าชัดเจนมาก ในสานการณ์ที่มีนักยุทธ์เทพมารอยู่ในมือเหมือนกันเจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเอริค ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในค่ายมืดของเรา เจ้าต้องปล่อยสิทธิ์ในการใช้กระบี่เทวมืดออกมา” ชายที่ชื่อเลิร์น กล่าวอย่างเย็นชา