บทที่ 1063 โดนหลอกฆ่าทั้งหมด

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1063 โดนหลอกฆ่าทั้งหมด
“สามารถติดต่อเหย้ม่อได้แล้ว”

เมื่อออกจากวิหารปีศาจ เหย้เฉินก็ติดต่อเหย้ม่อได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อติดต่อได้แล้ว เหย้เฉินพูดด้วยความกังวลใจ:”ครั้งนี้มีคนเข้ามาจำนวนมาก นอกจากตระกูลพิทักษ์ปกป้องกับสำนักพิฆาตมังกร หุบเขาหมื่นบุปผา สำนักชิงหยาง ตระกูลสวี่ ตระกูลโจว ตระกูลเฉียน ตระกูลซวี่แล้ว ตระกูลลี้ลับก็มาด้วย พวกเขามาเพื่อแย่งโอกาสครั้งนี้”

“ฉันเป็นคนที่รังแกได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เย่เซิ่งเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา ตอนแรกเขาแค่อยากจะหลอกฆ่าพญาดำเท่านั้น คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้

“มาพร้อมกันก็ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาทีละสำนัก มีสำนักและตระกูลใหญ่ๆต่างแอบส่งคนมาฆ่าเขา คนที่โดนโจวเฉินสังหารนั้น ต่างเป็นของตระกูลและสำนักเหล่านี้”

เหย้เฉินคาดเดาความคิดของเย่เซิ่งเทียนออก

หลังจากรู้สึกเหลือเชื่อแล้ว จู่ๆเขาก็รู้สึกหวาดกลัวทันที

เย่เซิ่งเทียนคิดจะฆ่าล้างทุกคนเหรอ!

ตระกูลเยอะขนาดนี้ คนที่มาที่นี่ต่างเป็นยอดฝีมือแดนทะลุเทพเก้าวัง

โดยเฉพาะคนที่มาเพื่อแย่งโอกาสและสมบัติล้ำค่านั้น ต่างเป็นยอดฝีมือแดนทะลุเทพเก้าวัง

ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนฝึกฝนถึงแดนทะลุเทพเก้าวังแล้ว แต่คนเยอะขนาดนี้ พวกเขามาเพื่อต่อสู้กับเย่เซิ่งเทียน

ถ้าคนพวกนั้นร่วมมือกัน เขาจะรับมือยังไง?

ยังไม่ต้องพูดถึงคนของสรวงสวรรค์ที่กำลังเฝ้าจับตาดูอยู่

สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเลย

“ต้องโจมตีทีละคน แต่ถ้าทำแบบนี้ก็จะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว”

เหย้เฟิงเงียบไปสักพัก เขาไม่รู้จริงๆว่าจะพูดอะไรออกมา

หลายพันปีที่ผ่านมา คนที่โดนยอดฝีมือเยอะขนาดนี้ไล่ฆ่านั้น คงมีแต่เย่เซิ่งเทียนเพียงคนเดียวเท่านั้น

เด็กหนุ่มคนนี้ใจกล้ามากๆ

จนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้คิดจะหนีเพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ แต่คิดจะฆ่าล้างทุกคนให้ตาย

เขาเป็นคนที่ชอบฆ่าคนจริงๆ!

“ไปหาพญาดำก่อน ไอ้พวกอยู่มาหลายพันปีแต่ก็ทำไม่สำเร็จ และพยายามอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้อย่างเปล่าประโยชน์ คิดว่าพวกเขาจะทำสำเร็จเหรอ? พวกเขาเป็นแค่พวกเศษสวะเท่านั้น”

เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยความนิ่งสงบ:”จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่หรือสุดยอดฝีมือ ทุกคนต่างแข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังของตัวเอง? ทุกคนต่างผ่านพ้นอุปสรรคจนทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น? สำหรับสุดยอดฝีมือนั้น ถ้าไม่สู้ตาย ถ้าไม่สำเร็จ พวกเขาไม่อยู่รอดอย่างไร้ประโยชน์แน่นอน”

“คนเหล่านี้ เมื่อเผชิญหน้ากับอุปสรรค พวกเขาจะถอยหนี ตอนนี้พวกเขากล้าแลกชีวิตเหรอ? พวกเขาอยู่มาหลายพันปี พวกเขาต้องการเป็นเทพเท่านั้น เป็นเทพก็เพื่ออายุยืนยาวขึ้น ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน พวกมันจะกล้าแลกชีวิตกับฉันไหม!”

คำพูดนี้ทำให้เหย้เฉินและคนอื่นๆรู้สึกเขินอาย เพราะสมัยก่อนพวกเขาก็เลือกวิธีเก็บซ่อนพลังของตัวเองเอาไว้

พวกเขาเก็บซ่อนพลังมาจนถึงตอนนี้ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย สถานการณ์ตอนนี้แย่กว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำ

บางทีเย่เซิ่งเทียนอาจจะพูดถูก

คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน พวกก็ทำสำเร็จอยู่แล้ว

คนที่ทำพลาด ถึงแม้จะให้โอกาสกับเขาอีกครั้ง เขาก็คงคว้าโอกาสนั้นไว้ไม่ได้

“ทางฝั่งสรวงสวรรค์มีการเคลื่อนไหวหรือยัง?”

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เย่เซิ่งเทียนได้กลายเป็นผู้นำของพวกเขาไปแล้ว

เขาสั่งการเรื่องต่างๆได้อย่างง่ายดาย

และเหย้เฉินกับคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้มองเห็นปัญหาเรื่องนี้เลย

“ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ตระกูลต่างๆเข้ามาและแยกทางกัน ไม่สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาต้องมาที่วิหารปีศาจและลอบสังหารพวกเรา……”

เหย้เฉินพูดไปพูดมาจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก

ถ้าทางฝั่งพวกเขามีคนคอยช่วยเหลือ พวกเขาก็คงไม่ต้องโดนบีบถึงขนาดนี้อยู่แล้ว

ไม่มีโอกาสลอบสังหารอยู่แล้ว ถ้าทำจริงๆตัวเองอาจจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบและโดนฆ่าก็ได้

จู่ๆเหย้เฟิงก็เอ่ยปากพูด:”ถ้านายพลโจวลงมือด้วย อาจจะมีโอกาสก็ได้”

ตอนนี้โจวเฉินยังสามารถใช้พลังของแดนเทพได้อยู่

ถึงแม้จะใช้พลังแดนเทพได้ไม่นาน แต่สังหารคนบางส่วนได้สบายๆอยู่แล้ว