บทที่ 1065 แผนการ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1065 แผนการ
“ไอ้เฒ่าพวกนี้ พวกมันบ้าไปแล้ว! เพื่อเป็นเทพให้ได้ แม้แต่บรรพบุรุษก็ไม่เอาแล้ว!”

เหย้หมิงด่าออกมาด้วยความโกรธ

ในเวลานี้ตระกูลโม่กล้าไปที่เมืองโบราณตระกูลโม่ ไม่กังวลเรื่องประหลาดที่อยู่ด้านใน มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว?

ตระกูลโม่เป็นหนึ่งในตระกูลทรยศ

เมื่อก่อนตระกูลต่างๆระแวงซึ่งกันและกัน เพราะไม่รู้ว่าตระกูลไหนเป็นตระกูลทรยศ

แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนต่างเข้าใจดี ตระกูลไหนที่กล้าไปเมืองโบราณ ตระกูลนั้นต้องเป็นตระกูลทรยศ!

เพราะเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นในเมืองโบราณมาจากโลกชูร่า

หลังจากผนึกสวรรค์แล้ว ในโลกมนุษย์ไม่สามารถกำจัดพลังประหลาดพวกนั้นได้อีก ดังนั้นใครที่สามารถกำจัดพลังประหลาดพวกนั้นได้ มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันโลกชูร่า!

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้พูดอะไรอีก

ตระกูลลี้ลับเน่าเฟะมาตั้งนานแล้ว

ครั้งนี้ถ้าเขากลับไป มันก็ถึงเวลาจัดการปัญหาของตระกูลลี้ลับแล้ว

ยุคแห่งการแย่งชิงมาถึง ยังมีโลกชูร่าที่หาโอกาสเข้ามาในโลกมนุษย์อีก

ไม่ว่าประเทศอื่นจะเป็นยังไง แต่เย่เซิ่งเทียนจะต้องปกป้องประเทศต้าเซี่ยให้ได้

และเส้นทางของโลกชูร่าอยู่ในประเทศต้าเซี่ยด้วย นี่คือความหายนะชัดๆ

ในบริเวณของไท่ซางนั้น จำเป็นต้องกำหนดมันเป็นเขตหวงห้าม

ทั่วทั้งประเทศต้าเซี่ย ต้องเป็นเขตหวงห้ามของเทพมาร!

นี่คือความคิดในเวลานี้ของเย่เซิ่งเทียน

สำหรับประเทศอื่นๆนั้น ต้องดูความคิดของหยางทาวก่อน

ถ้าประเทศอื่นๆอยากจะให้เขาลงมือช่วยเหลือ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้อยู่แล้ว

แต่ต้องยอมรับประเทศต้าเซี่ยกลายเป็นผู้นำ!

ถ้าไม่ยอมรับประเทศต้าเซี่ยกลายเป็นผู้นำ เขาก็ไม่อยากจะไปสนใจประเทศนั้นๆอยู่แล้ว

พวกเขาจะเป็นหรือตายก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง

แน่นอนว่าต้องกำจัดสรวงสวรรค์กับตระกูลลี้ลับให้ได้ก่อน มิฉะนั้นเรื่องเหล่านี้ก็เป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝัน

“ดูเหมือนพวกเขาน่าจะเข้าไปแล้ว”

เมื่อมาถึงทะเลสาบแห่งหนึ่ง เหย้เฉินก็พูดกับเย่เซิ่งเทียน

เมืองโบราณทั้งเจ็ดในช่วงผนึกสวรรค์นั้น เนื่องจากมีพลังอันตรายพวกนั้นออกมาจากโลกชูร่า ทำให้เมืองต่างๆจมลงไปด้านล่าง

ส่วนทางเข้าของเมืองโบราณตระกูลโม่นั้น มันอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้

“เข้าไปเถอะ ไปฆ่ายอดฝีมือของตระกูลโม่ก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน”

เย่เซิ่งเทียนเข้าใจจำนวนและพลังของยอดฝีมือตระกูลโม่พอสมควรแล้ว

มียอดฝีมือแดนทะลุเทพเก้าวังจำนวนสามคน แบ่งเป็นโม่จงกับโม่ฉองและโม่หยุน ส่วนยอดฝีมือที่ต่ำกว่าแดนทะลุเทพเก้าวังอยู่หลายคนเช่นกัน

นี่คือพลังที่แท้จริงของตระกูลลี้ลับ

หลบซ่อนมาหลายพันปี ถ้าไม่มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เย่เซิ่งเทียนไม่เชื่ออยู่แล้ว

สมัยนั้นตระกูลเซียวมียอดฝีมือแดนทะลุเทพเก้าวังเพียงคนเดียวก็คือเหล่าจู่ตระกูลเซียว แต่พลังของเขายังฝึกฝนไม่ถึงแดนทะลุเทพเก้าวังเลย

เรื่องนี้ทำให้เขาสงสัยมากๆ ยอดฝีมือของตระกูลเซียวหายไปไหนหมดแล้ว

ภายหลังเขาถึงได้รับรู้ ยอดฝีมือของตระกูลเซียวโดนตระกูลเหย้กับตระกูลอื่นๆร่วมมือกันและสังหารอย่างลับๆ

นี่ก็คือเหตุผลหลักที่เย่เซิ่งเทียนยอมร่วมมือกับตระกูลเหย้

ถึงแม้ก่อนหน้านี้ตระกูลเหย้ไม่รักษาสัจจะ แต่ถ้าไม่มีตระกูลเหย้ เขาก็คงโดนยอดฝีมือของตระกูลเซียวไล่ฆ่าจนเสียชีวิตไปแล้ว

เพราะเขาในตอนนั้นก็ฝึกฝนถึงแดนสะพานเทพเท่านั้น

“ระมัดระวังตัวหน่อย ด้านในเมืองโบราณเต็มไปด้วยพลังที่อันตรายมากๆ เมืองโบราณของแต่ละตระกูลต่างมีค่ายกลป้องกันอยู่ ถ้าค่ายกลทำงาน ด้วยพลังของพวกเราในตอนนี้รับมือไม่ไหวอยู่แล้ว”

ดูเหมือนเหย้เฟิงจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากกว่าคนอื่น

ในเวลานี้ เหย้เฉินกับเหย้หมิงเดินตามอยู่ด้านหลังเหย้เฟิง

“สหายน้อยเย่ ให้เหย้เฟิงเป็นคนนำทางก็แล้วกัน เพราะเขาเข้าใจค่ายกลมากกว่าพวกเรา เขาศึกษาค่ายกลมานานแล้ว ถ้าเขาคิดว่ามันอันตราย พวกเราก็ไม่ควรเข้าไป”

เหย้เฉินอธิบายให้เย่เซิ่งเทียนฟัง

“โอเค”

เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง

ทุกคนมีด้านที่ตัวเองถนัด โดยเฉพาะด้านค่ายกลนั้น เย่เซิ่งเทียนไม่ค่อยเข้าใจมันเลย

และเขาก็ไม่ค่อยรู้จักค่ายกลโบราณพวกนี้ด้วย

ถ้าเกิดเรื่องผิดพลาด พวกเขาต้องตายอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน!

ห้ามชะล่าใจโดยเด็ดขาด

เหย้เฟิงเดินเข้าไปคนแรก เขาระมัดระวังตัวมากๆ

“รีบๆเก็บซ่อนพลังของตัวเอง ดูเหมือนคนของตระกูลโม่จะใจกล้ามากๆ พวกเขาคงคิดว่าไม่มีใครรู้แผนการของพวกเขา และในเส้นทางนี้ไม่มีคนเฝ้าอยู่เลย”

เหย้เฟิงโล่งอกทันที ถ้าคนของตระกูลโม่เฝ้าเส้นทางนี้อยู่ มันคงกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน

“พวกเขาไม่กังวลพลังอันตรายที่อยู่ด้านในเหรอ?”

จู่ๆเย่เซิ่งเทียนเอ่ยปากพูด

เหย้เฉินอธิบาย:”พลังอันตรายนั้นมีแค่ในเมืองเท่านั้น นอกเมืองไม่ได้รับผลกระทบเลย ถ้าต้องการฆ่าคนของตระกูลโม่ พวกเราต้องฆ่าพวกเขาตอนที่อยู่นอกเมือง ถ้าพวกเขาเข้าไปในเมือง พวกเราก็จนปัญญาจริงๆ”

เป็นอย่างนี้นี่เอง

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เขามองเส้นทางนี้อย่างละเอียด

ผ่านไปไม่นาน จู่ๆด้านหน้าก็เปิดโล่ง ด้านหน้ามีเมืองขนาดใหญ่ปรากฏ เย่เซิ่งเทียนมองจนอึ้งไปเลย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองเห็นเมืองที่ใหญ่ขนาดนี้!