บทที่ 877 ดูสิ สุดท้ายฉันก็ชนะ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

เขาก้มหัวลง เสียงหัวเราะที่มีความแหบแห้ง ฟังแล้วราวกับใบมีด มันคมและแสบไปถึงแก้วหูจนรู้สึกเจ็บ

“เพราะฉะนั้น เขาก็ยังคงเลือกทำเพื่อปกป้องตัวเอง?”

“เธอ……”

“ฉันจะบอกอะไรให้นะเปรมชัย ถ้าหากเขาอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดจริงๆ งั้นเขาก็ควรมาพบฉันด้วยตัวเอง ไม่ใช่เหมือนตอนนี้ ส่งหมาอย่างพวกแกมาแทน มาหลอกล่อฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า มาบังคับฉัน เข้าใจหรือยัง?”

ประโยคสุดท้ายนี้ น้ำเสียงของเด็กหนุ่มไม่ได้เกรงใจอะไรแล้ว สายตาที่จ้องมา ก็เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม

ทันใดนั้นเปรมชัยก็โกรธจนหน้าเขียว!

ไอ้เดรัจฉานนี่ กล้าดียังไงมาด่าว่าเขาเป็นหมา?!!

เขาลุกขึ้นมาทันที “ปาเวซ จะมากเกินไปแล้วนะ เดิมทีฉันเห็นแก่ที่มองแกมาตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งใจมาโน้มน้าวแก แต่แกกลับไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง รู้ไหมว่าถ้าพ่อแกมาที่นี่ มันหมายความว่าอย่างไร?”

“เหอะเหอะ……”

ปาเวซหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้น ไม่ตอบอะไรกลับไป

หมายความว่าอย่างไร?

ก็ต้องตายแน่นอนอยู่แล้วสิ!

แต่ว่า ตอนนี้เขาให้ไอ้หมาพวกนี้มาผลัดกันโน้มน้าวเขา ถ้าเขาบอกไป เขาก็ไม่ต้องตายงั้นหรือ?

ปาเวซไม่เคยรู้สึกตลกมากขนาดนี้มาก่อน

สุดท้ายเปรมชัยก็เดินจากไปด้วยความโกรธ ผ่านไปสองชั่วโมง เพราะด้านนอกไวท์ พาเลซเกิดความวุ่นวายโกลาหลหนักมากเกินไป สุดท้ายไวท์รอนก็ต้องมาด้วยตัวเอง

เขาคือชายวัยกลางคนที่ดูสุภาพเรียบร้อยอย่างมาก

เพียงแต่ว่า ภายใต้ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนสุภาพนั้น คาแรคเตอร์ที่เย็นชาเคร่งขรึมนั้น กลับทำให้ผู้ที่ได้พบเขารู้สึกเข้มงวดกวดขันและเกรงใจเขา

คาดว่า นี่คืออำนาจของผู้ที่เป็นผู้นำสูงสุดอย่างเขา!

“ฉันมาละ พูดสิ”

เมื่อเขาเข้ามา ก็ไม่ได้พูดอ้อมโลกแต่อย่างใด จ้องไปยังลูกชายที่ยังคงขดตัวอยู่บนพื้นแล้วพูดขึ้นด้วยความเย็นชาทันที

ปาเวซขยับร่างกาย ค่อยๆลืมตาขึ้นมา

เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เดิมทีก็เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายอยู่แล้ว แล้วยังถูกทรมานทั้งคืน เขาจะทนไหวได้อย่างไร?

เขามองพ่อของเขาที่ในที่สุดก็ปรากฏตัวอยู่หน้าเขาอย่างชัดเจน เขาแสยะยิ้ม แล้วใช้แรงทั้งหมด ดันตัวขึ้นจากพื้น ค่อยๆคลานขึ้นมานั่ง

“ในที่สุดก็ยอมมาแล้วหรือ?”

“……”

เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่พอใจ ชายวัยกลางคนคนนี้รู้สึกรำคาญใจมากกว่าเดิม

“อย่าทำให้มันยุ่งยาก รีบพูดซะ!”

“เหอะเหอะ……” ปาเวซหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่า ในครั้งนี้ เขาหัวเราะไม่ได้นาน เพราะเสียงหัวเราะนี้ได้ไปสะเทือนอวัยวะภายในตรงช่องท้องตรงที่เสียหายไป

เขาหลับตาลง กลืนเสลดที่อยู่ตรงกล่องเสียงลงไป

“ได้ ถ้างั้นจะบอกให้ สิ่งที่ผมทำไปทั้งหมด ที่จริงล้วนเป็นเจตนาของคุณ”

“พูดอะไรของแก? เจตนาของฉัน?”

“ใช่ คุณลืมไปหรือ? หมากที่คุณใช้จัดการลดกำลังอำนาจของตระกูลเทวเทพอย่างลับๆมาตลอด ก็คือผมไงล่ะตั้งแต่ที่คุณตัดกำลังอำนาจอันกว้างขวางของตระกูลเทวเทพ จนมาถึงผู้ฝังชิปในตอนนี้ ก็ล้วนเป็นเจตนาของคุณไม่ใช่หรือ?”

ราวกับปีศาจร้าย เด็กหนุ่มคนนี้นั่งมองพ่อของตัวเองอยู่บนพื้น จู่ๆก็หัวเราะแล้วพูดเรื่องที่ชวนให้ขนหัวลุกขึ้นมาออกมา

ไวท์รอนช็อกเหมือนโดนฟ้าผ่า!

นี่คือความลับสุดยอดของเขา หลายปีมาแล้ว เพื่อกำจัดตระกูลเทวเทพ ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้กับคนอื่นมาก่อน เขาเชื่อว่าตนเองไร้ที่ติ

แต่ว่า เขาคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ลูกชายของเขาบอกกับเขาว่า สิ่งที่เขาจัดแจงมาทั้งหมด หลายปีมานี้ ล้วนเป็นเขาที่ทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แทนตัวเอง!

ไวท์รอนไม่มีทางเชื่อเรื่องแบบนี้แน่นอน

“ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่?”

“ไม่เข้าใจหรือ? ได้ ถ้างั้นผมจะบอกให้ฟัง”

ปาเวซไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าพ่อไม่เชื่อ จึงอธิบายขึ้น

“คนที่คุณหา อยู่ที่โรงน้ำชาแห่งหนึ่งในยูยฝง ที่นั่น ทั้งที่เป็นโรงน้ำชา แต่ความจริงมันคือสถานที่วางแผนการจัดการของคุณ คนที่ชอบสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคนนั้น แถมยังชอบวาดรูปดื่มชา ปกติเวลาเขาไม่มีธุระ ก็จะทำการวิเคราะห์รูปภาพสายสัมพันธ์เครือญาติของตระกูลเทวเทพที่แปะอยู่เต็มผนังทั้งสี่ด้าน ใช่ไหม?”

“……”

“เขาทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงแทนคุณอยู่ที่นั่น และคนที่ไปทำให้สำเร็จแทนเขา ก็เป็นเหล่าคนชุดดำที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงอีกทีหนึ่ง ตอนที่พวกเขามาพบเขา จะคุกเข่าข้างเดียวอยู่หลังม่านในห้องนอนของเขา จากนั้นก็รอเขาออกคำสั่ง ถูกไหม?”

“แต่ว่า เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าเหล่าคนชุดดำ ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้น มีเพียงคนเดียว”

หลังจากเด็กหนุ่มคนนี้พูดจบ ทันใดนั้น เขาก็เปิดแขนของตัวเอง ต่อหน้าพ่อ

ไวท์รอนตกใจอีกครั้ง

กลับพบว่า กระดูกข้อต่อที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน นิ้วเรียวยาวราวที่ขาวกับหยกขาว เมื่อเปิดออกมา ทันใดนั้น เขาก็ใช้มือขวาไปจับนิ้วก้อยข้างซ้ายไว้

ไวท์รอน “……”

ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้ยินเสียงแกร๊กดังขึ้น ลูกชายคนนี้ได้หักนิ้วก้อยของตัวเองหักทั้งอย่างนั้น

“ทำอะไรของแก? บ้าไปแล้วหรือไง?”

ในที่สุดสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป รีบพุ่งตัวเข้ามาทันที เขาห้ามลูกชายด้วยความตกใจและความโกรธ

“ไม่ต้องห่วง นี่มันของปลอม นิ้วของผม ได้ถูกตัดทิ้งไปเพราะทำงานไม่สำเร็จที่โรงน้ำชานั้นตั้งนานแล้ว”

เด็กหนุ่มที่ใบหน้าซีดเซียวจนน่าตกใจ เมื่อเห็นภาพนี้ ก็ยิ้มออกมา