“สวนเล็กๆ แต่ดูทิวทัศน์ต่างออกไป!”
หยางเฉินยิ้มเบาๆ แล้วก้าวไปข้างหน้า
จุดสามจุดของปืนสไนเปอร์ไรเฟิล ยังคงเล็งอยู่ที่หัวของเขา แต่เขากลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย เอามือสองข้างไพล่หลัง ก้าวไปข้างหน้า
“เบอร์สอง!เบอร์สาม!หมายเลขหนึ่งไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้!”
“เบอร์หนึ่ง!เบอร์สาม!เบอร์สองไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้!”
“เบอร์หนึ่ง!เบอร์สอง!เบอร์สามไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้เหมือนกัน!”
ในขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบของคฤหาสน์ มือปืนทั้งสามคนที่ยืนอยู่ในที่ต่างกัน ต่างพากันพูดกับหูฟัง ในน้ำเสียงของทุกคน ล้วนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ทั้งๆที่หยางเฉินเดินอย่างสบายๆ ไม่รีบไม่ร้อน แต่ทุกก้าวที่เขาเดิน ล้วนหลีกเลี่ยงจุดสีแดงของปืนสไนเปอร์ไรเฟิลอย่างเหมาะเจาะ
เดิมทีมันเป็นสภาพการณ์ที่เอื้อแก่มือปืน แต่ในการก้าวเท้าของหยางเฉิน กลับทำให้มือปืนไม่สามารถล็อกเป้าหมาย
จวบจนวินาทีนี้ มือปืนทั้งสามคนพึ่งรู้ตัวว่า พวกเขาพบเข้ากับยอดฝีมือเข้าให้แล้ว
ซุนซวี่ที่อยู่ในคฤหาสน์ ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกทั้งหมด
หลังจากที่ได้รู้ว่ามือปืนชุดขาวที่เอาปืนจ่อหัวหยางเฉิน ได้ถูกหยางเฉินหักมือทั้งสองข้าง เขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากที่หยางเฉินก้าวเข้ามาในสวน มือปืนซุ่มยิงสามคนไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้ มันทำให้เขายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น
“คุณชายครับ เขามาแล้ว!เขามาแล้วครับ!เขาต้องฆ่าผมแน่ๆ คุณจะต้องช่วยผมนะครับ ช่วยผมด้วยนะครับ!”
“เขาสามารถหลบได้แม้แต่กระสุน กระทั่งทำให้มือปืนซุ่มยิง ไม่สามารถล็อกเป้าหมายของเขาได้”
“เขาไม่ใช่คนแล้ว ไม่ใช่คนจริงๆ ถ้าให้เขาเข้ามาในคฤหาสน์ จะต้องทำให้เราตายแน่ๆ คุณชายเฉา เราต้องรีบหนีแล้วครับ!”
เมื่อเห็นว่าหยางเฉินกำลังจะเข้ามาในคฤหาสน์แล้ว ซุนซวี่จะร้องไห้อยู่แล้ว เขาคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน ต่อหน้าของเฉาจื้อ
เฉาจื้อขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า“ยังไม่เห็นแม้แต่คนเลย แกก็ตกใจกลัวไปก่อนแล้วงั้นหรอ?”
“ซุนซวี่ แกขี้ขลาดตาขาวขนาดนี้ ฉันผิดหวังกับแกมากจริงๆ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของซุนซวี่ ซุนซวี่ก็สั่นไปทั้งตัว ถึงได้พึ่งรู้สึกตัวว่า เฉาจื้อผู้เป็นทายาทบ้านที่สามของตระกูลเฉาแห่งราชวงศ์ยังอยู่ที่นี่ทั้งคน
แกทั้งเฉาจื้อยังพาผู้แข็งแกร่งของตระกูลเฉามาด้วยตั้งสองคน ถึงหยางเฉินจะเก่งกาจแค่ไหน ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งของตระกูลเฉาหรอกมั้ง?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซุนซวี่ถึงค่อยๆโล่งอก
เพียงแต่เรื่องที่ขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลซุน มันทำให้เขาตกตะลึง ถึงจะมีการคุ้มครองจากเฉาจื้อ แต่เขาก็ยังกลัวมากอยู่ดี
“คุณชายเฉา หยางเฉินเก่งมากจริงๆนะครับ เรายังต้องรับมืออย่างระมัดระวังนะครับ!”
ซุนซวี่สงบลง แต่ยังอดที่จะเตือนไม่ได้
มุมปากของจื้อแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย“แค่การแสดงออกของเขาเมื่อกี้เนี่ยนะ มันทำให้คาดไม่ถึงจริงๆนั่นแหละ แต่ถึงเขาจะเก่งแค่ไหน ต่อหน้าฉัน เขาก็ต้องก้มหัวอยู่ดี!”
“ปึ้ง!”
ในตอนนี้เอง ประตูของคฤหาสน์ก็ล้มลงกับพื้น
หยางเฉินมาแล้ว!
ซุนซวี่กลัวจนเหงื่อออก แต่เฉาจื้อกลับใจเย็นมาก เขายังคงนั่งอยู่บนโซฟา ในมือถือแก้วไวน์ ในแก้วเต็มไปด้วยไวน์แดงราคาสูง เขาเขย่าไปมา
“ไอ้หนุ่ม ฉันรอแกมานานแล้วล่ะ!”
เมื่อเห็นหยางเฉิน เฉาจื้อก็พูดอย่างยิ้มๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
แต่เมื่อหยางเฉินได้เห็นเฉาจื้อ เป็นชายหนุ่มที่อายุมากกว่าตนเองไม่เท่าไร ใบหน้าภาคภูมิใจ ท่าทีเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก
ด้านหลังของเฉาจื้อ มีบอดี้การ์ดชุดดำยืนขนาบข้างทั้งซ้ายและขวา กำลังจ้องมองมาที่หยางเฉินอย่างดุดัน
หยางเฉินมองไปที่เฉาจื้ออย่างเรียบเฉย ไม่สนใจอะไร จู่ๆสายตาของเขาก็ไปตกอยู่ที่ซุนซวี่
เมื่อเห็นว่าหยางเฉินมองมาที่ตนเอง ซุนซวี่ก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้ เขาหลบสายตาเล็กน้อย
“เจ้าบ้านซุน คุณติดผมสองหมื่นล้าน คุณคิดจะเบี้ยวงั้นหรอ?”
หยางเฉินหรี่ตาถาม
ในระหว่างที่พูด เขาก็เดินไปที่ตรงหน้าของเฉาจื้อ แล้วนั่งลงไป
เขาทำเหมือนกับอยู่บ้านของตัวเอง หยิบแก้วไวน์ออกจากถาด แล้วหยิบขวดลาฟิตที่เปิดแล้วขวดหนึ่ง รินใส่แก้วให้ตัวเองจนเต็มแก้ว
เขาชูแก้วขึ้นมาแล้วจิบเบาๆ แล้วขมวดคิ้ว“รสชาติไม่บริสุทธิ์ องุ่นที่ใช้หมัก ต้องเป็นปีที่เป็นหน้าฝนแน่ๆ”
เมื่อเห็นท่าทีนิ่งสงบของหยางเฉิน ขาทั้งสองข้างของซุนซวี่ก็เกิดอ่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเฉาจื้ออยู่ที่นี่ เกรงว่าเขาคงล้มไปกับพื้นแล้ว
“ไอ้หนุ่ม เหล้าของฉันแพงมากนะ แกจะดื่มๆจริงหรอ?”เฉาจื้อพูดอย่างยิ้มๆ สายตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด
หยางเฉินมองไปที่เฉาจื้ออย่างเรียบเฉย แล้วหยิบเหรียญออกมาหนึ่งหยวน โยนไปที่เท้าของเฉาจื้อ
เสียงดัง“ติ๊ง” เหรียญตกไปที่พื้นข้างๆเฉาจื้อ หลังจากกลิ้งไปมาหนึ่งรอบ ก็กลับมาที่เท้าของเฉาจื้ออีกครั้ง
ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของเฉาจื้อชะงักทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
ซุนซวี่กลัวมาก ถึงแท้หยางเฉินกับเฉาจื้อจะไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ลงมือ แต่บรรยากาศกลับกดดันมากๆ
กดดันจนซุนซวี่ไม่กล้าหายใจแรง สองขาอ่อนยวบ กำลังสั่นสะท้าน
“เงินหนึ่งหยวน ไม่รู้ว่าพอไหม?ถ้าไม่พอ เดี๋ยวผมให้เพิ่มอีกหนึ่งหยวน”
ใบหน้าของหยางเฉินติดตลก แล้วจ้องมองไปที่เฉาจื้อด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆ!”
เฉาจื้อหัวเราะเสียงดัง รอยยิ้มบนใบหน้ากลับมาอีกครั้ง จู่ๆเขาก็ชูแก้วให้กับหยางเฉิน“คุณคู่ควรดื่มเหล้ากับผม ผมเลี้ยงคุณเอง!”
“ซู่ซ่า!”
พูดจบ เฉาจื้อก็เทเหล้าลงกับพื้น ราวกับกำลังแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต
ความหมายชัดเจนมาก นั่นก็คือหยางเฉินได้ตายไปแล้ว
บอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเฉาจื้อ ตอนนี้รู้สึกประหม่ามาก เดินเข้าไปใกล้เฉาจื้ออย่างไม่รู้ตัว กลัวว่าหยางเฉินจะลงมือกะทันหัน
หยางเฉินไม่ได้โกรธอะไร ยังคงปั้นหน้ายิ้ม ขยับร่างกาย เปลี่ยนท่านั่งที่สบาย
“คุณชายเฉากำลังเคารพบรรพบุรุษหรอคับ?แค่ว่า ผมแซ่หยาง เหมือนกับไม่เกี่ยวข้องอะไร กับบรรพบุรุษของคุณชายเฉานะครับ”
หยางเฉินหรี่ตาพูด
ไม่ว่าเฉาจื้อจะใจเย็นแค่ไหน ก็ถูกคำพูดของหยางเฉินทำให้โกรธอยู่ดี
เพียงแต่ว่า เขาแค่ถูกทำให้โกรธ สีหน้าบนใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่กลับไม่มีคำสั่งใดๆทั้งสิ้น
“ไอ้หนุ่ม ฉันต้องขอยอมรับจริงๆ ว่าฉันดูถูกแกไป สำหรับคนวัยอย่างแก ถือว่าแกเป็นพี่ใหญ่”
จู่ๆเฉาจื้อก็เอ่ยปากพูด
ฟังดูเหมือนยอมรับในตัวหยางเฉิน แต่ท่าทียังคงสูงส่ง เขาจ้องไปที่หยางเฉินแล้วกล่าวว่า“ในเมื่อแกกล้ามาที่นี่ งั้นฉันก็จะไม่อ้อมค้อมกับแกอีก จากนี้ไปตระกูลซุน ฉันจะคุ้มครองเอง”
พูดจบ เขาก็หยิบเอกสารหลายแฟ้มออกมา แล้วทำสัญญาณ“ไม่เพียงแต่เท่านี้ ทุกอย่างในตระกูลซุน เป็นของฉันเฉาจื้อแต่เพียงผู้เดียว”
“นั่นก็หมายความว่า ตอนนี้ตระกูลซุน ช่วยฉันดูแลกิจการ เท่านั้น”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางเฉินยังคงไม่หายไปไหน เขามองไปที่ซุนซวี่ที่หลบอยู่ด้านหลังของเฉาจื้อ
เมื่อซุนซวี่เห็นว่าหยางเฉินมองมาที่ตน ร่างกายของเขาก็สั่นอย่างอดไม่ได้ เขาพูดด้วยฝืนความหวาดกลัวภายในจิตใจว่า“หยางเฉิน คุณชายเฉาพูดถูกแล้ว ทุกอย่างของตระกูลซุน ตอนนี้เป็นของคุณชายเฉา”
“และตระกูลซุนของเรา ก็ทำงานให้กับคุณชายเฉาเท่านั้น”
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันก็คือคนของคุณชายเฉา ถ้าแกรู้ตัว ฉันขอเตือนให้แกออกไปซะ”
“ไม่อย่างนั้นถ้าคุณชายเฉาโกรธ ผลที่ตามมามันจะร้ายแรงนะ!”
หยางเฉินหัวเราะ“หมาพึ่งพาบารมีคน?”