บทที่ 2041 โลกใบนี้บ้าบอเกินไปแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นก้มหน้าลงมองถังถัง แล้วเอ่ยด้วยความเอ็นดู “นอกจากแม่แล้ว ยังจะมีใครเป็นแม่ของถังถังลูกรักของแม่ได้อีกล่ะจ๊ะ ใช่ไหม?”
“อื้อ…” ถังถังพยักหน้าด้วยแววตาหนักแน่น คุณแม่พูดอะไรก็ถูกทั้งนั้น
….
“เวรเอ๊ย ฉันกำลังฝันอยู่งั้นเหรอ?”
เนี่ยอู๋หมิงมองวิดีโอที่ฉายบนโปรเจคเตอร์ จากนั้นก็เพ่งพินิจดูเยี่ยหวันหวั่นต่อ “รับไม่ได้! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอต่างหากที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของฉัน…โลกใบนี้บ้าบอเกินไปแล้ว!”
ในเวลานี้ เนี่ยหลิงหลงถลึงตาใส่ ‘เนี่ยอู๋โยว’ แวบหนึ่ง
นังโง่คนนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะลักพาตัวเยี่ยหวันหวั่น แถมยังถูกเยี่ยหวันหวั่นถ่ายวิดีโอไว้อีก!
แต่ที่น่าโมโหที่สุดคือ นังโง่คนนี้ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับตัวเอง หากเธอรู้ เรื่องราวจะพลิกผันจนกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง!
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเป็นตัวปลอม!”
นายหญิงเนี่ยมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ ด้วยสายตาเย็นชา
จนถึงตอนนี้ บนใบหน้าของ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ยังปรากฏแค่แววสับสนงุนงง
“เป็นไปไม่ได้…ในคุกใต้ดินมีอุปกรณ์ตรวจจับโลหะติดตั้งอยู่ ไม่น่าจะมีเครื่องบันทึกเสียงกับกล้องสอดแนมพวกนี้อยู่สิ!”
‘เนี่ยอู๋โยว’ มองไปที่เยี่ยหวันหวั่น
“ก็จริงนะ แต่วิดีโอพวกนี้น่ะ ฉันไม่ใช่คนถ่ายไว้หรอกนะ” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะหยัน
“ฉันถ่ายเอง”
อี้จือฮวามอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ เอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ตอนที่เข้าไปในคุกใต้ดิน ฉันปิดเครื่องเอาไว้ อุปกรณ์พวกนั้นย่อมตรวจจับไม่พบอยู่แล้ว รอจนฉันพ้นจากรัศมีของเครื่องตรวจจับ ถึงได้เปิดเครื่อง เธอคิดว่ายังไงล่ะ ยัยโง่”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็เหลือบมองอี้จือฮวาแวบหนึ่ง คนอื่นด่า ‘เนี่ยอู๋โยว’ ว่าโง่ก็แล้วไปเถอะ…แต่อี้จือฮวาน่ะ…เขาเอาอะไรมาบอกว่าคนอื่นโง่กัน?
‘เนี่ยอู๋โยว’ น่ะไม่ได้โง่หรอก เธอแค่มั่นใจในตัวเองจนหน้ามืดตามัว ส่วนเฟิงเสวียนอี้ก็ฉลาดเกินไปเท่านั้น
ในคุกใต้ดินมีการติดตั้งระบบป้องกันการบันทึกเสียงและถ่ายวิดีโอ ดังนั้น ‘เนี่ยอู๋โยว’ ถึงได้ไม่มีความเกรงกลัวเลย แต่เธอก็คาดไม่ถึงว่า อี้จือฮวาจะแปรพักตร์ได้ ซึ่งเป็นจุดที่ผิดพลาดที่สุดของเธอ และร้ายแรงที่สุดด้วย
“พ่อคะ…แม่คะ…”
จากนั้น ‘เนี่ยอู๋โยว’ ก็มีท่าทางว้าวุ่นเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่นายหญิงและหัวหน้าตระกูลเนี่ย
“ตัวปลอมอย่างเธอ หลอกพวกเรามานานขนาดนี้ เธอยังกล้าเรียกฉันว่าพ่ออีกงั้นเหรอ?!”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยตะคอกด้วยเสียงเยียบเย็น
“บัดซบ เธอกล้ามาตีหลานฉันก็ยังพอว่า แต่ใช้เงินตระกูลเนี่ยของเราไปมากมายมานานขนาดนี้ เธอรนหาที่ตายซะแล้ว!”
เนี่ยอู๋หมิงตะโกนก้อง จากนั้นก็กำหมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าของ ‘เนี่ยอู๋โยว’
ได้ยินเพียงเสียงดัง ‘ผัวะ’ ร่างของ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ลอยละลิ่วออกไปราวกับว่าวสายป่านขาด จากนั้นก็ร่วงลงบนพื้นอย่างแรง
มองเห็นเพียงว่าหลังจาก ‘เนี่ยอู๋โยว’ ร่วงลงบนพื้นแล้ว ร่างกายก็ชักกระตุกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงแน่นิ่งไปอย่างสมบูรณ์
“คงไม่ใช่ว่าตายไปแล้วนะ”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว ปิดตาของถังถังไว้ตามสัญชาตญาณ
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ก้าวไปหยุดข้างๆ ร่างของตัวปลอม ตรวจสอบดูเล็กน้อย จากนั้นก็พบว่า…
เจ้าบัดซบเนี่ยอู๋หมิง ชกเธอจนตายในหมัดเดียวจริงๆ ด้วย!
“แค่นี้ก็ขาดใจตายแล้วเหรอ คนแบบนี้จะใช่อู๋โยวน้องสาวของฉันได้ยังไง ถุย!” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยอย่างเหยียดหยาม
เยี่ยหวันหวั่นถึงกับพูดไม่ออก ไอ้โง่คนนี้นี่…
มุมปากของเนี่ยหลิงหลงยกเชิดขึ้นนิดๆ เนี่ยอู๋หมิง ยังคงโง่เง่าอยู่จริงๆ แต่ถึงยังไงก็ช่วยจัดการปัญหาให้เธอแล้ว ถ้าตัวปลอมคนนี้ไม่ตาย เกรงว่าฐานะของเธอคงจะถูกเปิดโปงออกมาด้วยเหมือนกัน ตอนนี้พอตายไปก็ไร้ซึ่งหลักฐานแล้ว
พอตัวปลอมถูกเนี่ยอู๋หมิงชกจนสิ้นใจตาย ทุกคนในงานก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีการหักมุมแบบนี้ด้วย!
“บ้าเอ๊ย พี่เฟิง พี่เป็นคนตระกูลเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่ก็คือเนี่ยอู๋โยว สมองของผมมีไม่พอใช้งานแล้ว แย่แล้ว สมองผมกำลังจะระเบิดแล้ว!” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความตะลึงงัน
————————————————
บทที่ 2042 ความแตกต่างระหว่างฐานะมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า
ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยทั้งหมดที่ติดตามเยี่ยหวันหวั่นมาเวลานี้ล้วนตะลึงงันกันหมดแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้นำของพวกเขาจะเป็นคุณหนูผู้ดีจากตระกูลเนี่ยที่เป็นผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ ความแตกต่างระหว่างฐานะนี้มากเกินไปหน่อยหรือเปล่า?
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในงานมอบตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยว่าเนี่ยอู๋โยวคนนั้นจะเป็นตัวปลอม
เวลานี้ สายตาของคนทั้งหมดที่อยู่ในงาน ต่างก็มองไปที่ร่างของเยี่ยหวันหวั่น
“ไม่มีทาง…ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย คือเนี่ยอู๋โยว นี่เป็นเป็นได้ยังไงกัน”
“จริงด้วย พันธมิตรอู๋เว่ยตั้งรกรากอยู่ในรัฐอิสระมานานหลายปี ชื่อเสียงฉาวโฉ่เลื่องลือ ไป๋เฟิงผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย จะกลายเป็นคุณหนูอู๋โยวแห่งตระกูลเนี่ยไปได้ยังไง!”
จากนั้น สมาชิกระดับสูงจากกลุ่มอำนาจขั้วหนึ่งก็มองไปที่หัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิง ประสานหมัดแล้วเอ่ยว่า “หัวหน้าตระกูล นายหญิงเนี่ย…นี่จะเป็นเรื่องหลอกลวงกันหรือไม่…”
พอนายหญิงเนี่ยได้ยินก็เหลือบมองคนที่พูดออกมาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หลอกลวงหรือไม่ พวกเราจะตัดสินเอง คุณไม่จำเป็นต้องพูดมากหรอก”
“นี่…ได้ครับ”
ในเมื่อนายหญิงเนี่ยพูดแบบนี้แล้ว หากจะตั้งแง่สงสัยกันต่อไป ไม่สู้ยกยอให้เกียรติเสียดีกว่า หากถึงเวลาแล้วล่วงเกินตระกูลเนี่ยกับพันธมิตรอู๋เว่ยพร้อมกันเข้า แบบนี้ก็ไม่น่าสนุกเท่าไรแล้ว
เวลานี้ ผู้อาวุโสใหญ่มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นอย่างใช้ความคิด ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ที่ช่วงหน้าที่ก่อนท่านผู้นำเอาแต่รบเร้าให้เขาดำเนินการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพ่อลูกไม่หยุดหย่อน…เกรงว่าการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพ่อลูกนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจาตระกูลเนี่ย
“เวรเอ๊ย พี่เฟิง ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่ก็คือเนี่ยอู๋โยว...คุณหนูรองตระกูลเนี่ย ครูฝึกปีศาจของโรงเรียนชื่อเยียน!” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้ามึนงง โลกใบนี้บ้าเกินไปแล้วจริงๆ สินะ?!
“เธอคือน้องสาวแท้ๆ ของฉันงั้นเหรอ?”
เนี่ยอู๋หมิงก็มองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้ามึนงงเช่นกัน “น้องสาวบุญธรรมกลายเป็นน้องสาวแท้ๆ ไปแล้วงั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ตอบอะไร
“แม่ครับ…”
ถังถังจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น มือน้อยๆ แสนอบอุ่นเกาะกุมเยี่ยหวันหวั่นไว้ไม่ยอมปล่อย
ดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงอุ้มถังถังไว้ในอ้อมแขน
“ท่านหัวหน้าตระกูล นายหญิงครับ…งานรับตำแหน่งผู้สืบทอดวันนี้ยกเลิกไปก่อนดีไหมครับ แล้วค่อยกลับไปคุยกันว่าจะเอายังไง”
เฟิงเสวียนอี้เอ่ยขึ้นมาเบาๆ
เวลานี้ หัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิงทั้งคู่ต่างก็จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งเฟิงเสวียนอี้เอ่ยซ้ำอีกครั้ง ถึงได้สติกลับมา แล้วประกาศยกเลิกงานรับตำแหน่งผู้สืบทอดครั้งนี้
หลังจากทุกคนไปกันหมดแล้ว ปฏิกิริยาแรกของนายหญิงเนี่ยก็คือมองไปยังเนี่ยหลิงหลง
นายหญิงเนี่ยยังไม่ทันพูดอะไร เนี่ยหลิงหลงก็ก้าวขึ้นมาทันที แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกผิด “ไม่คิดเลย…ว่าฉันจะถูกตัวปลอมคนนั้นหลอกเสียได้…แม่คะ พี่อู๋โยว ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน…”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเนี่ยหลิงหลงอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง เธอเล่นละครได้ไม่เลวเลยจริงๆ ท่าทางรู้สึกผิดคับข้องหมองใจนั้น แม้แต่ตัวเองก็แทบจะหลงเชื่อแล้วเหมือนกัน
ยังไงก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสำหรับจัดการเนี่ยหลิงหลง อีกอย่าง พวกเธอก็ไม่มีหลักฐานใดๆ เลยด้วย
ถึงแม้เนี่ยหลิงหลงจะเป็นคนหาตัวปลอมมา แต่พอพูดประโยคเดียวว่าตัวเองก็ถูกหลอกด้วยเหมือนกัน คนอื่นก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว
ผู้หญิงคนนี้ มิน่าละถึงซุ่มอยู่ในตระกูลเนี่ยมาได้นานขนาดนี้…
พอนายหญิงเนี่ยกับเจ้าบ้านเนี่ยได้ยิน ถึงแม้สีหน้าจะไม่ค่อยน่ามองนัก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ตอนนี้ความสนใจของคนทั้งสองล้วนอยู่ที่ร่างของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว
“สาวน้อย…หนู…ลูกคืออู๋โยวจริงๆ…ใช่จริงๆ ด้วย…” นายหญิงเนี่ยกุมมือเยี่ยหวันหวั่นไว้ด้วยความสั่นสะท้านนิดๆ
ในเวลานี้ เฟิงเสวียนอี้ได้ก้าวขึ้นมา แล้วเริ่มอธิบายว่า “นายหญิง ท่านหัวหน้าตระกูล ขออภัยอย่างยิ่งที่ไม่ได้บอกความจริงกับพวกท่านแต่แรก ในตอนนั้น คุณหนูตัวปลอมคนนั้นถูกแนะนำโดยเนี่ยหลิงหลงจึงได้รับความไว้วางใจจากทั้งสองท่านแล้ว อีกอย่าง ตอนนั้นเห็นได้ชัดว่าในตระกูลเนี่ยมีสายของเธออยู่ ไม่อย่างนั้นผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของเธอคงไม่ผ่านเกณฑ์หรอกครับ