ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 879 ป่าวประกาศฐานะงั้นหรือ?
สีหน้าของเส้นหมี่เต็มไปด้วยความงง
เธอไม่ได้ดูอะไรแปลกๆเสียหน่อย สิ่งเหล่านี้เธออ่านเจอในตำราแพทย์ชัดๆ
เส้นหมี่รีบหยิบตำราแพทย์ที่ตัวเองดูขึ้นมา เตรียมจะถ่ายรูปให้เขาดู เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้ดูอะไรแปลกๆ
แต่ว่า……
“มือและเท้าทั้งสองข้างยืดตรงๆตรงข้ามกัน?!”
เธอเบิกตาดวงสวยสดใสคู่นั้นขึ้นทันที เมื่อเห็นตัวหนังสือที่ตัวเองพิมพ์ผิดเพี้ยนไปหมด สีหน้าพะอืดพะอมอย่างที่สุด
【เส้นหมี่ : โทษทีนะ ที่รัก ฉันดูผิดน่ะ คือในตอนที่คุณยกขาขวาไปทางซ้าย ให้ออกแรงยืดแขนขวาไปทางขวา 】
【จุ๊บจุ๊บที่รัก : ……】
ขี้เกียจจะสนใจชัดๆ หลังจากที่ส่งข้อความวีแชตไป ก็ไม่ได้รับการตอบกลับเป็นเวลานานมาก
เมื่อเส้นหมี่เห็นดังนั้น จึงทุบหัวของตัวเองอย่างหัวเสีย
ทำไมไร้สมองขนาดนี้เนี่ย? พิมพ์ตามยังผิดได้
เธอจึงวางโทรศัพท์ลง แล้วจะไปทำอย่างอื่น
แต่ในขณะนั้น ในวีแชต จู่ๆก็มีกล่องสนทนาอีกอันแจ้งเตือนออกมา
【ม็อกโก : เส้นหมี่ เธอเห็นข่าวหรือยัง? ปาเวซฆ่าตัวตายแล้ว 】
【เส้นหมี่ : อะไรนะ? ฆ่าตัวตายหรือ?】
เมื่อเห็นข้อความวีแชตนี้ เธอก็ตกใจ
ที่จริงหลายวันมานี้เธอรอคอยบทสรุปของเรื่องนี้อยู่ตลอด ยังแอบส่งคนไปสอดแนมสถานการณ์ของทางไวท์ พาเลซด้วย กลัวว่าจะมีข่าวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อชายคนนั้น
แต่คิดไม่ถึงว่า เธอรอจนถึงตอนนี้ กลับได้สิ่งนี้มา
เธอรีบเปิดเว็บไซต์บนโทรศัพท์ แล้วกดเข้าไป จึงพบว่า เป็นแบบนั้นจริงๆ เธอมองข้ามโซเซียลไป เหตุการณ์ของผู้ฝังชิปเมื่อวานที่ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วประเทศ
ตอนนี้ ได้สงบลงมาแล้ว
และสิ่งที่ไปแทน คือข่าวฉาวของลูกชายของผู้นำสูงสุดแห่งไวท์ พาเลซ จู่ๆก็ฆ่าตัวตายเพราะกลัวจะต้องโทษ!
เป็นถึงลูกชายของผู้นำประเทศแต่ฆ่าตัวตายในสถานการณ์แบบนี้ มันต้องเป็นข่าวดังแน่นอน จนเครือข่ายแทบจะพังทลาย
【ม็อกโก : ฆ่าตัวตายเพราะกลัวต้องโทษ นี่คงเป็นวิธีจัดการเรื่องนี้ที่ดีที่สุดในตอนนี้ของไวท์รอน เมื่อลูกชายเขาตาย เรื่องนี้ก็สงบลงสักที เขาก็ได้ก้าวผ่านความอันตราย】
【เส้นหมี่ : ……】
เป็นเวลานาน มีภาพของเด็กหนุ่มผอมแห้งหน้าตาสวยงามปรากฏขึ้นในหัว เธอไม่รู้ควรพูดอะไรต่อ
ในที่สุดเขาก็ตายเสียแล้ว
ตายในเงื้อมมือของพ่อของเขา
ถ้างั้น ก่อนที่เขาจะตาย จะเคยคิดไหมนะ? เขาทำเพื่อพ่อของเขาไปมากมายขนาดนั้น สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมา ก็คือบทสรุปที่เขาถูกทอดทิ้งเหมือนเดิมหรือ?
เส้นหมี่นิ่งไปสักพักหนึ่ง จึงจะเริ่มส่งข้อความอีกครั้ง
【เส้นหมี่ : ถ้างั้นต่อไปไวท์รอนจะเปิดศึกกับตระกูลเทวเทพหรือเปล่า?】
【ม็อกโก : เขาไม่มีทางรามือแน่นอน แต่ตอนนี้เพิ่งจะผ่านความทรหดมา เขาเองก็ได้รับความเสียหายใหญ่หลวงเหมือนกัน คงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆใกล้ๆนี้หรอก】
【เส้นหมี่ : งั้นก็ดีแล้ว】
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก ขอแค่สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ตระกูลไวท์สวนกลับอย่างบ้าคลั่ง ถ้างั้นพวกเขาเองก็ยังพอมีเวลาเตรียมตัว
และแสนรักที่อยู่ในค่ายทหารในตอนนี้ ก็ปลอดภัยดี
เส้นหมี่จบบทสนทนานี้ลง ไม่คิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกชายคนนั้น แต่ติดต่อไปหาดลธีก่อน
เธอคิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเขาก่อน ให้เขารีบมาที่นี่ เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาคือคนที่เป็นฝ่ายเดียวกัน มีเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาเองก็จะมีกำลังเพิ่มขึ้นมา
“คุณนายน้อย คุณท่านให้มาเชิญค่ะ”
“หา?”
เส้นหมี่ที่เพิ่งจะกดเปิดแอคเคาท์ของดลธี เงยหน้าขึ้นมามองคนใช้ที่ขึ้นมาแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง
ไชยันต์ต้องการพบเธอ?
เรื่องอะไรกันนะ?
หรือว่าจะเป็น……?
จู่ๆเธอก็นึกภาพเหตุการณ์ที่ตาแก่คนนั้นกลับมาด้วยใบหน้ามืดมนได้ ก่อนที่ตัวเองจะขึ้นมา ทันใดนั้น ก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอกดโทรศัพท์แล้วออกมาทันที
“ได้สิ จะไปเดี๋ยวนี้”
จากนั้น เธอก็เดินลงมาจากชั้นบน
เป็นไปตามคาด เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่าง เธอมองเห็นไชยันต์นั่ง อยู่ตรงห้องโถงใหญ่แล้ว
แต่ว่า ข้างๆของเขา เธอยังเห็นใครบางคน
“หมี่ มานี่สิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
ไชยันต์มองมาทางเธอ แล้วโบกมือเรียก แสดงถึงให้เธอเข้าไป
ตาแก่คนนี้ ตั้งแต่ที่เธอกลับมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่แท้จริง ก็ดีกับเธอขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงตอนพูด หรือท่าที ไม่ได้เห็นว่าเธอเป็นคนนอกเลย
เส้นหมี่เดินเข้ามาแล้ว
“เธอคือคุณป้าพิมสองวันมานี้ พอทุกคนรู้ว่าเธอกลับมา ก็อยากจะทานข้าวด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทำความรู้จักกัน รวมถึงเด็กๆทั้งสามคนด้วย เธอคิดว่าอย่างไร?”
ไชยันต์ชี้ไปที่ผู้หญิงแปลกหน้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา แล้วขอความเห็นจากเธอ
หา?
เส้นหมี่อึ้งไปอีกครั้ง
ทานข้าว?
เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย ตระกูลเทวเทพนี้ จนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่ยอมรับว่ามันคือบ้านของพวกเธอ เชื่อว่าแสนรักที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้ก็เหมือนกัน
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นมีอะไรที่น่าป่าวประกาศล่ะ?
เส้นหมี่ยิ้มขึ้นแล้วพูดขึ้นอย่างอ้อมค้อม “ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่รู้ว่าคุณท่านทราบข้าวหรือยัง? เรื่องที่ปาเวซฆ่าตัวตายในวันนี้”
สีหน้าของไชยันต์เปลี่ยนไปทันที “เธอรู้แล้วหรือ?”
เส้นหมี่พยักหน้า “ค่ะ พี่ชายใหญ่บอกฉันเมื่อครู่นี้ เพราะฉะนั้น ฉันคิดว่าในเวลาแบบนี้ พวกเราอยู่เฉยหน่อยคิดว่าน่าจะดีกว่าค่ะ”
“หลานสะใภ้ เธอคิดแบบนี้ผิดแล้วนะ พวกเราเพียงแค่ครอบครัวทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้นเอง ไม่ได้จะโอ้อวดอะไรกับคนอื่น เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเป็นกังวลหรอก”