บทที่ 2045 ไม่ใช่จี้ซิวหร่าน
“อุบ! แค่กๆๆ” เยี่ยหวันหวั่นแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง “ไม่ใช่นะคะ…พ่อ แม่…ทั้งคู่เข้าใจผิดแล้วค่ะ!”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยกับนายหญิงเนี่ยมองหน้ากันเหลอหลา “เข้าใจผิดงั้นเหรอ หมายความว่ายังไง”
เยี่ยหวันหวั่นลูบศีรษะเล็กๆ ของถังถัง เอ่ยด้วยท่าทางจนปัญญา “พ่อคะ แม่คะ ใครบอกว่าพ่อของถังถังคือจี้หวงคะ”
นายหญิงเนี่ยเอ่ยด้วยสีหน้างุนงง “หรือว่าไม่ใช่กันล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเบาๆ ทีหนึ่ง “ก็ไม่ใช่จริงๆ นั่นแหละค่ะ…”
ตอนนี้ นายหญิงเนี่ยและหัวหน้าตระกูลเนี่ยตาค้างไปแล้ว
ทั้งสองคนรู้ดีว่าเมื่อก่อนลูกสาวของบ้านตัวเองชอบจี้ซิวหร่านมาก ประกอบกับจี้ซิวหร่านก็ดีกับถังถังเป็นอย่างมากมาโดยตลอด ทั้งสองใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก ถึงแม้จี้ซิวหร่านจะไม่เคยพูดออกมา แต่พวกเขาก็เข้าใจกันไปโดยปริยายแล้วว่าถังถังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของลูกสาวกับจี้ซิวหร่านแน่นอน
ใครจะไปรู้กันล่ะว่าไม่ใช่
“แย่แล้ว! พ่อของถังถังไม่ใช่จี้ซิวหร่านหรอกเหรอ” เนี่ยอู๋หมิงเผยสีหน้าตกตะลึง “งั้นถังถังเป็นลูกของแกกับใครกันล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นเงียบไปครู่หนึ่ง
เธอใคร่ครวญดูเล็กน้อย ถ้าตัวเองบอกว่าเป็นนายแห่งอาชูร่า พ่อแม่และเนี่ยอู๋หมิงจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกันนะ…
ช่างเถอะ ทำให้พวกเขาคลายสงสัยไปก่อนแล้วกัน
เยี่ยหวันหวั่นมองดวงหน้าน้อยๆ ของถังถังที่ดูละม้ายคล้ายกับใครบางคน แล้วเอ่ยออกไปว่า “ถึงยังไงก็ไม่ใช่จี้ซิวหร่านค่ะ พวกพ่อแม่เข้าใจผิดแล้ว เอาไว้ถ้ามีเวลา หนูจะพาพ่อของถังถังมาเจอพวกพ่อแม่นะคะ!”
นายหญิงเนี่ยเรียบเรียงถ้อยคำอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงจับมือเยี่ยหวันหวั่นไว้ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังจริงใจ “อู๋โยวจ๊ะ ถึงแม้ลูกจะไม่ได้ครองคู่กับซิวหร่าน แต่ลูกก็ห้ามหมดหวังกับตัวเอง แล้วไปคบผู้ชายซี้ซั้วเรื่อยเปื่อยไม่ได้เด็ดขาดนะ เข้าใจไหม?”
“ใช่แล้ว ลูกสาวของฉันเนี่ยไหวหลี่ ยังจะต้องห่วงเรื่องหาผู้ชายดีๆ ไม่ได้อีกเหรอ! ไอ้หนุ่มตระกูลจี้คนนั้นไม่ต้องตาลูก นั่นก็เป็นเพราะเขาเองที่ตาบอด!”
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกยิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก จึงเอ่ยตอบไปว่า “พ่อคะ แม่คะ พวกพ่อแม่วางใจเถอะค่ะ หนูจะไปคบผู้ชายซี้ซั้วได้ยังไง พวกพ่อแม่เห็นพันธุกรรมที่สมบูรณ์แบบของถังถังแล้ว ก็น่าจะรู้สิคะว่าพ่อของเขาน่ะเลิศมาก แถมยังหล่อมากด้วย! ที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเราสองคนรักกัน รักกันด้วยใจจริง ดังนั้นพวกพ่อแม่สบายใจได้เลยค่ะ!”
พอได้ฟังคำพูดนี้ สองผู้อาวุโสก็นับว่าโล่งอกแล้ว
เพียงแต่หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นกลับเต้นระรัวขึ้นมา
จบสิ้นแล้ว ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าเธอคือเนี่ยอู๋โยว งั้นซือเยี่ยหานก็ต้องรู้ด้วยแน่ๆ…
รู้ว่าเธอคือเนี่ยอู๋โยว รู้ว่าเนี่ยอู๋โยวมีสัญญาหมั้นหมายกับจี้ซิวหร่าน รู้ว่าเธอมีลูกชายหนึ่งคน มีลูกนอกสมรสกับจี้ซิวหร่าน…
ในเวลาเดียวกันนี้ ณ คฤหาสน์ออนเซ็นแห่งหนึ่งในรัฐอิสระ
ซือเยี่ยหาน เจียงหลีเฮิ่น เซี่ยเชียนชวนกำลังนั่งคุยธุระกันอยู่ที่โต๊ะหินใต้ต้นไม้ จู่ๆ ก็พลันมีเสียงฝีเท้าที่เร่งร้อนแว่วเข้ามา
หลินเชวียวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้าของซือเยี่ยหาน “พี่เก้า! เกิด…เกิดเรื่องแล้ว…เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
ซือเยี่ยหานขมวดคิ้วนิดๆ “เรื่องอะไร”
เจียงหลีเฮิ่นกับเซี่ยเชียนชวนต่างก็หันไปมองหลินเชวียตามสัญชาตญาณ
เจียงหลีเฮิ่นมองดูใบหน้าพื้นๆ ของหลินเชวียที่ผ่านการแปลงโฉมมาแล้วด้วยความรังเกียจ “จุ๊ๆ ฉันจะบอกให้นะหลินเอ้อร์ นิสัยเอะอะโวยวายของนาย เมื่อไรจะแก้ได้สักที”
“ครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่แบบฟ้าถล่มเลยเข้าใจไหม!” หลินเชวียไม่สนใจเจียงหลีเฮิ่น ผ่อนลมหายใจ แล้วกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “พี่เก้า ตอนนี้คนทั่วทั้งรัฐอิสระกำลังลือกันหมดแล้ว บอกว่าไป๋เฟิงผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยสิถึงจะเป็นเนี่ยอู๋โยวคุณหนูรองตระกูลเนี่ยตัวจริง! วันนี้ในงานสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเนี่ย แม่คนนั้นบุกเข้าไปพังงาน ได้ยินว่ามีวิดีโอเป็นหลักฐาน คนนั้นในตระกูลเนี่ยเป็นตัวปลอม เธอต่างหากที่เป็นตัวจริง ส่วนตัวปลอมคนนั้นถูกเนี่ยอู๋หมิงชกจนตายคางานไปแล้ว!”
————————————————————
บทที่ 2046 นี่นายเป็นชู้สินะ
หลังจากหลินเชวียเอ่ยรวดเดียวจบแล้ว บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดวังเวง…
เยี่ยหวันหวั่น…ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิง...คือคุณหนูรองตระกูลเนี่ยเนี่ยอู๋โยวงั้นเหรอ?
ข่าวนี้ไม่ว่าจะบอกกับใคร ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน
เจียงหลีเฮิ่นเด้งตัวขึ้นมาเป็นคนแรก “ไอ๊หยา ครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ! อาเยี่ย ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมียนายจะกลายเป็นคุณหนูตระกูลเนี่ยไปแล้ว”
เซี่ยเชียนชวนที่อยู่ข้างๆ ก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามด้วยความสงสัย “ไม่ใช่ว่า…เนี่ยอู๋โยวมีสัญญาหมั้นหมายกับจี้ซิวหร่านหรอกเหรอ?”
เจียงหลีเฮิ่นรีบเอ่ยต่อไปว่า “แค่นั้นซะที่ไหน ไม่ใช่แค่มีคู่หมั้นนะ แต่ยังมีลูกชายคนหนึ่งด้วย อายุสี่ห้าขวบแล้ว ถูกเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านตระกูลเนี่ยมาตลอด!”
เซี่ยเชียนชวนจึงเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “มีข่าวลือว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเนี่ยอู๋โยวกับจี้ซิวหร่านสินะ”
เจียงหลีเฮิ่นเดาะลิ้น แล้วโน้มตัวไปด้านหน้าของซือเยี่ยหาน ตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ดังนั้นถ้าให้ฉันสรุปแล้วละก็ อาเยี่ย...นี่นายเป็นชู้สินะ?”
ซือเยี่ยหาน “…”
….
บ้านตระกูลเนี่ย
นายหญิงเนี่ยและหัวหน้าตระกูลเนี่ยเอาแต่รั้งตัวเยี่ยหวันหวั่นไว้พูดคุยถามไถ่อยู่ตลอด อีกทั้งยังสั่งให้คนครัวจัดเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะด้วย
ระหว่างมื้ออาหาร พ่อบ้านหนุ่มคนนั้นที่เคยบังคับกักบริเวณของถังถัง แถมยังขัดขวางเยี่ยหวันหวั่นไม่ให้เธอพาถังถังออกไปข้างนอกก็ปฏิบัติกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
พ่อบ้านหนุ่มคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนของเนี่ยหลิงหลง
“ท่านหัวหน้าตระกูล นายหญิง คุณหนูอู๋โยวกลับมาได้อย่างปลอดภัย ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้า ช่างน่ายินดีจริงๆ เลยครับ!” พ่อบ้านหนุ่มเอ่ยแสดงความยินดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตอนนี้กลับไม่เอ่ยถึงเนี่ยอู๋โยวตัวปลอมที่เขาเคยออกปากปกป้องเลยสักนิด
ถึงแม้พ่อบ้านหนุ่มจะวิตกอยู่บ้างที่จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็กลับสู่ฐานะเดิมแล้ว เพียงแต่เขาทะนงตัวว่ามีเนี่ยหลิงหลงดันหลังอยู่ จึงไม่กังวลเรื่องที่เยี่ยหวันหวั่นจะสร้างความลำบากให้เขา
“เป็นความผิดของผมทั้งหมด ที่ถูกตัวปลอมคนนั้นตบตา มีตาหามีแววไม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมื่อก่อนจะจำคุณหนูไม่ได้! เพียงแต่ ฐานะของคุณหนูในตอนนั้นมีความพิเศษจริงๆ ผมจึงไม่อาจเชื่อมโยงคุณหนูกับคุณหนูอู๋โยวเข้าด้วยกันได้…” พ่อบ้านกล่าวด้วยสีหน้าที่คล้ายจะรู้สึกผิด
เวลานี้นายหญิงเนี่ยและหัวหน้าตระกูลเนี่ยกำลังอารมณ์ดี จึงเอาแต่คีบกับข้าวให้เยี่ยหวันหวั่นไม่หยุด พอได้ยิน หัวหน้าตระกูลเนี่ยจึงเอ่ยขึ้นว่า “เอาเถอะ วันนี้วันดี ห้ามพูดถึงเรื่องอื่นแล้ว”
จำลูกสาวของตัวเองผิดไป พ่ออย่างเขาสิที่ไม่ได้เรื่องที่สุด
“ครับๆๆ…” พ่อบ้านหนุ่มรีบเอ่ยคล้อยตาม จากนั้นก็พูดว่า “นายหญิงครับ เดี๋ยวผมจะไปจัดเตรียมห้องพักให้คุณหนูอู๋โยวใหม่นะครับ”
พอถังถังได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ไม่ต้อง คุณแม่จะนอนกับฉัน”
พ่อบ้านหนุ่มแย้มยิ้มแล้วตอบกลับทันทีว่า “คุณชายน้อยครับ นี่ขัดต่อกฎเกณฑ์นะครับ ผมยังคงต้องไปจัดเตรียมห้องพักใหม่ให้คุณหนูอู๋โยวถึงจะเหมาะกว่า”
พอถังถังได้ยินดังนั้น ใบหน้าน้อยๆ ก็พลันเยียบเย็นลง
เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ด้านข้างมองท่าทางของพ่อบ้านคนนั้นที่ทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง มุมปากตวัดขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน ลูบหัวของหนูน้อยถังถัง จากนั้นก็กล่าวว่า “ในเมื่อคุณชายน้อยออกคำสั่งกับนายไม่ได้ งั้นก็เปลี่ยนคนรับคำสั่งแล้วกัน”
เมื่อพ่อบ้านหนุ่มได้ยินประโยคนี้ ก็ผงะไปทันที ท่าทางแข็งทื่ออยู่บ้าง “คุณหนูอู๋โยว...คุณหนู…คุณหนูหมายความว่ายังไงครับ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างเฉยเมย “ทำไมล่ะ ฉันยังพูดไม่ชัดเจนพองั้นเหรอ ฉันจะเปลี่ยนพ่อบ้าน ได้ยินชัดไหม”
ดวงตาของพ่อบ้านหนุ่มคนนั้นฉายแววมืดมิดแวบหนึ่ง หันไปมองเนี่ยหลิงหลงที่อยู่อีกฝั่งของโต๊ะอาหารทันที “คุณหนูหลิงหลง ผมไม่ทราบเลยครับว่าผมทำอะไรผิดไป ทำไมคุณหนูอู๋โยวถึงจะไล่ผมออกล่ะครับ”
เมื่อเนี่ยหลิงหลงเห็นเยี่ยหวันหวั่นแสดงออกอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ ก็นึกเหยียดหยามอยู่ในใจ
……………………………………