ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 764 ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ชนะเจ้าได้อยู่ดี!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เห็นเสวียนมู่อ๋องติดตามเยี่ยนจ้าวเกออยู่ด้านหลังไม่ลดละ เยี่ยนตี๋สองคิ้วเลิกขึ้น ฟันดาบใส่ทันที!

เสวียนมู่อ๋องพิโรธโกรธกริ้ว “บังอาจนัก!”

“เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังอยู่ที่โลกเบื้องล่างอีกหรือ?”

“เรายอมรับว่าเจ้ามีพลังและพรสวรรค์ล้ำเลิศยิ่ง แต่นั่นคือเมื่ออยู่ในโลกแปดพิภพ!”

“หลังจากมาถึงโลกซ้อนโลก เจ้าก็เป็นแค่คนต่ำต้อยคนหนึ่งเท่านั้น!”

เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ละทิ้งเยี่ยนจ้าวเกอ ปะทะเข้ากับคมดาบของเยี่ยนตี๋

วรยุทธ์แท้เบญจอัคคีถูกกระตุ้นถึงขีดสุด แม้ว่าจะไม่มีหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือ แต่เจ็ดหอกสัตปักษาที่น่ากลัวก็เจาะทะลวงมิติในชั่วพริบตา

ญาณจริงแท้กลายเป็นเปลวเพลิงสูงเทียมฟ้า เผาไหม้ทั่วบริเวณ มิติเหมือนกับกำลังพังทลายทีละน้อยๆ

เสวียนมู่อ๋องพระเนตรเย็นชา จิตสังหารแน่วแน่ “เพราะเส้นทางไร้ขวากหนาม จึงทำให้เจ้าลืมใช้เหตุผลแล้วหรือ? ในโลกเบื้องล่าง เจ้าแกร่งกล้าไร้ข้อกริ่งเกรง แต่ที่นี่เจ้าไม่มีอะไรสักอย่างหนึ่ง!”

ทะเลเพลิงมากมายรวมตัวกันที่ปลายคมหอก สภาวะเหมือนดาวตกร่วงสู่ดิน!

เยี่ยนตี๋เลิกคิ้ว น้ำเสียงผ่อนคลาย “ที่นี่ ท่านคงไม่ถูกเขตแดนฟ้าดินกดพลังฝึกปรือไว้จริงๆ”

“แต่ข้าที่อยู่ที่นี่ แตกต่างกับก่อนหน้านี้เช่นกัน”

เขาชูมือออกดาบ แสงสีม่วงอันยิ่งใหญ่จับตัวกันกลายเป็นดาบผ่าฟ้า แข็งกร้าวอหังการ บดขยี้คมหอกของเสวียนมู่อ๋องอย่างเหี้ยมหาญ!

ประกายดาบนั้นเหมือนกับไม่อาจทำลาย คมดาบไปที่ใด สิ่งที่ขวางอยู่ล้วนแตกพ่าย

พลังระเบิดออกมา ไร้สิ่งใดกีดขวาง แหวกทะเลเพลิงด้วยสภาวะทำลายล้างทุกสิ่ง

อย่าว่าแต่เบื้องหน้าจะเป็นเปลวเพลิงลุกไหม้เลย ต่อให้เป็นเหล่าเทพเซียนในนรกหรือบนท้องฟ้า ขอแค่ขวางอยู่บนเส้นทางที่คมดาบมุ่งหน้า ก็จะถูกฆ่า ถูกทำลาย และถูกบดขยี้ไปด้วยกัน!

ดาบของเยี่ยนตี๋คล้ายกับผสมสภาวะยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งอยู่!

ฟ้าดินเปิดออก เกิดการโคจร สรรพสิ่งเปลี่ยนผัน มุ่งสู่ความพินาศ

เจตจำนงดาบของเขาไม่ใช่ความพินาศ การสังหาร และการทำลายล้างธรรมดา แต่เหมือนแนวโน้มการโคจรของฟ้าดิน และกระแสธารของโชคชะตา!

สิ่งที่หมายจะไหลทวนกระแสและต่อต้าน ล้วนถูกคลื่นที่มีสภาวะยิ่งใหญ่ดุจฟ้าดินนี้บดขยี้เป้นผุยผง!

ดังนั้นมันจึงไร้สิ่งใดขวางกั้น เพียงมุ่งไปด้านหน้า!

ไปด้านหน้า!

ไปด้านหน้าอีก!

เสวียนมู่อ๋องตกพระทัย มองสภาวะหอกจากเจ็ดหอกสัตปักษาของตนถูกเยี่ยนตี๋ใช้ดาบหนึ่งฟันทิ้งตาปริบๆ!

สิ่งที่ทำให้พระองค์ยากจะรับได้ปรากฏขึ้นด้านหน้า

ต่อให้กลับมายังโลกซ้อนโลก พระองค์ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยนตี๋!

พระองค์ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย ไม่อาจสู้จอมยุทธ์ที่เพิ่งหลอมจุดลมปราณเป็นเทวะ ลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลกได้ไม่นานได้!

พระองค์ในตอนนี้มีอาการบาดเจ็บ พลังที่อยู่ในสภาพสูงสุดยังไม่ฟื้นคืนมา แต่สิ่งที่ทำให้พระองค์หวั่นเกรงก็คือ พระองค์รู้ตัวดีว่าต่อให้อยู่ในสภาพสูงสุด แล้วสู้กับเยี่ยนตี๋ในตอนนี้ ก็ไม่มีความมั่นใจจะกุมชัยชนะมาได้อยู่ดี!

แม้ว่าจะเป็นเสวียนมู่อ๋องที่ผ่านคลื่นลมมรสุมมามากมาย ในตอนนี้ยังรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา

เยี่ยนตี๋ใช้ดาบเดียวเปิดฟ้า พลังอันยิ่งใหญ่ทำลายทะเลเพลิง เข่นฆ่ามาถึงเบื้องหน้าเสวียนมู่อ๋อง

เสวียนมู่อ๋องไม่กล้าประมาท ใช้หอกกระเรียนกายสิทธิ์ รีบหลบหลีกดาบที่ส่องประกายสีม่วงอันน่ากลัว

ดาบยาวสีม่วงเล่มหนึ่งในมือของเยี่ยนตี๋มีเงามังกรเวียนวน ส่งเสียงมังกรคำรามดังเป็นระลอก

รูปร่างภายนอกเหมือนกับอาวุธวิญญาณชั้นสูงดาบสวรรค์มังกรทะยานในอดีต แต่ว่าเจตจำนงดาบกับพลังด้านในกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

อาวุธวิญญาณชั้นสูงในอดีตแตกสลายไปแล้ว เศษชิ้นส่วนถูกเยี่ยนตี๋นมารวมกับซากฝูงมังกร ใช้เจตจำนงดาบของตัวเองลับคม สร้างดาบที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ขึ้นมา!

ชื่อยังคงเป็น…ดาบสวรรค์มังกรทะยาน

แต่มันก็ได้ผลัดเอ็นเปลี่ยนกระดูก ก้าวสู่โลกใบใหม่เหมือนเจ้านายของมัน

เยี่ยนตี๋เต็มไปด้วยความดุดัน เพียงโจมตีไม่ป้องกัน ดาบหนึ่งต่อด้วยดาบหนึ่ง ไม่ปล่อยโอกาสให้เสวียนมู่อ๋องได้พักหายใจ เข่นฆ่าใส่ดุจผลักเขาถมทะเล!

เสวียนมู่อ๋องได้แต่ถอยแล้วถอยอีก

“มาได้ดี!” เสวียนมู่อ๋องสงบจิตใจ ความรู้สึกต่างๆ เช่นความพิโรธ ความแค้น ความอับอาย ความตกตะลึงล้วนถูกกำจัดทิ้งจนสิ้น

พระองค์ใจเย็นลงอีกครั้ง เพียงครุ่นคิดถึงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือจะรับมือกับศัตรูตรงหน้าอย่างไร

ฉลองพระองค์ชิ้นหนึ่งบนร่างมีแสงหนาหนักสว่างขึ้นมา ยันต์นับพันนับหมื่นปรากฏขึ้นบนฉลองพระองค์!

เสื้อคลุมยันต์เซียนชิ้นนี้ เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางที่สามารถปรับพลังของตัวเอง และไปยังโลกเบื้องล่างได้ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ชิ้นในปัจจุบันนี้

ก่อนหน้านี้มันติดตามเสวียนมู่อ๋องลงไปยังโลกแปดพิภพ ที่พระองค์หนีจากโลกแปดพิภพได้ ของวิเศษชิ้นนี้ก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน

ในตอนนี้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางชิ้นนี้ สุดท้ายก็แสดงพลังของตัวเองออกมาทั้งหมด สะท้อนคุณสมบัติแรกเริ่มของตัวเองออกมา!

เสวียนมู่อ๋องตอนนี้ไม่กล้าประมาทอีก พระองค์ยกคนตรงหน้าขึ้นมาให้เท่ากับตัวเอง ถึงขั้นที่มองเป็นศัตรูที่แกร่งกว่าตัวเองด้วยซ้ำไป

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงถึงแม้จะว่าใช้พลังโดยสมบูรณ์ของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางได้ แต่อย่างไรคนก็บังคับอาวุธ ไม่ใช่อาวุธบังคับคน

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางที่อยู่ในมือของเสวียนมู่อ๋อง ซึ่งอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย ยิ่งมองเห็นอานุภาพเหนือธรรมดาได้มากกว่าเดิม

ยันต์นับหมื่นนับพันกลายเป็นฉากกำบังแสงหนาหนัก ช่วยเสวียนมู่อ๋องป้องกันคมดาบของเยี่ยนตี๋

เยี่ยนตี๋สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ต่อให้ท่านเปลี่ยนแปลงได้มากมาย มีความสามารถมหาศาล ข้าก็จะใช้ดาบเดียวทำลายทิ้ง!

ประกายดาบสีม่วงอันน่าพรั่นพรึงไปถึงที่ใด ยันต์นับหมื่นนับพันพากันแหลกสลาย กระจัดกระจายเป็นฝุ่นผง ทั่วบริเวณเป็นสีทองอร่าม มีหมอกเบาบางครอบคลุมฟ้าดิน

เยี่ยนตี๋จิตใจสั่นไหว พบว่าหมอกแสงนั้นคมกล้าขึ้น โจมตีมาทางตนพร้อมกันจากทั่วทุกทิศทาง กระจายตัวอยู่เต็มไปหมด

เขาใช้มือขวาถือดาบ ยังคงฟันออกอย่างเหี้ยมหาญ

พร้อมๆ กันนั้น เยี่ยนตี๋พลันอ้าปาก และสูดหายใจอย่างรุนแรง!

เหมือนกับปลาวาฬดูดน้ำ ละอองแสงไร้สิ้นสุดพลันถูกเยี่ยนตี๋ดูดเข้าไปในปาก แล้วโดนกลืนเข้าไปในท้อง!

เฉินจื้อเหลียงกับไป๋จื่อหมิงล้วนใบหน้าแข็งค้าง

ถ้าพวกเขาต้องรับมือละอองแสงนั้น หากไม่ป้องกันก็จะหลบเลี่ยง ไม่มีทางปล่อยให้ถูกตัวเด็ดขาด

แต่ว่าเยี่ยนตี๋ตรงหน้ากลับกลืนพวกมันลงท้องไปหรือ?

ระดับความอ่อนแอของอวัยวะภายในของคน เปราะบางยิ่งกว่าเส้นเอ็น กระดูก และผิวหนังมาก!

เสวียนมู่อ๋องเห็นดังนั้น ก็สูดพระลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง

หลังจากควบคุมเสื้อคลุมยันต์เซียนให้ฝืนป้องกันเยี่ยนตี๋แล้ว ผู้ปกครององค์ปัจจุบันของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง และยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกผู้นี้ ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง หมุนกายจากไปในทันที!

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องต่างพูดกันไม่ออกขณะมองภาพนี้

หลังจากตื่นตระหนก ทุกคนก็เหมือนตื่นจากฝัน ต่างหนีเตลิดกันไปไกล

เยี่ยนตี๋ฟันดาบออก ทำลายละอองแสงหนาหนักอีกครั้ง ฟันใส่เปลวเพลิงที่คุ้มครองเสวียมู่อ๋องอยู่

เสวียนมู่อ๋องครางหนักๆ คำหนึ่ง บาดแผลจากโลกแปดพิภพที่สมานตัวชั่วคราวเปิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้พระโลหิตไหลริน

พระองค์เพิ่มความเร็วมากกว่าเดิม หนีต่อไปโดยไม่หันพระเศียรกลับมา

สภาวะดาบของเยี่ยนตี๋รุนแรงขึ้นอีก อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำดาบสวรรค์มังกรทะยาน ยามนี้เริ่มสั่นไหวเบาๆ

“ท่านพ่อ ท่านเลื่อนเป็นขั้นเทวะสำแดง ดาบเล่มนี้สมควรสร้างใหม่ได้แล้ว!” เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นกลับหัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา “เดี๋ยวข้าจะหามาแทนให้เล่มหนึ่ง ท่านอาจจะไม่คุ้นมือ แต่ก็เป็นดาบดีอยู่”

เขาตบประตูวังฝูงมังกร “อวิ๋นเซิง!”

ด้านในวังฝูงมังกร เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์อาเจ้าสำนัก ขออนุญาตให้ศิษย์ได้ลักจำกระบวนท่าสองสองสามท่า”

กลิ่นอายมารเพลิงทมิฬพวยพุ่งออกมาจากในวังฝูงมังกรอย่างฉับพลัน ดาบสีดำที่เปล่งแสงสีฟ้า มีเปลวไฟสีดำลุกท่วมเล่มหนึ่งลอยไปด้านหน้าเยี่ยนตี๋

บนใบหน้าเย็นชาของเยี่ยนตี๋ปรากฏรอยยิ้มจางๆ เหมือนเมฆสลายตะวันขึ้น “ควรบอกว่าข้าอาศัยความดีความชอบของพวกเจ้าจึงจะถูก”

เขาเอียงคมหอกของดาบสวรรค์มังกรทะยานในมือขวาลง พลิกมือไพล่ไว้ด้านหลัง

มือซ้ายจับดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกที่ลอยมา ก่อนจะฟันออกหนึ่งดาบ!

ประกายดาบสีม่วงที่มีกลิ่นอายมารเพลิงทมิฬลุกท่วม สะท้อนฟ้าดินกลายเป็นสีม่วงเข้มในชั่วพริบตา

ประกายดาบที่ไม่อาจทำลาย ถล่มฟ้าดิน ติดตามเสวียนมู่อ๋องที่กำลังหนีไป!

………………..