ในครั้งที่ผ่านๆ มาการประลองใดของเทพสวรรค์ย่อมจะต้องถูกจัดขึ้นที่การประชุมยอดโอสถ
ในหมู่คนหนุ่มสาวทั้งหลายนั้นจึงไม่มีใครจะมีโอกาสได้เห็นเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทำการหลอมโอสถเลย
แต่วันนี้จอมเทพโอสถเจ็ดดาวถึงห้าคนต่างกำลังผสานกำลังกันออกมา มันจะต้องเป็นพลังที่รุนแรงน่าหวาดหวั่นสักเท่าใด?
ที่สำคัญเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนั้นต่างกำลังหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกออกมา ภาพตรงหน้านี้มันคือบทเรียนอันแสนสำคัญกับเหล่าจอมเทพโอสถหกดาวทั้งหลาย
จอมเทพโอสถเจ็ดดาวมาหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกนั้นมันเหมือนเอาดาบยาวมาฆ่าไก่
ในสายตาของเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่ไม่เคยเห็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทำการหลอมมาก่อนแล้วมันย่อมจะเป็นความตกตะลึงที่เหนือล้ำเกินบรรยาย
“ไม่ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจปานใด มันก็คงไม่มีทางต้านทางการร่วมแรงของจอมเทพโอสถเจ็ดดาวถึงห้าคนได้แน่ใช่ไหม? เจ้าหมอนี่มันอวดดีเกินไป!”
เมื่อได้เห็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวถึงห้าคนลงมือพร้อมๆ กันเช่นนี้คนทั้งหลายก็ได้แต่ส่ายหัวออกมา
สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันไม่ต่างจากตัวตลกในสายตาคนทั้งหลาย
เมื่อเทพสวรรค์เหวินหลานเห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น “หึๆ พี่เปียวหยู ท่านคงคำนวณพลาดแล้วใช่ไหม? ไม่ว่าเจ้าเด็กนี่มันจะเก่งกาจปานใด มันก็คงไม่มีทางชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวถึงห้าคนได้หรอก”
เทพสวรรค์เปียวหยูนั่งยิ้มไม่ตอบใดๆ กลับไป พร้อมด้วยใบหน้าแสนผ่อนคลายไร้ความกังวล
แม้จะเป็นคลื่นพลังเต๋าโอสถทั้งห้าอยู่ตรงหน้าเย่หยวนก็ไม่คิดจะตื่นตกใจใดๆ ทำแค่หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะวาดตราขึ้นมาในมือส่งแสงสว่างจ้าขึ้นระหว่างคลื่นพลังของเทพสวรรค์ทั้งห้า
นั่นทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปทันที!
เมื่อคลื่นพลังนี้ปรากฏ แน่นอนว่าพลังทั้งห้าสายของเทพสวรรค์ห้าคนนั้นมันย่อมไม่อาจเทียบเคียงได้
ความเจิดจ้าของมันนี้รุนแรงจนผู้คนทั้งหลายไม่อาจจะลืมตาขึ้นดูได้
หากคลื่นพลังของเทพสวรรค์ทั้งห้านั้นเป็นดวงดาว คลื่นพลังจากตัวเย่หยวนนี้มันก็เป็นดั่งดวงตะวัน!
ภายใต้แสงของตะวันนี้ดวงดาวใดๆ ย่อมดับแสงลง
มีเพียงหนึ่งเท่านั้นที่เจิดจ้า!
“ช่างเป็นคลื่นพลังที่รุนแรงนัก! จอมเทพโอสถหกดาวสามารถทำได้ถึงขั้นนี้เลยหรือ?”
“น่ากลัวนัก! ถึงกลับสามารถกดดันจอมเทพโอสถเจ็ดดาวห้าคนได้ด้วยพลังของจอมเทพโอสถหกดาว เย่หยวนผู้นี้มีเต๋าโอสถในอาณาจักรใดกัน? อาณาจักรเต๋าขั้นกลาง? ขั้นปลาย?”
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? จอมเทพโอสถหกดาวจะเก่งกาจปานนี้ได้อย่างไร?”
…
ภายในลานตอนนี้มันเกิดเสียงพูดคุยอย่างตื่นตะลึงขึ้นทั่ว
เหล่าจอมเทพโอสถหกดาวทั้งหลายในที่นี้มันมีนับหมื่นคน มีใครบ้างที่จะไม่เข้าใจถึงขีดจำกัดสิ่งที่จอมเทพโอสถหกดาวทำได้หรือไม่ได้
แต่สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันได้ทำลายความเข้าใจขีดจำกัดใดๆ ของพวกเขาทิ้งลงสิ้น
ที่แท้แล้วจอมเทพโอสถหกดาวกลับเก่งกาจได้ถึงขั้นนี้!
ภายในกลุ่มคนที่มองดูอยู่นั้นหยุนยี่เป็นคนเดียวที่แสดงสีหน้าขื่นขมออกมา
“พวกเรามันผิดไปหมด! ที่แท้เขาไม่ได้อวดอ้างใดๆ แต่เขานั้นแค่คิดว่าเราต่ำต้อยจนไม่อาจสนใจยุ่งด้วย แม้ว่าเราทั้งหลายจะเป็นจอมเทพโอสถหกดาวด้วยกันแต่พวกเราทั้งหลายนั้นไม่อาจมีคุณสมบัติพอจะไปท้าทายเขาได้เลย!”
เป็นเวลานี้นี่เองที่หยุนยี่ได้เข้าใจอย่างแท้จริงว่าท่าทางของเย่หยวนก่อนหน้านี้ใดๆ มันช่างเป็นเรื่องสุดแสนธรรมดา
สายตาของเย่หยวนนั้นไม่ได้มองดูไปที่คนรุ่นเดียวกันอีกต่อไปแล้ว
คนที่จะท้าทายเขาได้นั้นล้วนต้องเป็นเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาว ที่สำคัญพวกเขาทั้งหลายนั้นจะต้องเป็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวชั้นยอดด้วย
หากเป็นเช่นนั้นแล้วคำท้าทายใดๆ ของพวกเขามันก็ย่อมจะน่าขันอย่างแท้จริง
เทพสวรรค์จะคิดสนใจคำท้าทายของนภาสวรรค์หรือ?
เรื่องราวเช่นนั้นมันจะแตกต่างอะไรจากเวลาที่มีเด็กตัวน้อยเดินมาชี้หน้าบอก ‘ข้าจะชนะเจ้า’ กันเล่า?
ส่วนพวกลั่วเย่ทั้งหลายในเวลานี้ต่างตกตะลึงจนไม่อาจตั้งสติได้อีก
พวกเขานั้นได้เห็นวิชาฝีมือการโอสถของหนิงซืออวี๋และพ่ายแพ้ต่อนางจนหาทางกลับบ้านแทบไม่ถูก
ในตอนนั้นพวกเขาทั้งหลายยังคิดว่าหนิงซืออวี๋นั้นเป็นยอดคนมากพรสวรรค์หาตัวจับได้ยาก
แต่หากเอาหนิงซืออวี๋มาเทียบกับเย่หยวนแล้ว มันไม่ได้แม้แต่ฝุ่นเท้าของเขา!
ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดหนิงซืออวี๋ที่มากพรสวรรค์เช่นนั้นกลับยังก้มหัวเคารพเย่หยวนอย่างสุดใจ!
วิชาโอสถของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำจนมากพอที่จะเอาชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวส่วนมากได้แล้ว
เทพสวรรค์ดันหยู่ เทพสวรรค์ซืออี้ เทพสวรรค์เหลียวหมิง เทพสวรรค์เจาหยวนพวกเขาต่างมองดูแสงเจิดจ้านี้ด้วยตาเบิกกว้าง
ดูท่าแล้วพวกเขาเองก็จะตื่นตะลึงในศึกแรกของเย่หยวนมาก
เพราะนี่มันคือครั้งแรกที่เย่หยวนได้ลงมือหลอมโอสถในงานชุมนุมโอสถเมฆานี้ แต่มันกลับยิ่งใหญ่คนผู้คนคงไม่อาจลืมลงแล้ว
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งห้านั้นย่อมหน้าถอดสีจนขาวซีด พวกเขาทั้งหลายไม่เคยจะรู้สึกว่าตนเองตัดสินใจผิดพลาดขนาดนี้มาก่อน
เมื่อยอดฝีมือเริ่มปะทะ แพ้ชนะมันก็ตัดสินกันในพริบตา
ความผิดพลาดเล็กน้อยนั้นมันย่อมจะตัดสินผลได้ทันที
เมื่อเย่หยวนเริ่มลงมือ เขาก็ได้รับชัยชนะไปเสียแล้ว!
แน่นอนว่าด้วยความที่เทพสวรรค์หลงยี่ทั้งหลายเองก็มิใช่คนธรรมดาทั่วไป ต่อให้จะถูกกดดันพวกเขาก็ยังไม่พ่ายแพ้ในทันที
เพียงแค่ว่าความพ่ายแพ้ของพวกเขามันได้กลายเป็นเรื่องแน่นอนไปแล้ว!
เทพสวรรค์ทั้งห้านั้นไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ พลังกดดันนั้นของเย่หยวนไปได้เลย
หลังจากผ่านไปถึงสองชั่วโมง เย่หยวนก็ได้ดึงพลังกดดันกลับไปเพราะเขาหลอมโอสถเสร็จสมบูรณ์แล้ว!
คนอีกฝ่ายนั้นยังคงได้แต่ฝืนต่อไปอย่างขื่นขม
เย่หยวนมองดูที่เทพสวรรค์ทั้งห้าอย่างใจเย็น หลังจากเขาดึงพลังกลับมา ผ่านไปได้อีกหนึ่งชั่วโมงเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็หลอมโอสถจนเสร็จสมบูรณ์
เว้นเสียแต่ว่าตอนนี้มันจะไม่มีใครสนใจพวกเขาอีกแล้ว
ทุกสายตานั้นต่างจ้องมองไปยังเย่หยวน
ลงมือครั้งเดียวต้องตะลึงไปทั้งโลกหล้า!
ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างไม่มีใครเชื่อว่าเย่หยวนจะปะทะกับพลังของจอมเทพโอสถเจ็ดดาวได้
คำพูดของเขามันโอหัง อวดดีเกินตัวจนไม่อาจหาเหตุผล
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายนั้นได้รู้แล้วว่าเย่หยวนแค่พูดตามความเป็นจริงเท่านั้น!
ต่อให้จะมีใครเลือกเชื่อเย่หยวน พวกเขาก็คงไม่นึกว่าเย่หยวนจะชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวถึงห้าคนได้อย่างขาดลอยปานนี้
“สุดยอดเกินไปแล้ว! เก่งกาจเหลือเกิน! อายุแค่พันกว่าปีกลับสามารถมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำปานนี้ได้?”
“จอมเทพโอสถเจ็ดดาว! พวกเขาทั้งหลายนั้นคือจอมเทพโอสถเจ็ดดาว! ที่สำคัญยังมีถึงห้าคนด้วยกัน กลับแพ้พ่ายลงง่ายๆ เช่นนี้หรือ?”
“แค่นับผลการต่อสู้นี้มันยังจะมีใครกล้าบอกว่าเขาไม่คู่ควรกับตำแหน่งปรมาจารย์อีกเล่า?”
…
การลงมือครั้งเดียวนี้ของเย่หยวนมันสั่นสะท้านทั้งวงการโอสถแห่งแดนใต้
จากวันนี้ไปเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นจะมิใช่ตัวตนที่ไร้พ่ายอีกแล้ว!
ตอนนี้เมื่อพวกเขากำลังจะเปิดหม้อหลอม คนทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจอย่างลืมตัว
“เย่หยวน ขั้นเทวะม่วง!”
“เทพสวรรค์หลงยี่ ขั้นยอดเยี่ยมสุด!”
“เทพสวรรค์ปิงอ่าว ขั้นยอดเยี่ยม!”
…
เหล่าปรมาจารย์ได้เปิดดูหม้อหลอมของเย่หยวนและคนอื่นๆ นอกจากตัวหลงยี่ที่หลอมได้ถึงขั้นยอดเยี่ยมสุดแล้ว คนอื่นๆ นั้นกลับหลอมได้เพียงแค่ขั้นยอดเยี่ยมธรรมดาเท่านั้น ไม่มีใครขึ้นถึงขั้นสวรรค์เสียด้วยซ้ำ
จอมเทพโอสถเจ็ดดาวหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกนั้นด้วยฝีมือของพวกหลงยี่ทั้งหลายแล้วอย่างน้อยๆ มันก็ต้องให้ถึงขั้นสวรรค์
ต่อให้เป็นขั้นเทวะมันก็มิใช่เรื่องยากเย็นใด
แต่วันนี้พวกเขากลับถูกเย่หยวนกดดันจนไม่อาจจะหลอมถึงขั้นสวรรค์ได้ด้วยซ้ำ
นั่นทำให้เทพสวรรค์หลงยี่แทบวางหน้าไม่ถูก เขาได้แต่หันหน้าเดินหนีกลับไปนั่งทันที
ตอนนี้เขารู้สึกเสียหน้าอย่างไม่มีทางกู้กลับได้ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะถูกจอมเทพโอสถหกดาวกดดันจนถึงระดับนี้
“หึๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่เปียวหยูถึงมั่นใจนัก ปรมาจารย์เย่นี้ประมาทไม่ได้จริงๆ แต่ทว่า… ด้วยฝีมือแค่นี้หากคิดจะนั่งตำแหน่งปรมาจารย์แล้วมันคงยังไม่พอ!”
บนที่นั่งเหล่าเทพสวรรค์นั้นเทพสวรรค์เหวินหลานได้กล่าวขึ้นขัด
สภาพของเย่หยวนในเวลานี้ ตัวเขาเองย่อมจะทำได้ และทำได้ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเทพสวรรค์หลงยี่นั้นก็นับได้ว่ามีฝีมือกลางๆ ในหมู่เทพสวรรค์ทั้งร้อยคน
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรมันก็ไม่อาจปิดบังความเจ็บใจในน้ำเสียงของเขาได้
ดูท่าแล้วฝีมือของเย่หยวนนี้มันคงจะเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมากจริงๆ
………………………