ตอนที่ 707 บุปผามีน้ำใจ สายน้ำไร้ไมตรี

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ริมฝีปากบางของจีเฉวียนถึงกับขยับโค้ง ซิงซิงของเขาช่างน่ารักจริง 

 

 

เขาพอใจในความยึดครองอย่างบ้าอำนาจและไร้เหตุผลเช่นนี้ของนางมาก 

 

 

ท่านผู้เฒ่าตู๋กูเกือบจะยกไม้กวาดประจำตัวที่วางอยู่ข้างมือขึ้นมาเสียแล้ว 

 

 

มิน่าเล่าหลายปีมานี้เจ้าใหญ่ถึงได้ไม่ยอมแต่งงาน ตนไม่ทันได้คิดถึงรสนิยมความชอบของเขาเลย 

 

 

ตอนนี้พอถูกหลันหลันทักขึ้นมา สมองของท่านผู้เฒ่าก็เชื่อมต่อภาพได้อย่างรวดเร็วขึ้นมาในทันที ไอ้เจ้ากระต่ายเปรียวนี่ ที่แท้มันก็ชอบบุรุษรึ? 

 

 

พอเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดจนย่ำแย่ของท่านผู้เฒ่า ตู๋กูจุนก็รีบส่ายศีรษะในทันที เขาเกือบจะเข้าไปตะครุบปากที่กล่าววาจาเหลวไหลของตู๋กูซิงหลันเอาไว้แล้ว 

 

 

น้องเล็กคิดจะขุดหลุมพรางฆ่าเขาหรืออย่างไร? 

 

 

เขาจะไปชอบจีเฉวียนได้ยังไง? 

 

 

มือของเขายังไม่ทันจะยื่นออกไป ก็ถูกสายตาที่เย็นชาจนเหน็บหนาวของจีเฉวียนทิ่มแทงจนเจ็บปวดแล้ว 

 

 

ตู๋กูซิงหลันกอดจีเฉวียนแนบแน่นกว่าเดิม “พี่ชายคนงามเป็นของข้านะ ใครก็ไม่ให้ทั้งนั้น!” 

 

 

มือของนางที่ยังมันเยิ้ม ปาดไปทั่วร่างกายของจีเฉวียน จีเฉวียนที่รักความสะอาดอย่างรุนแรงมาโดยตลอด กลับมิได้ขุ่นเคืองเลยสักนิด เขาเพียงหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งมาจากที่ใดก็ไม่รู้ ค่อยๆเช็ดมือให้นางอย่างบรรจง 

 

 

กริยาเช่นนั้น ดูราวกับบิดาที่ดูแลบุตรสาวก็ไม่ผิด 

 

 

“ข้าเป็นของเจ้า พวกเขาแย่งไปไม่ได้หรอก” ทางหนึ่งเช็ดมือให้กับนาง อีกทางก็เอ่ยกับนางอย่างอ่อนโยน 

 

 

ว่าแล้วก็ยังชมไปอีกคำ “เด็กดี~” 

 

 

ในชั่วขณะนั้น ท่านผู้เฒ่าตู๋กูพลันรู้สึกว่า หากว่าหลานชายคนโตของตนเองรู้จักเอาอกเอาใจสตรีให้ได้สักครึ่งของจีเฉวียน ตัวเขาก็คงจะได้อุ้มเหลนไปตั้งนานแล้ว! 

 

 

ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งเห็นก็ยิ่งยากจะจับมันโบยกับพื้นสักชุด 

 

 

เมื่อจีเฉวียนเอ่ยเช่นนี้ ตู๋กูซิงหลันย่อมดีใจกว่าเดิม ขนาดจะกินข้าว ก็ยังต้องเข้าไปมุดอยู่ในอ้อมแขนของเขา อย่างเอาแต่ใจ 

 

 

ตู๋กูจุนถูกท่านผู้เฒ่าฟาดไปหนึ่งไม้กวาดย่อมๆ 

 

 

“วันนี้เจ้าจะต้องให้คำตอบกับองค์หญิงใหญ่และแม่นางหยวนเมิ่ง! ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็อย่าได้เหนี่ยวรั้งช่วงเวลาอันงดงามของผู้อื่น บุรุษตระกูลตู๋กูเรา กระทำการมีเหตุผลและชัดเจน เจ้ามายื้อๆยุดๆไปมา สมกับที่เป็นคนตระกูลตู๋กูแล้วหรือ?” 

 

 

ท่านผู้เฒ่าถึงกับสั่งสอนตู๋กูจุนต่อหน้าผู้อื่นไปรอบหนึ่ง 

 

 

เขาเป็นผู้ผ่านประสบการณ์มาก่อน จิตใจขององค์หญิงใหญ่และแม่นางหยวน มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจ? 

 

 

เจ้าหลานเต่าผู้นี้ มีความสุขอยู่กับตัวก็ยังไม่รู้เรื่อง สิ้นเปลืองน้ำใจของแม่นางทั้งสองไปเสียเปล่า! 

 

 

พอท่านผู้เฒ่าเอ่ยปาก ตู๋กูเจวี๋ยก็ช่วยกระพือลมจุดไฟอยู่ข้างๆ “ใช่แล้ว พี่ใหญ่ ท่านต้องพูดออกมาให้ชัดเจน อย่าได้อมพะนำอยู่ ท่านดูตัวข้าที่เป็นน้องชายของท่าน ข้าชอบชือหลี ต่อให้นางเป็นเพียงงูตัวหนึ่งข้าก็ยังชอบ! ท่านต้องเด็ดขาดให้ได้อย่างข้าสิ! 

 

 

หากว่าตู๋กูซิงหลันยังมีสติปัญญาแจ่มใสละก็ จะต้องสั่งสอนเขาแน่ ชือหลีเป็นถึงองค์หญิงมังกรทะเลตะวันตก เขากลับกล้าว่านางเป็นเพียงงูตัวหนึ่ง! 

 

 

ตู๋กูจุนถูกคนในครอบครัวบีบจนกลายเป็นเป็ดขึ้นเขียงไปแล้ว 

 

 

ส่วนจีฉุนกับหยวนเมิ่ง คนหนึ่งก้มศีรษะลงไป อีกคนก็เหลือบตามองมา 

 

 

จีฉุนมิได้ปฏิเสธ หยวนเมิ่งยิ่งกล้าแสดงออก 

 

 

เดินทีนางก็เป็นสตรีที่เกิดและเติบโตในแดนหนานเจียง กระทำเรื่องใดล้วนตรงไปตรงมาและเปิดเผยอยู่แล้ว นางถูกใจตู๋กูจุน ชื่นชอบขนหน้าอกของเขา ช่วงที่ผ่านมานี้ แทบจะเอ่ยปากบอกชอบเขาออกไปอยู่แล้ว 

 

 

ในเมื่อคืนนี้กระดาษที่ถูกปิดไว้บนหน้าต่างถูกฉีกออกไปแล้ว นางก็ไม่มีความจำเป็นต้องห่วงหน้าพะวงหลังอะไรอีก 

 

 

ดวงตาคู่นั้นจดจ้องไปที่ตู๋กูจุน กระแอมนิดนึง ก็เอ่ยว่า “ท่านแม่ทัพ หยวนเมิ่งชอบท่านมานานแล้ว” 

 

 

แค่ประโยคเดียว ทั่วทั้งห้องก็กลายเป็นความเงียบกริบ 

 

 

ทั้งหมดคิดไม่ถึงเลยว่า สาวน้อยนางนี้จะมีความใจกล้าขนาดนี้ ถึงกับสารภาพรักตู๋กูจุนต่อหน้าผู้คนทั้งหมด 

 

 

บนแผ่นดินโบราณ เหล่าสตรีล้วนต้องสงบเสงี่ยม ต่อให้ในใจมีคนรักอยู่ ก็ไม่มีทางพูดออกมาได้ง่ายๆ เพราะนั่นจะเท่ากับเป็นการลดคุณค่าของตนเอง จึงทำให้แทบจะไม่มีสตรีใดกล้าเป็นฝ่ายแสดงออก 

 

 

แต่ว่าหยวนเมิ่งนั้นไม่เหมือนกัน 

 

 

แม้แต่ตู๋กูเจวี๋ยยังรู้สึกนับถือนางขึ้นมา 

 

 

นัยตาขององค์หญิงใหญ่ ต้องมีประกายอัศจรรย์ใจขึ้นมา นางคิดไม่ถึงว่า หยวนเมิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจากปาก….. 

 

 

นางกับตู๋กูจุนนั้น ต้องถือว่าเติบโตขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ต่อมาเพราะเรื่องของอาซู่ทำให้เข้าใจเขาผิดไปนานหลายปี….. 

 

 

แต่ว่าใจคนนั้นสร้างจากเนื้อ ตลอดหลายปีมานี้ ตู๋กูจุนดูแลพวกนางแม่ลูกอย่างไม่มีขาด พอเรื่องของอาซู่เปิดเผยความจริงออกมา ใจของนางก็รู้สึกละอายต่อตู๋กูจุนอย่างยิ่ง 

 

 

ความละอายใจนี้ ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก….บางทีอาจเป็นความชอบ หรืออาจเป็นความต้องการที่พึ่งพิง หรือบางที….อาจเป็นเพราะซุ่นเอ๋อร์ควรได้รับความรักจากบิดา 

 

 

นางจำเป็นต้องหาบิดาให้กับซุ่นเอ๋อร์ 

 

 

นางเองก็ไม่ค่อยเข้าใจจิตใจของตนเองสักเท่าไหร่ อีกทั้งความรู้สึกเหล่านี้ถูกกดทับเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจมาเนิ่นนาน จึงไม่อยากจะเปิดเผยออกมา 

 

 

เปรียบเทียบกับหยวนเมิ่งแล้ว….นางเก็บงำทุกสิ่งไว้มากเกินไป 

 

 

ตั้งแต่ต้นจนจบจีฉุนไม่ยอมพูดอะไร เพียงกระพริบตาเบาๆ อาศัยประกายตามองไปนางตู๋กูจุน 

 

 

ตู๋กูจุนตะลึงอยู่ครึ่งค่อนวัน 

 

 

เขาเป็นแม่ทัพผู้พิชิต รูปร่างสง่างามสูงใหญ่ ย่อมต้องมีหญิงสาวมาชื่นชอบไม่น้อย 

 

 

แต่เขาเกิดมาถึงตอนนี้ พึ่งจะเคยได้ยินสตรีมาสารภาพรักตนเองกับหูเป็นครั้งแรก สมองของเขาถึงกับขาวโพลนไปในทันที 

 

 

แม่นางหยวนเมิ่งจะมาชอบเขาได้อย่าไร? 

 

 

เขาเข้าใจมาตลอดว่า….นางสนิทสนมกับน้องเล็กจึงได้ดีกับเขามากสักหน่อย 

 

 

ผ่านไปพักใหญ่ ยังไม่เห็นเขาตอบอะไร หยวนเมิ่งก็มิได้เขินอาย นางยิ้มอย่างงดงาม “ท่านแม่ทัพไม่จำเป็นต้องแปลกใจถึงเพียงนี้ หากว่าท่านพอใจในตัวข้า หยวนเมิ่งก็ยินดีจะติดตามท่านไปชั่วชีวิต หากว่ามิได้พอใจ หลังจากที่ไทเฮาน้อยอภิเษกแล้ว หยวนเมิ่งก็จะจากไป ชั่วชีวิตนี้ไม่มารบกวนอีก” 

 

 

กระดาษปิดหน้าต่างถูกฉีกขาดออกไปแล้ว หากว่าเขาไม่อาจยอมรับตน ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองหากจะกลับไปเป็นเช่นเมื่อก่อน ก็คงเป็นไปได้ยาก 

 

 

หยวนเมิ่งก็มีศักดิ์ศรีของตนเอง ย่อมไม่มีทางพัวพันเขาโดยมิยอมเลิกรา 

 

 

หวังฉายที่อยู่บนข้อมือของนางแลบลิ้นแผลบๆออกมา มันได้แต่แอบสงสารหยวนเมิ่ง 

 

 

เช่นนี้ แม้แต่จีเฉวียนก็ยังต้องมองดูหยวนเมิ่งอีกแวบหนึ่ง 

 

 

ครั้งแรกที่เขาได้เจอหยวนเมิ่ง นางยังเป็นเพียงเม็ดถั่วอยู่เลย ….แต่ก็ดูคมคายไม่น้อย 

 

 

และแม้เมื่อแดนหนานเจียงล่มสลาย ก็ยังไม่อาจบดบังความภาคภูมิใจในตนเองของนางได้ 

 

 

ความภาคภูมิใจและความรักอิสระนี้ แม้ผ่านช่วงเวลามานานหลายปี ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง 

 

 

เขาเห็นแก่ท่านอ๋องผู้เป็นบิดาของหยวนเมิ่งทำคุณประโยชน์เพื่อแคว้นต้าโจว จึงได้มอบศักดิ์ฐานะและความร่ำรวยให้กับนาง 

 

 

ยามนี้ ดวงตาหงส์ของจีเฉวียนกำลังหรี่ลง แต่ก็ไม่มีใครสังเกตว่า นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามาในห้อง ผลึกส่องมารก็เรืองแสงขึ้นมา แสงที่แข็งแกร่ง 

 

 

นอกจากจีเฉวียนแล้ว ไม่มีผู้ใดมองเห็นแสงสว่างนั้น 

 

 

ครู่ใหญ่ ตู๋กูจุนถึงค่อยรู้สึกตัวขึ้นมา เขามองดูหยวนเมิ่ง ประกายแสงในดวงตาของสาวน้อย สุกใสจนผู้คนต้องรู้สึกเจ็บปวด 

 

 

ต่อให้ผู้คนอยากจะปฏิเสธ ก็ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมาตรงๆ 

 

 

“แม่นางหยวน ข้า…. เกรงว่าคงจะทำให้ความชื่นชอบของเจ้าต้องผิดหวังแล้ว” 

 

 

ตู๋กูจุนอึกอักอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็ยอมพูดออกมา 

 

 

หยวนเมิ่งนั้นงดงาม นางสมควรได้เจอกับสามีที่พร้อมจะรักนางและปกป้องนางไปชั่วขีวิต มิใช่มาเสียเวลาอยู่กับเขา 

 

 

ในใจของเขามีองค์หญิงใหญ่อยู่แล้ว จึงไม่อาจมีพื้นที่ให้กับนาง 

 

 

ตู๋กูจุนคิดอยู่เหมือนกัน บางที……หากว่าได้เจอกับหยวนเมิ่งก่อนที่จะได้เจอกับจีฉุน เรื่องระหว่างพวกเขาก็อาจจะมีจุดจบอีกแบบหนึ่ง 

 

 

……………………